Clostridium perfringens type A and

Clostridium perfringens type A and C can cause necrotic
enteritis (NE) and cholangiohepatitis in many avian species
(Wages and Opengart, 2003; Crespo et al., 2007). Suffering
from NE, birds can have diarrhea, ruffle feathers, and even die
(Mitsch et al., 2004). Increasing numbers of C. perfringens in
the gut of broilers may lead to lower growth rate and feed
efficiency (Kaldhusdal and Hofshagen, 1992).
Because of the ban on the antibiotics, which have been
used as the primary measure to control NE in poultry
production, it is urgent to search for new alternatives.
Scientists claimed that phytogenic feed additive (PFA)
containing essential oils or spices has distinct biological

functions, such as antimicrobial, antifungal, or antioxidant
properties (Lee and Ahn, 1998; Steiner, 2009). Numerous
previous studies have demonstrated the antibacterial
effects of herbs and their extracted essential oils (thymol,
carvacrol, and eugenol) against C. perfringens (Dorman and
Deans, 2000; Mitsch et al., 2004) and other bacteria such
as Escherichia coli, Staphylococcus aureus and Salmonella
typhimurium at a certain dose (Juven et al., 1994;
Cosentino et al., 1999; Burt, 2004; Si et al., 2006). On the
other hand, caecal Lactobacillus, Bifidobacterium, and Gram
positive cocci concentration linearly increased with
increasing dosages of PFA level (Mountzouris et al.,
2011). Herbal extracts supplements proved to have beneficial effects on quality of carcass and meat in storage,
as well as improve immune system (Cross et al., 2007).
Kreydiyyeh et al. (2003) stated that glucose absorption
from the small intestine was accelerated in rats fed anise
oil and anise oil inclusion decreased microbial activity in
the terminal ileum, cecum, and colon, and reduced chyme
contents of VFA, as well as biogenic amines.
Also, PFA have reported to stimulate digestive enzyme
production and activity and induce a greater secretion of
bile acids (Platel and Srinivasan, 2000; Williams and Losa,
2001). According to European Commission (2003) on feed
additives in animal nutrition, phytogenic compounds have
been categorized as “sensory additives” and in particular as
flavoring compounds, i.e. substances the inclusion of which
in feeding stuffs increases feed smell and palatability. The
effects of supplementation of phytogenic additives (essential oils and herb extracts) on broiler performance were
variable, especially when chicks were reared under highly
hygiene controlled environmental conditions without specific challenge or disease (Botsoglou et al., 2002; Zhang
et al., 2005). Therefore, the objective of this study was to
assess the effects of PFA containing essential oils of thyme
and star anise as main active components on growth
performance, digestibility, intestinal microbiota, blood characteristics, relative organ weight, and meat quality in
broilers after oral challenge with C. perfringens.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Clostridium perfringens ประเภท A และ C
สามารถทำให้เกิดการฉีกลำไส้(NE) และ cholangiohepatitis ในสายพันธุ์นกจำนวนมาก
(ค่าจ้างและ Opengart 2003. เครสโป, et al, 2007) ทุกข์ทรมานจาก NE, นกมีอาการท้องเสีย, นัวเนียขนและแม้กระทั่งตาย (Mitsch et al., 2004) ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของซี perfringens ในลำไส้ของไก่เนื้ออาจนำไปสู่การเจริญเติบโตที่ต่ำกว่าอัตราและอาหารที่มีประสิทธิภาพ(Kaldhusdal และ Hofshagen, 1992). เพราะห้ามในการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งได้รับการใช้เป็นมาตรการหลักในการควบคุม NE ในสัตว์ปีกผลิตมันเป็นเรื่องเร่งด่วนในการค้นหาทางเลือกใหม่. นักวิทยาศาสตร์อ้างว่าอาหารเสริม phytogenic (PFA) ที่มีน้ำมันหอมระเหยหรือเครื่องเทศที่มีความแตกต่างทางชีวภาพฟังก์ชั่นเช่นยาปฏิชีวนะยาต้านเชื้อราหรือสารต้านอนุมูลอิสระคุณสมบัติ(ลีอาน, 1998; ทิ 2009) หลายการศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นถึงการต้านเชื้อแบคทีเรียผลกระทบของสมุนไพรและสารสกัดน้ำมันหอมระเหยของพวกเขา(ไทมอล, carvacrol และ eugenol) กับ perfringens C. (Dorman และคณบดี2000. Mitsch, et ​​al, 2004) และแบคทีเรียอื่น ๆ เช่นเป็นอีโค, Staphylococcus aureus และ Salmonella typhimurium ที่ยาบางอย่าง (Juven et al, 1994;. Cosentino et al, 1999;. เบิร์ท, 2004. ศรี et al, 2006) บนมืออื่น ๆ , แลคโตบาซิลลัส caecal, Bifidobacterium และแกรมเข้มข้นcocci บวกเป็นเส้นตรงเพิ่มขึ้นด้วยปริมาณที่เพิ่มขึ้นของระดับPFA (Mountzouris et al., 2011) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดจากสมุนไพรพิสูจน์ให้เห็นว่ามีผลประโยชน์กับคุณภาพของซากและเนื้อสัตว์ในการจัดเก็บข้อมูลรวมทั้งการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน (ครอส et al., 2007). Kreydiyyeh et al, (2003) ระบุว่าการดูดซึมกลูโคสจากลำไส้เล็กถูกเร่งในหนูที่เลี้ยงโป๊ยกั๊กน้ำมันและรวมน้ำมันโป๊ยกั๊กลดลงกิจกรรมของจุลินทรีย์ในสถานีileum, ลำไส้ใหญ่และลำไส้และลด chyme เนื้อหาของ VFA เช่นเดียวกับเอมีนไบโอจี. นอกจากนี้ PFA มีรายงานในการกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ย่อยอาหารการผลิตและการทำกิจกรรมและการทำให้เกิดการหลั่งมากขึ้นของกรดน้ำดี(Platel และ Srinivasan, 2000 วิลเลียมส์และ Losa, 2001) ตามที่คณะกรรมาธิการยุโรป (2003) ในฟีดสารเติมแต่งในอาหารสัตว์สารphytogenic ได้รับการแบ่งออกเป็น"สารเติมแต่งประสาทสัมผัส" และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสารแต่งกลิ่นเช่นสารรวมซึ่งในการให้อาหารวัตถุดิบเพิ่มกลิ่นอาหารและความอร่อย ผลกระทบของการเสริมเติมแต่ง phytogenic (น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจากสมุนไพร) ประสิทธิภาพการทำงานของไก่เนื้อเป็นตัวแปรโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกไก่ถูกเลี้ยงภายใต้สูงสุขอนามัยการควบคุมสภาพแวดล้อมโดยไม่ต้องท้าทายที่เฉพาะเจาะจงหรือโรค(Botsoglou, et al., 2002; Zhang. et al, 2005 ) ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้กับการประเมินผลกระทบของ PFA ที่มีน้ำมันหอมระเหยจากโหระพาและโป๊ยกั๊กเป็นส่วนประกอบที่ใช้งานหลักในการเติบโตของผลการดำเนินงานย่อย, microbiota ลำไส้ลักษณะเลือดน้ำหนักอวัยวะญาติและคุณภาพเนื้อในไก่เนื้อหลังจากที่ท้าทายในช่องปากกับซี perfringens

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แตกแตนชนิด A และ C สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสีย
( NE ) และ cholangiohepatitis ชนิดนกมาก
( ค่าจ้างและ opengart , 2003 ; เกรสโป et al . , 2007 ) ทุกข์
จากเน่ นกจะได้ท้องเสีย ยั่วโมโห และแม้กระทั่งตาย
( mitsch et al . , 2004 ) ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของ C . perfringens ในทางเดินอาหารของไก่
อาจนำไปสู่การลดอัตราการเจริญเติบโตและประสิทธิภาพการใช้อาหาร และ hofshagen
( kaldhusdal ,1992 ) .
เพราะห้ามในยาปฏิชีวนะ ซึ่งมี
ใช้เป็นวัดหลักในการควบคุมความเร็วในการผลิตสัตว์ปีก
เป็นการด่วน เพื่อค้นหาทางเลือกใหม่ .
นักวิทยาศาสตร์อ้างว่า phytogenic อาหารเสริม ( พีเอฟเอ )
ที่มีน้ำมันหอมระเหย หรือเครื่องเทศ มีฟังก์ชันทางชีวภาพ

ที่แตกต่างกัน เช่น ยาต้านจุลชีพสารต้านเชื้อรา หรืออนุมูลอิสระ
( ลี และ อาน , 1998 ; Steiner , 2009 )การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงผลต้านเชื้อแบคทีเรียมากมาย

ของสมุนไพรและสารสกัดน้ำมันหอมระเหย ( ไทมอล
คาร์วาโครล , eugenol ) กับ C . perfringens ( Dorman และ
คณบดี , 2000 ; mitsch et al . , 2004 ) และแบคทีเรียอื่น ๆ เช่น
เช่น Escherichia coli Salmonella typhimurium และ Staphylococcus aureus ในยาบางอย่าง (
juven et al . , 1994 ;
cosentino et al . , 1999 ; เบิร์ท , 2004 ; ศรี et al . ,2006 ) บนมืออื่น ๆ caecal
, Lactobacillus , Bifidobacterium และแกรมบวกเชื้อความเข้มข้นเฉลี่ยเพิ่มขึ้น

เพิ่มปริมาณยาในระดับยอดเยี่ยม ( mountzouris et al . ,
2011 ) สารสกัดจากสมุนไพร อาหารเสริม พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีต่อคุณภาพซากและเนื้อข้อมูล
ตลอดจนปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน ( ข้าม et al . , 2007 ) .
kreydiyyeh et al .( 2003 ) กล่าวว่า
การดูดซึมกลูโคสจากลำไส้เล็กถูกเร่งในหนูที่เลี้ยงน้ำมันโป๊ยกั๊กและรวมกิจกรรมลดลงน้ำมันโป๊ยกั๊ก

จุลินทรีย์ใน terminal ileum ลำไส้ใหญ่ส่วนต้น และมะเร็งลำไส้ และลดอาหารที่ย่อยแล้ว
เนื้อหาง่ายเช่นเดียวกับเอมีน .
นอกจากนี้ พีเอฟเอ ได้รายงานการกระตุ้นกิจกรรมการผลิตเอนไซม์
การย่อยอาหาร และทำให้เกิดการหลั่งของ
มากขึ้นกรดน้ำดี ( platel และ srinivasan , 2000 ; วิลเลียมส์และ losa
, 2001 ) ตามที่คณะกรรมาธิการยุโรป ( 2003 ) ในอาหาร
เจือปนในอาหารสัตว์ phytogenic สารประกอบมี
ถูกจัดเป็น " สารประสาท " และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสารประกอบ
รส ได้แก่ สารรวมซึ่งในอาหาร stuffs อาหาร
เพิ่มกลิ่น และความน่ากิน .
ผลของการเสริมสาร phytogenic ( น้ำมันหอมระเหยและสารสกัดจากสมุนไพร ) งานไก่ถูก
ตัวแปร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกไก่ถูกเลี้ยงดูภายใต้สุขอนามัยสูง
ควบคุมสภาพแวดล้อมโดยไม่มีความท้าทายที่เฉพาะเจาะจงหรือโรค ( botsoglou et al . , 2002 ; จาง
et al . , 2005 ) ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อ
ศึกษาผลของพีเอฟเอที่ประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหยจากโหระพา
และดาวโป๊ยกั๊กเป็นส่วนประกอบหลักที่ใช้ในการเจริญเติบโต
ประสิทธิภาพการย่อยได้ของลำไส้ไมโครไบโ ้าเลือด ลักษณะ น้ำหนักอวัยวะสัมพัทธ์ และคุณภาพของเนื้อไก่ใน
หลังจากรับประทานท้าทายกับ C . perfringens .