The usefulness of a digestate from

The usefulness of a digestate from an anaerobic codigestion process as a fertiliser product was evaluated
in a field experiment using two horticultural crops (watermelon and cauliflower), during two successive
growing seasons. The effects of the digestate were compared with those of a traditional organic
amendment (cattle manure) and a conventional mineral fertiliser. Digestate addition to soil provided a
source of available nutrients (nitrogen and phosphorus) in the short-term and had positive effects on soil
biological properties such as microbial biomass and enzyme activities, compared to the non-amended
soil. The digestate application to soil led to yields comparable to the mineral fertilisation for the summer
watermelon crop. However, for the winter cauliflower crop, only plots treated with the mineral fertiliser
had good production. Nitrogen from the digestate is rapidly and highly available for plant growth in
the short-term but also can be easily lost, together with a slow rate of microbial processes due to low
temperatures, could reduce the fertilising capacity of the digestate. This seemed to be the main limiting
factor for the winter cauliflower crop, where digestate or cattle manure, used as basal dressing, were not
enough to satisfy the crop demand for nitrogen during its whole growth cycle.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รับการประเมินประโยชน์ของ digestate จากกระบวนการ codigestion ที่ไม่ใช้ออกซิเจนเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยในการทดลองฟิลด์ใช้สองพืชสวนพืช (แตงโมและกะหล่ำ), ระหว่างสองต่อเนื่องฤดูกาลการเติบโต ผลกระทบของ digestate ถูกเทียบกับแบบดั้งเดิมของอินทรีย์แก้ไขเพิ่มเติม (มูลวัว) และปุ๋ยเป็นแร่ทั่วไป Digestate จากดินให้เป็นแหล่งของสารอาหารพร้อมใช้ (ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส) ในระยะสั้น และมีผลในเชิงบวกในดินคุณสมบัติทางชีวภาพเช่นจุลินทรีย์ชีวมวลและเอนไซม์กิจกรรม เมื่อเทียบกับการไม่แก้ไขดิน แอ digestate ดินนำไปสู่ผลผลิตเทียบกับปฏิสนธิแร่สำหรับฤดูร้อนแตงโมพืช อย่างไรก็ตาม สำหรับพืชกะหล่ำดอกฤดูหนาว ผืนเดียวรักษา ด้วยปุ๋ยแร่มีการผลิตที่ดี ไนโตรเจนจาก digestate มีอย่างรวดเร็ว และสูงสำหรับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ระยะสั้นยังสามารถหายไปได้อย่างง่ายดาย เมื่อรวมกับอัตราช้าลงของจุลินทรีย์กระบวนต้องต่ำอุณหภูมิ สามารถลดกำลังการผลิตที่ fertilising ของ digestate นี้ดูเหมือนจะ จำกัดหลักปัจจัยสำหรับการเพาะปลูกกะหล่ำดอกฤดูหนาว ที่ digestate หรือวัวมูล ใช้เป็นฐานแต่ง ไม่ได้เพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการพืชสำหรับไนโตรเจนในช่วงวงจรการเติบโตทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประโยชน์ของย่อยสลายจากกระบวนการ codigestion แบบไม่ใช้ออกซิเจนเป็นผลิตภัณฑ์ปุ๋ยที่ถูกประเมิน
ในการทดลองภาคสนามโดยใช้สองพืชสวน (แตงโมและกะหล่ำดอก) เนื่องในช่วงสอง
ฤดูกาลที่กำลังเติบโต ผลกระทบจากการย่อยสลายที่ถูกเมื่อเทียบกับของดั้งเดิมอินทรีย์
แก้ไขเพิ่มเติม (ปุ๋ยคอก) และเกลือแร่ธรรมดา ย่อยสลายนอกเหนือไปจากดินให้
แหล่งที่มาของสารอาหารที่มีอยู่ (ไนโตรเจนและฟอสฟอรัส) ในระยะสั้นและมีผลในเชิงบวกต่อดิน
คุณสมบัติทางชีวภาพเช่นจุลินทรีย์ชีวมวลและเอนไซม์กิจกรรมเมื่อเทียบกับที่ไม่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
ดิน การประยุกต์ใช้ย่อยสลายในดินนำไปเทียบเคียงกับอัตราผลตอบแทนการปฏิสนธิแร่สำหรับฤดูร้อน
พืชแตงโม อย่างไรก็ตามสำหรับการเพาะปลูกในฤดูหนาวดอกกะหล่ำแปลงเท่านั้นรับการรักษาด้วยปุ๋ยแร่
มีการผลิตที่ดี ไนโตรเจนจากย่อยสลายเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถใช้ได้อย่างมากสำหรับการเจริญเติบโตของพืชใน
ระยะสั้น แต่ยังสามารถหายไปได้อย่างง่ายดายพร้อมกับอัตราที่ช้าของกระบวนการจุลินทรีย์ต่ำเนื่องจาก
อุณหภูมิจะลดความสามารถในการผสมเกสรของย่อยสลาย นี้ดูเหมือนจะเป็นข้อ จำกัด หลัก
ปัจจัยสำหรับการเพาะปลูกในฤดูหนาวดอกกะหล่ำที่ย่อยสลายหรือปุ๋ยคอกที่ใช้เป็นน้ำสลัดฐานไม่
เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการพืชไนโตรเจนในช่วงวงจรการเจริญเติบโตของมันทั้งหมด