Recently, some exogenous fibrolytic

Recently, some exogenous fibrolytic enzyme products
were reported to increase milk production efficiency in
early to mid lactation dairy cows (Arriola et al., 2011;
Holtshausen et al., 2011). This increased milk production
efficiency was a result of a numerical decrease in
feed intake with no change in milk yield in cows fed
diets supplemented with enzymes. Arriola et al. (2011)
related the improvement in feed conversion efficiency to
increased total-tract digestibility, although in situ ruminal
degradability was not affected. Holtshausen et al.
(2011) attributed the improvement in milk production
efficiency to an increase in fiber digestibility (based on
in vitro assay) of dietary forages. However, ruminal fermentation
responses were not measured in that study.
Arriola et al. (2011) also reported a similar level of milk
production for cows fed an enzyme-treated, high-forage
diet (67% diet DM) compared with cows fed an untreated, low-forage diet (52% diet DM). Based on these
findings, the use of certain enzyme additives may allow
dairy producers to feed higher forage diets or high-fiber
byproduct feeds without compromising energy intake
and milk production of the cow.
Increased substrate degradability by fibrolytic
enzyme additives reported in in vitro evaluations
(Eun et al., 2007; Eun and Beauchemin, 2007) has
often been accompanied by concurrent decreases in
acetate:propionate ratios in the incubation fluids. The
formation of propionate serves as an H2 sink in ruminal
fermentation, and a greater proportion of propionate
and (or) a lower acetate:propionate ratio in ruminal
fluid could indicate a lower availability of metabolic
H2 for methanogenesis. Based on this observation,
Beauchemin et al. (2008) proposed supplementing ruminant
diets with enzyme feed additives as a means of
mitigating enteric methane (CH4) production. Giraldo
et al. (2008a) reported that CH4 production corrected
for the amount of OM degraded was decreased when
fibrolytic enzymes were added to the substrates during
an in vitro incubation. In an in vivo study (Arriola
et al., 2011), a decrease in the calculated enteric CH4
production was reported for a lactating cow diet (52%
dietary forage) supplemented with a fibrolytic enzyme
additive. A decreased acetate:propionate ratio was reported
in both of the studies.
Hence, this study was conducted to obtain further
information on the potential mode of action of the
enzyme additive used by Holtshausen et al. (2011), in
which milk production efficiency of lactating dairy cows
was increased with the use of an exogenous fibrolytic
enzyme additive. The objective was to determine the effects
of supplementing a dairy cow diet with a fibrolytic
enzyme additive on fermentation, pH, and microbial
populations in the rumen and enteric CH4 emissions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บางผลิตภัณฑ์เอนไซม์ fibrolytic จากภายนอกได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนมในรายงานช่วงต้นถึงกลางนมจากนมวัว (Arriola et al. 2011Holtshausen et al. 2011) การผลิตนมเพิ่มขึ้นนี้ประสิทธิภาพคือ ผลลัพธ์ของตัวเลขลดลงกินไม่เปลี่ยนแปลงในผลผลิตน้ำนมในวัวเลี้ยงอาหารเสริม ด้วยเอนไซม์ Arriola et al. (2011)ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารไปในเพิ่มทางเดินรวมย่อย แม้ว่าในพื้นที่ ruminalไม่มีผล degradability Holtshausen et al(2011) เกิดจากการปรับปรุงในการผลิตน้ำนมประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในเส้นใยย่อย (ตามทดสอบในหลอดทดลอง) ของอาหารจำนง อย่างไรก็ตาม หมัก ruminalตอบถูกไม่มีวัดในการศึกษานั้นArriola et al. (2011) ยังรายงานระดับคล้ายนมการผลิตวัวเลี้ยงมีเอนไซม์รักษา สูงพืชอาหารสัตว์อาหาร (อาหาร 67% DM) เมื่อเทียบกับวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารไม่ผ่านการบำบัด พืชอาหาร สัตว์ต่ำ (52% อาหาร DM) อิงจากเหล่านี้ค้นพบ การใช้สารเอนไซม์บางอย่างอาจทำให้ผลิตนมให้อาหารสูงกว่าพืชอาหารสัตว์อาหารหรือเส้นใยสูงผลพลอยได้กิน โดยทำพลังงานบริโภคและการผลิตน้ำนมของวัวDegradability พื้นผิวที่เพิ่มขึ้น โดย fibrolyticเอนไซม์สารรายงานในการประเมินผลในหลอดทดลอง(อึน et al. 2007 อึนและ Beauchemin, 2007) ได้มักจะได้มาลดพร้อมกันในอัตราส่วนของอะซิเตท: propionate ในของเหลวบ่ม การก่อตัวของ propionate ทำหน้าที่เป็นเก็บ H2 ใน ruminalการหมัก และสัดส่วนมากขึ้นของ propionateและ (หรือ) อัตราส่วน acetate: propionate ล่างใน ruminalของเหลวอาจบ่งชี้ความพร้อมใช้งานลดการเผาผลาญอาหารH2 สำหรับ methanogenesis ตามสังเกตนี้Beauchemin et al. (2008) เสนอเสริมสัตว์เคี้ยวเอื้องอาหารกับเอนไซม์สารเติมแต่งอาหารเป็นวิธีการบรรเทาการผลิตลำไส้มีเทน (CH4) Giraldoet al. (2008a) รายงานการผลิต CH4 ที่แก้ไขสำหรับการออมลดลงลดลงเมื่อเอนไซม์ fibrolytic เพิ่มพื้นผิวในระหว่างการกกไข่ในหลอดทดลอง ในการศึกษาในสัตว์ทดลอง (Arriolaet al. 2011), การลดลงของ CH4 ลำไส้คำนวณได้รายงานการผลิตสำหรับอาหารวัวให้นมบุตร (52%อาหารพืชอาหารสัตว์) เสริม ด้วยเอนไซม์ fibrolyticปย รายงานอัตราส่วนลดลงอะซิเตท: propionateทั้งการศึกษาในด้วยเหตุนี้ ดำเนินการวิจัยนี้จะขอเพิ่มเติมข้อมูลโหมดมีศักยภาพของการดำเนินการเอนไซม์สารเติมแต่งที่ใช้โดย Holtshausen et al. (2011),ซึ่งประสิทธิภาพในการผลิตน้ำนมของวัวนมที่ให้นมบุตรเพิ่มขึ้น ด้วยการใช้ fibrolytic การจากภายนอกเอนไซม์สารเติมแต่ง วัตถุประสงค์คือการ ตรวจสอบผลกระทบการเสริมอาหารวัวนมที่ มีการ fibrolyticเอนไซม์สารเติมแต่งบนหมัก pH และจุลินทรีย์ประชากรในรูเมนและปล่อย CH4 ลำไส้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเร็ว ๆ นี้บางภายนอกผลิตภัณฑ์เอนไซม์ fibrolytic
ได้รับรายงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตนมใน
ช่วงต้นถึงกลางโคนมให้นมบุตร (Arriola et al, 2011;.
. Holtshausen et al, 2011) การผลิตนมที่เพิ่มขึ้น
อย่างมีประสิทธิภาพเป็นผลมาจากการลดลงของตัวเลขใน
การกินอาหารที่มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราผลตอบแทนที่ไม่มีนมในวัวที่เลี้ยงด้วย
อาหารเสริมด้วยเอนไซม์ Arriola et al, (2011)
ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการเปลี่ยนอาหารเพื่อ
เพิ่มขึ้นการย่อยระบบทางเดินรวมถึงแม้ว่าในกระเพาะรูเมนแหล่งกำเนิด
การย่อยสลายไม่ได้รับผลกระทบ Holtshausen et al.
(2011) มาประกอบการปรับปรุงในการผลิตนม
ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในการย่อยเส้นใย (ขึ้นอยู่กับ
ในหลอดทดลองทดสอบ) ของพืชอาหารสัตว์อาหาร อย่างไรก็ตามการหมักในกระเพาะรูเมน
ตอบสนองไม่ได้วัดในการศึกษาว่า.
Arriola et al, (2011) นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าระดับของนมที่คล้ายกัน
ผลิตเพื่อเลี้ยงวัวเป็นเอนไซม์ที่ได้รับการรักษาสูงอาหารสัตว์
อาหาร (67% อาหาร DM) เมื่อเทียบกับวัวที่เลี้ยงด้วยอาหารที่ได้รับการรักษาต่ำอาหารสัตว์ (52% อาหาร DM) ขึ้นอยู่กับเหล่านี้
ผลการวิจัยการใช้สารเติมเอนไซม์บางอย่างอาจช่วยให้
ผู้ผลิตนมที่จะเลี้ยงอาหารอาหารสัตว์ที่สูงขึ้นหรือเส้นใยสูง
ผลพลอยได้ฟีดโดยไม่กระทบการบริโภคพลังงาน
และการผลิตนมของวัว.
การย่อยสลายสารตั้งต้นเพิ่มขึ้น fibrolytic
สารเติมเอนไซม์รายงานในในหลอดทดลองประเมินผล
( . อึน et al, 2007; อึนและ Beauchemin 2007) ได้
รับมักจะมาพร้อมกับการลดลงพร้อมกันใน
อะซิเตท: อัตราส่วน propionate ในของเหลวในการบ่ม
การก่อตัวของ propionate ทำหน้าที่เป็นอ่าง H2 ในกระเพาะหมัก
การหมักและเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นของ propionate
และ (หรือบริการ) อะซิเตทที่ต่ำกว่าอัตราส่วน propionate ในกระเพาะรูเมน
ของเหลวอาจบ่งชี้ที่ลดลงของการเผาผลาญ
H2 สำหรับปล่อยก๊าซมีเทน ขึ้นอยู่กับการสังเกตนี้
Beauchemin et al, (2008) ได้เสนอการเสริมเคี้ยวเอื้อง
อาหารที่มีสารอาหารเอนไซม์เป็นวิธีการ
บรรเทาก๊าซมีเทนลำไส้ (CH4) การผลิต Giraldo
et al, (2008a) รายงานว่าการผลิต CH4 แก้ไข
จำนวน OM เสื่อมโทรมลดลงเมื่อ
เอนไซม์ fibrolytic ถูกเพิ่มเข้าไปในพื้นผิวในช่วง
ในหลอดทดลองการบ่ม ในการให้การศึกษาในร่างกาย (Arriola
et al. 2011) ลดลงใน CH4 คำนวณลำไส้
ผลิตได้รับการรายงานสำหรับอาหารให้นมบุตรวัว (52%
อาหารสัตว์อาหาร) เสริมด้วยเอนไซม์ fibrolytic
สารเติมแต่ง A จะลดลง acetate: อัตราส่วน propionate ถูกรายงาน
. ทั้งในการศึกษา
ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการต่อไปที่จะได้รับ
ข้อมูลเกี่ยวกับโหมดที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของ
สารเติมเอนไซม์ที่ใช้โดย Holtshausen et al, (2011) ใน
ที่ประสิทธิภาพการผลิตน้ำนมของโคนมที่ให้นมบุตร
เพิ่มขึ้นด้วยการใช้ภายนอก fibrolytic
สารเติมเอนไซม์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบผลกระทบ
ของการเสริมอาหารโคนมที่มี fibrolytic
สารเติมเอนไซม์ในการหมัก pH และจุลินทรีย์
ประชากรในกระเพาะและการปล่อยมลพิษ CH4 ลำไส้