One of the myths that surround comm

One of the myths that surround commercial fertilizers is that the salts they contain are “harsh” on the
biology of the soil. The reality is that salt is essential to all of life. Either too much or too little can harm. Are fertilizers indeed too salty?
Fertilizer salts form soluble ions in soil water. Increased concentration of ions increases osmotic pressure
and decreases water potential, making it harder for plants to take up water. This is why plants affected by “fertilizer
burn” look about the same as if they had been stricken by drought. They can’t get the water, because there’s too
much salt in it.
Fertilizer doesn’t have to burn, though. It’s all a matter of dosage. Plants can’t grow without salt, either. The
nutrients they need are salts. The dissolved ions are exactly the form they take up. As long as the dosage is controlled, there is no harm applying a salt to the soil.
The kind of salt is important. Specific salt ions have greater effects than others. The ammonium ion in
particular can release free ammonia, especially at higher soil pH. Ammonia moves directly into plant cells. High
concentrations can prevent root growth and even kill seedlings. On the other hand, phosphate ions hardly pose a salt
hazard at all, since they never get to high concentrations in soil water.
Salt is often associated with sodium, because common table salt is sodium chloride. Sodium ions can
destroy soil structure and clog the flow of soil water. But there’s hardly any sodium in most commercial fertilizers.
The chloride ion is one of the most soluble. Grapevines, woody trees, and many legumes are sensitive to it.
Research in the southern states showed some soybean varieties to be sensitive to chloride. But research in many
other places has found muriate of potash (potassium chloride) to be an effective source of potassium for soybeans
grown in deficient soils. And crops like wheat and corn show great benefits from fertilizing with chloride.
Several fertilizers aren’t truly salts. Urea, for example, is a soluble substance that isn’t a salt. Nevertheless,
its solubility means it can have an osmotic effect, just like any other fertilizer. It also quickly decomposes to form a
salt–the ammonium ion. Elemental sulfur is neither salt nor soluble–but it oxides into sulfate, a salt.
Manures and composts contain inorganic salts, organic salts, and insoluble organic forms of nutrients.
But their salt content per unit of nutrient may not differ much from fertilizer, since their nutrient content is a lot lower,
and they contain salts not necessarily needed for the crop. Also, as they decompose, the nutrients turn into salts.
How to avoid salt injury? Guidelines for safe rates are specific for each crop and are based on distance from
the seedling, soil texture, soil moisture content, and the specific ions in the nutrient source. For ammonium, soil pH is
an additional consideration.
A high salt content is a consequence of a unique advantage commercial fertilizers possess. Using
sources with concentrated soluble nutrients cuts transportation costs–less fuel is wasted in transporting non-nutritive
material. In order to utilize that advantage, commercial fertilizers need to be applied at judicious rates.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งในตำนานที่ล้อมรอบค้าปุ๋ยคือเกลือที่ประกอบด้วย "รุนแรง" ในการชีววิทยาของดิน ความจริงก็คือ เกลือที่มีความสำคัญทั้งหมดของชีวิต อย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป หรือน้อยเกินไปสามารถทำอันตราย ปุ๋ยเค็มเกินจริงไปบ้างปุ๋ยเกลือฟอร์มไอออนที่ละลายในน้ำดิน เพิ่มความเข้มข้นของไอออนเพิ่มความดันออสโมติกและลดน้ำมีศักยภาพ ทำให้มันยากขึ้นสำหรับการใช้น้ำของพืช นี่คือเหตุผลที่พืชได้รับผลกระทบ โดย "ปุ๋ยเขียน"มองเท่ากับว่าพวกเขาได้จง โดยภัยแล้ง พวกเขาไม่สามารถได้รับน้ำ เนื่องจากมีมากเกินไปเกลือมากในปุ๋ยไม่มีการเผาไหม้ แม้ว่า มันเป็นเรื่องของการให้ยา พืชไม่สามารถเจริญเติบโตโดยไม่ใส่เกลือ อย่างใดอย่างหนึ่ง การสารอาหารที่จำเป็นมีเกลือ ว่าแบบฟอร์มที่มีใช้ไอออนละลายน้ำได้ ตราบใดที่ยาถูกควบคุม มีอันตรายไม่ใช้เกลือในดินชนิดของเกลือมีความสำคัญ เฉพาะเกลือไอออนมีผลมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ ไอออนแอมโมเนียในโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถปล่อยแอมโมเนียฟรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ค่า pH ของดินสูง แอมโมเนียย้ายลงในเซลล์พืชโดยตรง สูงความเข้มข้นสามารถป้องกันการเติบโตของราก และแม้กระทั่งฆ่าต้นกล้า บนมืออื่น ๆ ไอออนฟอสเฟตแทบไม่ก่อให้เกิดเป็นเกลืออันตรายที่ เนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้รับความเข้มข้นสูงในน้ำดินเกลือจะเกี่ยวข้องกับโซเดียม เนื่องจากพบเกลือ โซเดียมคลอไรด์ โซเดียมไอออนสามารถทำลายโครงสร้างของดิน และการอุดตันการไหลของน้ำดิน แต่ปุ๋ยส่วนใหญ่มีโซเดียมแทบไอออนคลอไรด์เป็นหนึ่งละลายน้ำได้มากที่สุด Grapevines ต้นไม้ยืนต้น และถั่วต่าง ๆ มีความไวต่อการงานวิจัยในอเมริกาใต้พบว่าบางสายพันธุ์ถั่วเหลืองการรับคลอไรด์ แต่งานวิจัยในหลายสถานที่พบ muriate ของ potash (โพแทสเซียมคลอไรด์) เป็น แหล่งมีประสิทธิภาพของโพแทสเซียมสำหรับถั่วเหลืองปลูกในดินที่ขาด และพืชเช่นข้าวสาลีและข้าวโพดแสดงประโยชน์มากจากการใส่ปุ๋ยกับคลอไรด์ปุ๋ยหลายไม่เกลืออย่างแท้จริง ยูเรีย เช่น เป็นสารละลายที่ไม่มีเกลือ อย่างไรก็ตามการละลายหมายความว่า มันสามารถมีผลน้ำ เหมือนปุ๋ยอื่น ๆ มันยังสลายตัวไปที่แบบฟอร์มการในเกลือแอมโมเนียไอออน ธาตุกำมะถันเป็นเกลือ ไม่ละลาย – แต่มันออกไซด์เป็นซัลเฟต เกลือเป็นManures และ composts ประกอบด้วยเกลืออนินทรีย์ เกลืออินทรีย์ และรูปอินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำของสารอาหารแต่เนื้อหาของเกลือต่อหน่วยของสารอาจแตกต่างมากจากปุ๋ย เนื่องจากเนื้อหาของสารอาหารต่ำมากและประกอบด้วยเกลือไม่จำเป็นต้องจำเป็นสำหรับพืช นอกจากนี้ เป็นพวกเขาสลาย สารอาหารเปลี่ยนเป็นเกลือวิธีการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเกลือ แนวทางสำหรับเซฟเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละพืช และตามระยะทางจากต้นกล้า เนื้อดิน ความชื้นดิน และไอออนเฉพาะในแหล่งสารอาหาร สำหรับแอมโมเนีย วัดค่า pH ของดินเป็นการพิจารณาเพิ่มเติมมีปริมาณเกลือสูงเป็นผลจากประโยชน์เฉพาะที่มีค้าปุ๋ย โดยใช้แหล่งที่ มีสารละลายที่เข้มข้นตัดขนส่งต้องเสียค่าใช้จ่าย – น้อยกว่าเชื้อเพลิงในการขนส่งกากวัสดุที่ การใช้ประโยชน์ที่เหนือกว่า ปุ๋ยเชิงพาณิชย์ต้องใช้ในอัตราส่วนที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในตำนานที่ล้อมรอบปุ๋ยเชิงพาณิชย์คือว่าเกลือที่พวกเขามี "ความรุนแรง" ใน
ทางชีววิทยาของดิน ความจริงก็คือเกลือเป็นสิ่งจำเป็นในทุกด้านของชีวิต อย่างใดอย่างหนึ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ มากเกินไปหรือมากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อ เป็นปุ๋ยแน่นอนเค็มเกินไป?
เกลือปุ๋ยรูปแบบไอออนละลายในน้ำในดิน เพิ่มขึ้นความเข้มข้นของไอออนเพิ่มแรงดัน
และลดศักยภาพน้ำทำให้มันยากสำหรับพืชที่จะใช้น้ำ นี่คือเหตุผลที่พืชได้รับผลกระทบโดย "ปุ๋ย
เผา" มองเรื่องเดียวกันกับที่ว่าพวกเขาได้รับการเสียใจจากภัยแล้ง พวกเขาไม่สามารถรับน้ำเพราะมีมากเกินไป
เกลือมากในนั้น.
ปุ๋ยไม่ได้มีการเผาไหม้แม้ว่า มันเป็นเรื่องของปริมาณ พืชไม่สามารถเจริญเติบโตโดยไม่ใส่เกลืออย่างใดอย่างหนึ่ง
สารอาหารที่พวกเขาต้องเป็นเกลือ ไอออนที่ละลายในน้ำจะตรงรูปแบบที่พวกเขาใช้เวลาถึง ตราบใดที่ปริมาณที่ถูกควบคุมมีอันตรายใช้เกลือดินไม่มี.
ชนิดของเกลือเป็นสิ่งสำคัญ ไอออนเกลือเฉพาะมีผลกระทบมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ ไอออนแอมโมเนียม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถปล่อยแอมโมเนียฟรีโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่า pH ของดินสูง แอมโมเนียย้ายโดยตรงในเซลล์พืช สูง
ความเข้มข้นสามารถป้องกันการเจริญเติบโตของรากและต้นกล้าแม้กระทั่งฆ่า บนมืออื่น ๆ , ฟอสเฟตไอออนแทบจะไม่ก่อให้เกิดเกลือ
อันตรายที่ทุกคนเนื่องจากพวกเขาไม่เคยได้ความเข้มข้นสูงในน้ำในดิน.
เกลือมักจะเกี่ยวข้องกับโซเดียมเพราะเกลือที่พบบ่อยคือโซเดียมคลอไรด์ โซเดียมไอออนสามารถ
ทำลายโครงสร้างของดินและเกิดการอุดตันการไหลของน้ำในดิน แต่ไม่ค่อยมีโซเดียมใด ๆ ในปุ๋ยเชิงพาณิชย์มากที่สุด.
ไอออนคลอไรด์เป็นหนึ่งในผู้ที่ละลายน้ำได้มากที่สุด องุ่น, ต้นไม้ยืนต้นและพืชตระกูลถั่วจำนวนมากมีความอ่อนไหวต่อไป.
การวิจัยในรัฐทางใต้แสดงให้เห็นถั่วเหลืองพันธุ์บางอย่างที่จะมีความไวต่อคลอไรด์ แต่งานวิจัยในหลาย ๆ
สถานที่อื่น ๆ ได้พบ muriate ของโปแตช (โพแทสเซียมคลอไรด์) ที่จะเป็นแหล่งที่มีประสิทธิภาพของโพแทสเซียมถั่วเหลือง
ที่ปลูกในดินที่ขาด และพืชเช่นข้าวสาลีและข้าวโพดแสดงผลประโยชน์ที่ดีจากการใส่ปุ๋ยที่มีคลอไรด์.
หลายปุ๋ยไม่ได้เกลืออย่างแท้จริง ยูเรีย, ตัวอย่างเช่นเป็นสารที่ละลายน้ำได้ที่ไม่ได้เป็นเกลือ อย่างไรก็ตาม
การละลายของมันหมายความว่ามันจะมีผลออสโมติกเช่นเดียวกับปุ๋ยอื่น ๆ นอกจากนี้ยังได้อย่างรวดเร็วสลายตัวในรูปแบบ
เกลือแอมโมเนียมไอออน ธาตุกำมะถันไม่เป็นเกลือหรือที่ละลายน้ำได้ แต่มันออกไซด์เข้าไปซัลเฟตเกลือก.
ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักประกอบด้วยเกลือนินทรีย์, เกลืออินทรีย์และรูปแบบอินทรีย์ที่ไม่ละลายของสารอาหาร.
แต่ปริมาณเกลือของพวกเขาต่อหน่วยของสารอาหารที่อาจจะไม่แตกต่างกันมากจากปุ๋ยตั้งแต่ ปริมาณสารอาหารต่ำมาก
และพวกเขามีเกลือไม่จำเป็นต้องจำเป็นสำหรับการเพาะปลูก นอกจากนี้ขณะที่พวกเขาย่อยสลายสารอาหารที่กลายเป็นเกลือ.
วิธีการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บเกลือได้หรือไม่ แนวทางการอัตราความปลอดภัยมีความเฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละพืชผลและจะขึ้นอยู่กับระยะทางจาก
ต้นกล้าเนื้อดินความชื้นในดินและไอออนเฉพาะในแหล่งที่มาของสารอาหาร สำหรับแอมโมเนียมค่า pH ของดินคือ
การพิจารณาเพิ่มเติม.
เนื้อหาเกลือสูงเป็นผลมาจากความได้เปรียบที่ไม่ซ้ำกันมีปุ๋ยเชิงพาณิชย์ การใช้
น้ำมันเชื้อเพลิงแหล่งสารอาหารที่ละลายน้ำที่มีความเข้มข้นลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งน้อยจะสูญเสียในการขนส่งไม่ใช่ทางโภชนาการ
วัสดุ เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ปุ๋ยเชิงพาณิชย์จำเป็นต้องใช้ในอัตราที่ฉลาด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในตำนานที่ล้อมรอบปุ๋ยเชิงพาณิชย์คือเกลือที่ประกอบด้วย " รุนแรง " ในชีววิทยาของดิน ในความเป็นจริงว่า เกลือเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อทั้งหมดของชีวิต อย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไปหรือน้อยเกินไป จะเป็นอันตราย เป็นปุ๋ยจริงๆเค็มเกินไปเกลือละลายปุ๋ยในรูปแบบไอออนในน้ำดิน เพิ่มความเข้มข้นของไอออนเพิ่มแรงดันออสโมซิสและลดศักยภาพของน้ำ ทำให้มันยากขึ้นสำหรับพืชใช้น้ำ นี่คือเหตุผลที่พืชได้รับผลกระทบโดย " ปุ๋ยเขียน " ดูเกี่ยวกับเช่นเดียวกับถ้าพวกเขาได้รับผลกระทบภัยแล้ง พวกเขาไม่สามารถรับน้ำได้ เพราะมันมีมากเกินไปเกลือมากหรอกปุ๋ยไม่ต้องเขียนนะ ทั้งหมดเป็นเรื่องของยา พืชไม่สามารถเจริญเติบโตได้โดยไม่ต้องเกลือเหมือนกัน ที่สารอาหารที่พวกเขาต้องการเป็นเกลือ ละลายไอออนตรงแบบฟอร์มที่พวกเขาใช้ ตราบเท่าที่การใช้ยาที่ถูกควบคุม ไม่มีอันตราย การใช้เกลือในดินชนิดของเกลือ เป็นสำคัญ ไอออนเกลือเฉพาะมีลักษณะพิเศษมากกว่าคนอื่น แอมโมเนียมไอออนในโดยเฉพาะอย่างยิ่งสามารถปล่อยแอมโมเนีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับดินด่างแอมโมเนียย้ายโดยตรงลงในเซลล์พืช สูงความเข้มข้นที่สามารถป้องกันการเจริญเติบโตของรากและแม้กระทั่งฆ่าต้นกล้า บนมืออื่น ๆแทบจะไม่ก่อให้เกิดเกลือฟอสเฟตไอออนอันตรายที่ทุกคนตั้งแต่พวกเขาไม่เคยได้รับความเข้มข้นสูงในน้ำดินเกลือมักจะเกี่ยวข้องกับโซเดียม เพราะโต๊ะทั่วไปเกลือโซเดียมคลอไรด์ โซเดียมไอออนสามารถทำลายโครงสร้างของดินและการอุดตันการไหลของน้ำในดิน แต่แทบจะไม่มีโซเดียมในปุ๋ยเชิงพาณิชย์มากที่สุดคลอไรด์ไอออนเป็นหนึ่งในที่สุด ต้นองุ่น , ต้นไม้และพืชตระกูลถั่วหลายต่อเลยการวิจัยในรัฐทางใต้ พบบางพันธุ์ถั่วเหลืองจะไวต่อคลอไรด์ แต่งานวิจัยในหลายสถานที่อื่น ๆได้พบ muriate ของเกลือสินเธาว์ ( โพแทสเซียมคลอไรด์ ) เป็นแหล่งโพแทสเซียมสำหรับถั่วเหลืองที่มีประสิทธิภาพที่ปลูกในดินที่ขาด และพืชเช่นข้าวสาลีและข้าวโพดแสดงประโยชน์มากจากการใส่ปุ๋ยกับคลอไรด์หลายปุ๋ยไม่ได้เกลืออย่างแท้จริง ยูเรีย , ตัวอย่างเช่นเป็นสารที่ไม่ละลายเกลือ อย่างไรก็ตามค่าหมายความว่ามันสามารถมีลักษณะพิเศษการ เช่นเดียวกับอื่น ๆ ใส่ปุ๋ย มันก็ต้องรีบสลายตัวไปแบบเกลือ–แอมโมเนียมไอออน ธาตุกำมะถัน ไม่ละลายเกลือหรือ–แต่มันออกไซด์เป็นซัลเฟต เป็นเกลือปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักประกอบด้วยและเกลืออนินทรี , เกลืออินทรีย์และอินทรีย์ละลายน้ำรูปแบบของสารอาหารแต่ปริมาณเกลือต่อหน่วยธาตุอาหารอาจจะไม่แตกต่างมากจากปุ๋ย เนื่องจากปริมาณสารอาหารของพวกเขามากกว่าและพวกเขาประกอบด้วยเกลือไม่จําเป็น ที่จำเป็นสำหรับพืช นอกจากนี้ จะเน่า รังกลายเป็นเกลือวิธีการหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บ เกลือ แนวทางความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับพืชแต่ละชนิด อัตรา และขึ้นอยู่กับระยะทางจากต้นกล้า เนื้อดิน ความชื้นของดินและเฉพาะไอออนแหล่งสารอาหาร สำหรับน้ำของดินคือการพิจารณาเพิ่มเติมปริมาณเกลือสูงเป็นผลมาจากเอกลักษณ์ ประโยชน์เชิงพาณิชย์และมี โดยใช้แหล่งละลายสารอาหารเข้มข้น ลดต้นทุนการขนส่ง และเสียเวลาในการขนส่งเชื้อเพลิงน้อยลง ไม่มีคุณค่าทางอาหารวัสดุ ในการใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ต้องใช้ปุ๋ยในอัตราที่สุขุมรอบคอบ .