บทคัดย่อAnthracnose crown rot and f

บทคัดย่อ

Anthracnose crown rot and fruit rot caused by Colletotrichum gloeosporioides and C. acutatum are two of the most prominent and destructive diseases of cultivated strawberry (Fragaria x ananassa Duchesne). Both species are capable of establishing hemibiotrophic infections (HBI) in leaf tissue, encouraging undetected dissemination of diseased nursery plants to fruit production fields and inciting subsequent crown- and fruit-rotting epidemics. The purpose of this research was to explore a novel mechanism in strawberry foliage, which may confer rate-limiting resistance to multiple Colletotrichum species in that tissue. Germplasm from the NC State strawberry breeding program were screened for resistance to C. gloeosporioides HBI. Preliminary variation in resistance and significant differences among genotypes were observed. Methods were developed to increase the accuracy and precision of percent sporulating leaf area (PSLA) measurements, including the use of imaging software for quantification of PSLA. Direct visual estimates were strongly correlated (r=0.91) to image-based quantification of PSLA, but the accuracy of visual estimation varied with different patterns of sporulation and tended to underestimate higher infection severities. A larger panel of 18 cultivars and NC State selections were screened for resistance to hemibiotrophic foliar infections of both C. gloeosporioides and C. acutatum. Genotype PSLA means were significantly different and ranged from 8.5% to 26.5%, though means separation was poor for moderate genotypes. These 18 genotypes were also evaluated for resistance to anthracnose crown rot (ACR) by applying C. gloeosporioides inoculum directly to the crown and observing wilt symptoms over ten weeks. ACR means separated distinctly over a wide range of resistance phenotypes. Findings of moderate correlation of resistance to C. gloeosporioides and C. acutatum HBI in leaf tissue suggested resistance to these Colletotrichum species may be shared in this common tissue type. However, weak correlation of resistance to C. gloeosporioides HBI and ACR in leaf and crown tissue, respectively, suggested that resistance to a single Colletotrichum species may operate independently between tissue types. A population was constructed to examine the inheritance of rate-limiting resistance to C. gloeosporioides and C. acutatum HBI in strawberry leaf tissue as well as the inheritance of resistance to ACR in crown tissue. Low dominance to additive variance ratios for C. acutatum HBI and C. gloeosporioides ACR indicate strong additive genetic control of resistance to these traits. C. gloeosporioides HBI had a much higher dominance to additive variance ratio which suggested this trait was under nearly equal dominance and additive genetic control. Heritability estimates were low for C. acutatum HBI (0.25) and C. gloeosporioides HBI (0.16) but were moderate for C. gloeosporioides ACR (0.61). Resistance gains from selection were predicted to be high for ACR, moderate for C. acutatum HBI, and low for C. gloeosporioides HBI. A strong genetic correlation (rA = 0.98) between resistance to C. acutatum HBI and C. gloeosporioides HBI suggested that resistance to these two Colletotrichum species was controlled by the expression of common genes in strawberry leaf tissue. Selecting for increased resistance to HBI for one Colletotrichum species should produce gains in resistance to the other. Negative genetic correlations between ACR and both HBI traits (rA = -0.85 and -0.61) suggested that resistance in crown tissue is inherited independently of resistance in leaf tissue in the examined population. These results recommend independent evaluation and advancement of resistance to HBI and ACR within breeding

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อAnthracnose crown rot และผลเน่าสาเหตุ Colletotrichum gloeosporioides และ C. acutatum เป็นสองโรคโดดเด่นมากที่สุด และทำลายการปลูกสตรอเบอร์รี่ (Fragaria x ananassa Duchesne) ทั้งสองชนิดมีความสามารถสร้างติดเชื้อ hemibiotrophic (HBI) ในเนื้อเยื่อใบ การส่งเสริมเผยแพร่ตรวจไม่พบเด็กที่เป็นโรคพืชผลไม้ผลิตฟิลด์และการกระทำบางโรคระบาดตามมามงกุฎ - และผลไม้ที่เน่าเปื่อย วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้คือการ สำรวจกลไกนวนิยายในใบไม้สตรอเบอร์รี่ ซึ่งอาจประสาทจำกัดอัตราความต้านทานกับสายพันธุ์ Colletotrichum หลายในเนื้อเยื่อที่ คัดแหล่งจากโปรแกรม NC รัฐพันธุ์สตรอเบอร์รี่สำหรับต้านทาน C. gloeosporioides HBI เบื้องต้นความผันแปรในความต้านทานและความแตกต่างที่สำคัญระหว่างศึกษาจีโนไทป์ถูกสังเกต วิธีการได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความถูกต้องและแม่นยำของเปอร์เซ็นต์ sporulating ใบ (PSLA) ที่ตั้งวัด รวมทั้งการใช้ภาพซอฟต์แวร์สำหรับนับจำนวน PSLA ภาพการประเมินมีความสัมพันธ์โดยตรง (r = 0.91) รูปภาพนับจำนวน PSLA แต่ความถูกต้องของการประเมินที่แสดงแตกต่างกันกับรูปแบบที่แตกต่างกันของ sporulation และแนวโน้มที่จะ ประมาท severities ติดเชื้อสูงขึ้น แผงขนาดใหญ่ของสายพันธุ์และเลือกสถานะ NC 18 คัดสำหรับความต้านทานโรคทางใบ hemibiotrophic C. acutatum และ C. gloeosporioides หมายถึงจีโนไทป์ PSLA ได้อย่างมีนัยสำคัญแตกต่างกัน และ ranged จาก 8.5% 26.5% แยกหมายถึงว่าดีสำหรับการศึกษาจีโนไทป์ปานกลาง ศึกษาจีโนไทป์ 18 เหล่านี้ยังถูกประเมินสำหรับความต้านทานการ anthracnose crown rot (ACR) โดยใช้ C. gloeosporioides inoculum ตรงมงกุฎและสังเกตอาการเหี่ยวกว่าสิบสัปดาห์ ACR หมายถึงแยกออกอย่างเห็นได้ชัดช่วงกว้างของไทป์ทนต่อ ผลการวิจัยของสหสัมพันธ์ปานกลางต้าน C. gloeosporioides และ C. acutatum HBI ในเนื้อเยื่อใบแนะนำความต้านทานสายพันธุ์ Colletotrichum เหล่านี้อาจถูกแบ่งปันในเนื้อเยื่อชนิดนี้พบบ่อย อย่างไรก็ตาม อ่อนความสัมพันธ์ของความต้านทานการ C. gloeosporioides HBI และ ACR ในเนื้อเยื่อใบและมงกุฎ ตามลำดับ แนะนำว่า ความต้านทานการ Colletotrichum ชนิดเดียวอาจทำงานอย่างอิสระระหว่างเนื้อเยื่อชนิด ประชากรก่อตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบมรดกของจำกัดอัตราความต้านทาน C. gloeosporioides และ C. acutatum HBI ในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอร์รี่รวมทั้งสืบทอดความต้านทานการ ACR ในเนื้อเยื่อของคราวน์ การปกครองต่ำที่รวมผลต่างอัตรา C. acutatum HBI และ C. gloeosporioides ACR บ่งชี้แข็งแรงสารเติมแต่งพันธุกรรมที่ควบคุมความต้านทานลักษณะเหล่านี้ C. gloeosporioides HBI ปกครองสูงที่อัตราส่วนความแปรปรวน additive ซึ่งแนะนำลักษณะนี้คือภายใต้การปกครองเกือบเท่าและสารเติมแต่งพันธุกรรมที่ควบคุม ได้ การประเมิน heritability ต่ำ C. acutatum HBI (0.25) และ C. gloeosporioides HBI (0.16) แต่มีปานกลางสำหรับ C. gloeosporioides ACR (0.61) กำไรความต้านทานจากส่วนที่เลือกถูกคาดการณ์ว่า ACR ปานกลางสำหรับ C. acutatum HBI สูง และต่ำสำหรับ C. gloeosporioides HBI ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมที่แข็งแกร่ง (rA = 0.98) ระหว่างความต้านทานต่อ C. acutatum HBI และ C. gloeosporioides HBI แนะนำว่า ความต้านทานสายพันธุ์ Colletotrichum สองเหล่านี้ถูกควบคุม โดยการแสดงออกของยีนที่พบในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอรี่ เลือกสำหรับความทนทาน HBI สำหรับ Colletotrichum ชนิดควรผลิตกำไรในความต้านทานต่อไปอีก ลบความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมระหว่าง ACR และทั้งสองลักษณะ HBI (rA =-0.85 และ-0.61) แนะนำว่า ความต้านทานในเนื้อเยื่อของคราวน์มาโดยอิสระจากความต้านทานในเนื้อเยื่อใบในประชากรตรวจสอบ ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำการประเมินอิสระและความก้าวหน้าของความต้านทาน HBI และ ACR ภายในพันธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อเน่ามงกุฎแอนแทรกโนและผลไม้เน่าที่เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum และ C acutatum เป็นสองโรคที่โดดเด่นที่สุดและการทำลายล้างของสตรอเบอร์รี่ที่ปลูก (Fragaria ananassa Duchesne x) ทั้งสองชนิดมีความสามารถในการสร้างการติดเชื้อ hemibiotrophic (HBI) ในเนื้อเยื่อของใบส่งเสริมการเผยแพร่ของพืชที่ตรวจไม่พบสถานรับเลี้ยงเด็กที่เป็นโรคไปยังเขตการผลิตไม้ผลที่ตามมาและเอาตัวรอดจากโรคระบาด crown- และผลไม้ที่เน่าเปื่อย วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้มีการสำรวจกลไกในใบสตรอเบอร์รี่ซึ่งอาจหารือต้านทานการ จำกัด อัตราหลายชนิด Colletotrichum ในเนื้อเยื่อที่ เชื้อพันธุกรรมจากโครงการปรับปรุงพันธุ์สตรอเบอร์รี่ร์ทแคโรไลนารัฐได้รับการตรวจคัดกรองความต้านทานต่อการ C. gloeosporioides HBI รูปแบบเบื้องต้นในการต่อต้านและความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญยีนถูกตั้งข้อสังเกต วิธีการได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มความถูกต้องและความแม่นยำของร้อยละ sporulating พื้นที่ใบ (PSLA) วัดรวมถึงการใช้ซอฟแวร์การถ่ายภาพสำหรับปริมาณ PSLA ประมาณการภาพโดยตรงมีความสัมพันธ์อย่างมาก (r = 0.91) เพื่อหาปริมาณของภาพที่ใช้ในการ PSLA แต่ความถูกต้องของการประมาณค่าภาพต่าง ๆ ที่มีรูปแบบที่แตกต่างกันของการสร้างสปอร์และมีแนวโน้มที่จะประมาทความรุนแรงของการติดเชื้อสูง แผงขนาดใหญ่กว่า 18 สายพันธุ์และการเลือก NC รัฐได้รับการตรวจคัดกรองความต้านทานต่อการติดเชื้อทางใบ hemibiotrophic ของทั้งสอง gloeosporioides ซีและซี acutatum genotype PSLA วิธีการที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญและตั้งแต่ 8.5% ถึง 26.5% แต่แยกเป็นวิธีที่ดีสำหรับยีนในระดับปานกลาง เหล่านี้ 18 สายพันธุ์นอกจากนี้ยังได้รับการประเมินความต้านทานต่อโรคโคนเน่ามงกุฎแอนแทรกโน (ACR) โดยใช้หัวเชื้อ C. gloeosporioides โดยตรงกับพระมหากษัตริย์และการสังเกตอาการเหี่ยวกว่าสิบสัปดาห์ ACR หมายถึงการแยกออกจากกันอย่างชัดเจนในช่วงกว้างของ phenotypes ต้านทาน ผลการวิจัยของความสัมพันธ์ในระดับปานกลางของความต้านทานต่อการ C. gloeosporioides และ C. acutatum HBI ในเนื้อเยื่อของใบเสนอแนะความต้านทานต่อสายพันธุ์เหล่านี้ Colletotrichum อาจจะใช้ร่วมกันในชนิดนี้เนื้อเยื่อที่พบบ่อย อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ที่อ่อนแอของความต้านทานต่อการ C. gloeosporioides HBI และ ACR ในใบและเนื้อเยื่อมงกุฎตามลำดับชี้ให้เห็นว่าความต้านทานต่อสายพันธุ์เดียว Colletotrichum อาจทำงานอิสระระหว่างเนื้อเยื่อชนิด ประชากรที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตรวจสอบการรับมรดกของความต้านทานการ จำกัด อัตราการ C. gloeosporioides และ C. acutatum HBI ในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอร์รี่เช่นเดียวกับมรดกของความต้านทานต่อการ ACR ในเนื้อเยื่อของพระมหากษัตริย์ การปกครองต่ำเพื่อเติมอัตราส่วนความแปรปรวนซี acutatum HBI และ C. gloeosporioides ACR บ่งบอกถึงการควบคุมสารเติมแต่งทางพันธุกรรมที่แข็งแกร่งของความต้านทานต่อการลักษณะเหล่านี้ C. gloeosporioides HBI มีการปกครองที่สูงมากอัตราส่วนสารเติมแต่งความแปรปรวนซึ่งปัญหาลักษณะนี้อยู่ภายใต้การครอบงำเกือบเท่ากันและเพิ่มเติมการควบคุมทางพันธุกรรม อัตราพันธุกรรมอยู่ในระดับต่ำสำหรับซี acutatum HBI (0.25) และ C. gloeosporioides HBI (0.16) แต่อยู่ในระดับปานกลางสำหรับ C. gloeosporioides ACR (0.61) กำไรต้านทานจากการเลือกที่ถูกคาดว่าจะสูงสำหรับ ACR ปานกลางสำหรับซี acutatum HBI และต่ำสำหรับ C. gloeosporioides HBI ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งทางพันธุกรรม (RA = 0.98) ระหว่างความต้านทานต่อซี HBI acutatum และ C. gloeosporioides HBI ชี้ให้เห็นว่าความต้านทานต่อทั้งสองสายพันธุ์ Colletotrichum ถูกควบคุมโดยการแสดงออกของยีนที่พบบ่อยในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอร์รี่ เลือกสำหรับความต้านทานเพิ่มขึ้น HBI สำหรับชนิดหนึ่ง Colletotrichum ควรผลิตกำไรในการต้านทานต่อการอื่น ๆ ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมเชิงลบระหว่าง ACR และทั้งสองลักษณะ HBI (RA = -0.85 และ -0.61) ชี้ให้เห็นว่ามีความต้านทานในเนื้อเยื่อของพระมหากษัตริย์ที่สืบทอดเป็นอิสระจากความต้านทานในเนื้อเยื่อใบประชากรในการตรวจสอบ ผลลัพธ์เหล่านี้ขอแนะนำให้ประเมินอิสระและความก้าวหน้าของความต้านทานต่อการ HBI และ ACR ภายในผสมพันธุ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อโรคเน่าและผลเน่าที่เกิดจากมงกุฎ Colletotrichum gloeosporioides และ C acutatum สองของที่โดดเด่นที่สุดและทำลายล้างโรคปลูกสตรอเบอรี่ ( fragaria x ananassa duchesne ) ทั้งสองชนิดมีความสามารถในการสร้างเชื้อ hemibiotrophic ( HBI ) ในเนื้อเยื่อใบ การส่งเสริมการเผยแพร่ตรวจไม่พบพืชเป็นโรค เนอสเซอรี่ เขตข้อมูลการผลิตผลไม้และกระตุ้นมงกุฎ - ตามมาและผลไม้เน่าระบาด . การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากลไกใหม่ในสตรอเบอรี่ ใบไม้ ซึ่งจะให้อัตราการต้านทานชนิดหลายชนิดในเนื้อเยื่อ พันธุกรรม จาก NC รัฐสตรอเบอรี่พันธุ์โปรแกรมคัดกรองความต้านทาน C . gloeosporioides HBI . เบื้องต้นในการต้านทาน และความแตกต่างระหว่างสายพันธุ์ พบว่า วิธีการที่ถูกพัฒนาเพื่อเพิ่มความถูกต้องและความแม่นยำของพื้นที่ใบและผลิตสปอร์ ( psla ) การวัดรวมทั้งการใช้ซอฟต์แวร์ภาพสำหรับปริมาณของ psla . ประเมินภาพโดยตรงมีความสัมพันธ์อย่างยิ่ง ( r = 0.91 ) เป็นปริมาณของ psla แต่ความถูกต้องของภาพที่แตกต่างกันกับรูปแบบที่แตกต่างกันของการประมาณการ และมีแนวโน้มที่จะประมาทการติดเชื้อที่สูง severities . แผงขนาดใหญ่ 18 พันธุ์และ NC รัฐเลือกคัดกรองเพื่อต้านทานเชื้อ C . gloeosporioides hemibiotrophic ใบ 2 . acutatum . psla polymorphism หมายถึงแตกต่างกันอยู่ระหว่าง 8.5% ถึงร้อยละ 26.5 แม้ว่าหมายความว่าการยากจนสำหรับสายพันธุ์ ปานกลาง เหล่านี้ 18 พันธุ์ต้านทานโรคแอนแทรคโนสยังประเมินมงกุฎเน่า ( ACR ) โดยการใช้เชื้อ C . gloeosporioides โดยมงกุฎและสังเกตอาการเหี่ยวกว่า 10 สัปดาห์ ACR หมายความว่าจากกันมากกว่าที่หลากหลายของเกิดการต่อต้าน การศึกษาความสัมพันธ์ของ C . gloeosporioides ปานกลางความต้านทาน . acutatum HBI ในเนื้อเยื่อใบแนะนำความต้านทานชนิด Colletotrichum เหล่านี้อาจจะใช้ร่วมกันในทั่วไปนี้เนื้อเยื่อชนิด อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ของ C . gloeosporioides อ่อนแอต้านทาน HBI ACR ในใบและเนื้อเยื่อและมงกุฎ ตามลำดับ ชี้ให้เห็นว่าต้านทานกับจีวรชนิดเดียวอาจทำงานอย่างอิสระระหว่างชนิดเนื้อเยื่อ ประชากรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตรวจสอบมรดกของอัตราการต้านทานต่อ C . gloeosporioides และ C acutatum HBI ในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอรี่เป็นมรดกของความต้านทาน ACR ในเนื้อเยื่อ มงกุฎ อัตราส่วนความแปรปรวนต่ำการปกครองแบบ C . และ C . gloeosporioides acutatum HBI ACR บ่งชี้ที่แข็งแกร่งเสริมการควบคุมพันธุกรรมของความต้านทานต่อคุณลักษณะเหล่านี้ C . gloeosporioides HBI มีความเด่นมากขึ้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนความแปรปรวนซึ่งชี้ให้เห็นลักษณะนี้อยู่ภายใต้การปกครองเกือบเท่ากัน และสารควบคุมทางพันธุกรรม การประมาณการต่ำ ( C . acutatum HBI ( 0.25 ) และ C . gloeosporioides HBI ( 0.16% ) แต่อยู่ในระดับปานกลาง ( C . gloeosporioides ACR ( 0.61 ) ต้านทานไรจากการคัดเลือกเป็นคาดว่าจะสูงสำหรับ ACR , ปานกลาง และต่ำ acutatum HBI C , C . gloeosporioides HBI . แข็งแรงทางพันธุกรรมสหสัมพันธ์ ( Ra = 0.98 ) ระหว่างความต้านทาน C และ C . gloeosporioides HBI acutatum HBI พบว่า ความต้านทานทั้งสองชนิดชนิดที่ควบคุมการแสดงออกของยีนที่พบในเนื้อเยื่อใบสตรอเบอร์รี่ การเพิ่มความต้านทานให้ HBI สำหรับ Colletotrichum ชนิดหนึ่งควรผลิตจากความต้านทานการอื่น ๆ ความสัมพันธ์ทางพันธุกรรมเชิงลบระหว่าง ACR และทั้งสองลักษณะ HBI ( Ra = -0.85 และ - 0.61 ) แนะนำว่าต้านทานในเนื้อเยื่อมงกุฎสืบทอดอย่างอิสระของความต้านทานในใบ เนื้อเยื่อในการตรวจสอบประชากร ผลลัพธ์เหล่านี้ขอแนะนำให้ประเมินอิสระและความก้าวหน้าของความต้านทานและ HBI ACR ภายในพันธุ์