1. IntroductionThe world is battlin

1. Introduction

The world is battling with the problems of increasing global surface temperature [1] due to climate change occasioned by human activities [2] and [3]. These uncontrolled human activities have led to the emission of greenhouse gases (GHGs). The continuous emissions of these gases have resulted in significant and negative global impacts on people, natural resources and economic conditions [4], [5], [6] and [7] and increased environmental degradation [8]. Methane (CH4) and carbon dioxide (CO2) ar the two gases chiefly responsible for this temperaure increase [9]. Though methane concentration in the atmosphere is lower than that of carbon dioxide, it is 21–25 times more powerful than CO2[10] and [11] and account for 20% of global greenhouse gas effect [12]. The global anthropogenic emissions for methane from all sectors in 2010 were estimated to be 6875 million metric tons CO2 equivalent (Mt CO2eq) [13] and [14]. Methane is emitted naturally by termites, grasslands, coal beds, lakes, wetlands and wildfires and by anthropogenic (human) sources from landfills, oil and gas processing, watsewater treament plants, coal mining, rice production, cattle ranching and agriculural activities [15] one distinct advantage of methane is that it is a ‘green fuel’ and can be used to generate electricity, as fertilizer and methanol production feedstock and as a source of heat [8].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. บทนำโลกกำลังต่อสู้กับปัญหาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลก[1] เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเนื่องมาจากกิจกรรมของมนุษย์ [2] และ [3] เหล่านี้กิจกรรมของมนุษย์ที่ไม่สามารถควบคุมได้นำไปสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ก๊าซเรือนกระจก) การปล่อยอย่างต่อเนื่องของก๊าซเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในระดับโลกและในทางลบต่อคนทรัพยากรธรรมชาติและสภาพเศรษฐกิจ [4] [5] [6] [7] และเพิ่มความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม [8] ก๊าซมีเทน (CH4) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เท่ทั้งสองก๊าซส่วนใหญ่มีความรับผิดชอบสำหรับการเพิ่มขึ้น temperaure นี้ [9] แม้ว่าความเข้มข้นของก๊าซมีเทนในบรรยากาศที่ต่ำกว่าของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มันเป็น 21-25 ครั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า CO2 [10] และ [11] และการบัญชีสำหรับ 20% ของผลกระทบของก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก [12] การปล่อยของมนุษย์ทั่วโลกสำหรับก๊าซมีเทนจากทุกภาคส่วนในปี 2010 ได้รับการคาดว่าจะมี 6875000000 ตัน CO2 เทียบเท่า (Mt CO2eq) [13] และ [14] ก๊าซมีเทนถูกปล่อยออกมาตามธรรมชาติโดยปลวกทุ่งหญ้าเตียงถ่านหิน, ทะเลสาบ, พื้นที่ชุ่มน้ำและไฟป่าและมนุษย์ (มนุษย์) แหล่งที่มาจากหลุมฝังกลบน้ำมันและการประมวลผลก๊าซ watsewater พืชบำบัด, การทำเหมืองแร่ถ่านหินผลิตข้าววัว ranching และกิจกรรม agriculural [15] หนึ่งประโยชน์ที่แตกต่างของก๊าซมีเทนก็คือว่ามันเป็น 'เชื้อเพลิงสีเขียว' และสามารถนำมาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นปุ๋ยและวัตถุดิบการผลิตเมทานอลและเป็นแหล่งที่มาของความร้อน [8]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . บทนำ

โลกมีการต่อสู้กับปัญหาการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิพื้นผิวโลก [ 1 ] เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นต้นเหตุด้วยกิจกรรม [ 2 ] และ [ 3 ] มนุษย์ เหล่านี้ควบคุมมนุษย์กิจกรรมนำให้มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( GHGs ) การปล่อยก๊าซเหล่านี้อย่างต่อเนื่องมีผลในทางลบผลกระทบต่อโลกและผู้คนทรัพยากรธรรมชาติและสภาวะทางเศรษฐกิจ [ 4 ] , [ 5 ] [ 6 ] [ 7 ] และเพิ่มการย่อยสลาย 8 [ สิ่งแวดล้อม ] ก๊าซมีเทน ( ร่าง ) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) AR สองก๊าซส่วนใหญ่ที่รับผิดชอบเรื่องนี้ temperaure เพิ่ม [ 9 ] แม้ว่าความเข้มข้นของก๊าซมีเทนในบรรยากาศต่ำกว่าที่ของคาร์บอนไดออกไซด์มันคือ 21 – 25 ครั้งมีประสิทธิภาพมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ [ 10 ] และ [ 11 ] และบัญชีสำหรับ 20% ของก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกผล [ 12 ] การปล่อยก๊าซมีเทนจากมนุษย์ทั่วโลกสำหรับทุกภาคส่วนใน 2010 คาดว่าจะเ ล้านตัน CO2 เทียบเท่า ( MT co2eq ) [ 13 ] และ [ 14 ] ก๊าซมีเทนที่ปล่อยออกมาตามธรรมชาติ โดยปลวก , ทุ่งหญ้า , ถ่านหินเตียงทะเลสาบชายเลนและไฟป่าและโดยมนุษย์ ( มนุษย์ ) แหล่งที่มาจากหลุมฝังกลบ , น้ำมันและก๊าซการประมวลผล watsewater กลุ่มพืช , เหมืองถ่านหิน , การผลิตข้าว ปศุสัตว์ ปศุสัตว์ และกิจกรรมเกษตร [ 15 ] หนึ่งข้อดีแตกต่างกันของก๊าซมีเทนซึ่งเป็นเชื้อเพลิง ' สีเขียว ' และสามารถใช้เพื่อผลิตไฟฟ้า เป็นปุ๋ย และเมทานอล ผลิตวัตถุดิบและเป็นแหล่งของความร้อน [ 8 ] .