The Gerber Method is a primary and

The Gerber Method is a primary and historic chemical test to determine the fat content of substances, most commonly milk and cream.[1] The Gerber Method is the primary testing method in Europe and much of the world.[2] The fairly similar Babcock test is used primarily in the United States, although the Gerber Method also enjoys significant use in the U.S. as well.[3]

The Gerber Method was developed and patented by Dr. Niklaus Gerber of Switzerland in 1891.[4]

Milk fat is separated from proteins by adding sulfuric acid. The separation is facilitated by using amyl alcohol and centrifugation. The fat content is read directly via a special calibrated butyrometer. Gerber developed specialized butyrometers (tubes), pipettes, and centrifuges. Water baths built specifically for the Gerber tubes are often used.

The test is still in widespread use today and is the basis for numerous national and international standards such as ISO 2446, International Dairy Federation (FIL) Regulation 105, BS 696 (United Kingdom), and IS 1223 (India). Larger facilities may prefer to use faster analysis techniques such as infrared spectroscopy as these greatly reduce the potential for user error and reduce the time and COSHH requirements.

The test continues to be improved and standardized.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธี Gerber เป็นหลัก และประวัติศาสตร์เคมีทดสอบกำหนดไขมันสาร ทั่วนม และครีม[1] วิธี Gerber เป็นวิธีการทดสอบหลักในยุโรปและของโลก[2] การทดสอบ Babcock ค่อนข้างคล้ายกันจะใช้หลักในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้ว่าวิธี Gerber ตลอดยังใช้สำคัญในสหรัฐอเมริกาเช่น[3]

วิธี Gerber ถูกพัฒนา และจดสิทธิบัตร โดย Dr. Niklaus Gerber ของสวิตเซอร์แลนด์ใน 1891[4]

นมไขมันถูกแยกออกมาจากโปรตีน โดยการเพิ่มกรดกำมะถัน แยกที่จะอำนวยความสะดวก โดยใช้แอลกอฮอล์ amyl centrifugation ไขมันถูกอ่านโดยตรงผ่านทาง butyrometer calibrated เป็นพิเศษ Gerber พัฒนาเฉพาะ butyrometers (หลอด), pipettes และ centrifuges น้ำอาบน้ำที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับท่อ Gerber มักจะใช้

การทดสอบวันนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และเป็นพื้นฐานสำหรับมาตรฐานต่าง ๆ และนานาชาติเช่น ISO 2446 ระเบียบสภานมนานาชาติ (ไฟล์) 105, BS 696 (สหราชอาณาจักร), และ IS 1223 (อินเดีย) สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีขนาดใหญ่อาจต้องใช้เทคนิควิเคราะห์เร็วเช่นกอินฟราเรด ตามเหล่านี้เป็นข้อผิดพลาดของผู้ใช้อย่างมาก และลดเวลาและความต้องการ COSHH ได้

การทดสอบยังสามารถปรับปรุง และมาตรฐานการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกอร์เบอร์วิธีคือการทดสอบสารเคมีหลักและประวัติศาสตร์เพื่อตรวจสอบปริมาณไขมันของสารนมกันมากที่สุดและครีม. [1] เกอร์เบอร์วิธีการเป็นวิธีการทดสอบหลักในยุโรปและมากของโลก. [2] ที่คล้ายกันอย่างเป็นธรรมแบ็บ การทดสอบจะใช้เป็นหลักในประเทศสหรัฐอเมริกาแม้ว่าวิธีเกอร์เบอร์ยังสนุกกับการใช้งานอย่างมีนัยสำคัญในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน [3]. เกอร์เบอร์วิธีการได้รับการพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดยดรนิคลัสเกอร์เบอร์ของวิตเซอร์แลนด์ในปี 1891 [4] นมไขมันถูกแยกออก จากโปรตีนโดยการเพิ่มกรดกำมะถัน แยกจะอำนวยความสะดวกโดยการใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอะมิลปั่น ปริมาณไขมันจะถูกอ่านโดยตรงผ่านทาง butyrometer สอบเทียบพิเศษ เกอร์เบอร์พัฒนา butyrometers พิเศษ (หลอด), ปิเปตและเหวี่ยง ห้องอาบน้ำที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับหลอดเกอร์เบอร์มักจะใช้การทดสอบยังคงอยู่ในการใช้งานอย่างกว้างขวางในวันนี้และเป็นพื้นฐานสำหรับมาตรฐานระดับชาติและนานาชาติมากมายเช่น ISO 2446, สหพันธ์นมระหว่างประเทศ (FIL) ระเบียบ 105, BS 696 (สหราชอาณาจักร) และ IS 1223 (อินเดีย) สิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่อาจต้องการที่จะใช้เทคนิคการวิเคราะห์ที่เร็วขึ้นเช่นอินฟราเรดเป็นเหล่านี้ช่วยลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นสำหรับผู้ใช้และลดระยะเวลาและความต้องการ COSHH ทดสอบยังคงได้รับการปรับปรุงและมาตรฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Gerber เป็นหลักเคมีวิธีทดสอบหาปริมาณไขมันและสารสำคัญมากที่สุดโดยทั่วไปนมและครีม . [ 1 ] วิธี Gerber เป็นหลักวิธีการทดสอบในยุโรปและมากของโลก . [ 2 ] แบบทดสอบค่อนข้างคล้ายกันคือ ใช้เป็นหลักในสหรัฐอเมริกา แม้ว่าวิธีการ เกอร์เบอร์ ตลอดที่สำคัญใช้ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน . [ 3 ]

Gerber วิธีการได้รับการพัฒนาและจดสิทธิบัตรโดย ดร. นิค Gerber ของสวิตเซอร์แลนด์ใน 1891 [ 4 ]

นมไขมันถูกแยกออกจากโปรตีนโดยการเพิ่มกรดซัลฟูริค แยกเป็นองค์กรโดยใช้เอมิลแอลกอฮอล์และการปั่นเหวี่ยง ปริมาณไขมันจะถูกอ่านได้โดยตรงผ่านทางพิเศษปรับ butyrometer . Gerber พัฒนา butyrometers ผู้เชี่ยวชาญ ( หลอด ) , ปิเปต , centrifuges .น้ำสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเฉพาะสำหรับเบอร์หลอดมักจะใช้

สอบยังใช้กันอย่างแพร่หลายในวันนี้และเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับหลายแห่งชาติและมาตรฐานสากล เช่น ISO 1 : นมนานาชาติ ( ฟี ) ระเบียบ 105 , BS 696 ( สหราชอาณาจักร ) และเป็น 1224 ( อินเดีย )เครื่องขนาดใหญ่อาจต้องการใช้เทคนิคการวิเคราะห์ได้เร็วขึ้น เช่น อินฟราเรดสเปกโทรสโกปี เช่น ช่วยลดโอกาสของความผิดพลาดของผู้ใช้และลดเวลาและความต้องการ coshh .

ยังต้องปรับปรุง และทดสอบมาตรฐาน