The Ubosot there are the Emerald Bu

The Ubosot there are the Emerald Buddha and special Buddha images the Phra Phutta Yodfa Chulakok and the Phra Phutta Loetla Napalai Buddha images are situated to the right and left of the throne of the Emerald Buddha. They are dedicated to King Rama I and King Rama II respectively. All the Buddha images are sheltered under tiered umbrellas symbolizing royalty.

The Emerald Buddha “Phra Kaew Morakot”

Dated back to 15th century AD, A jade Buddha image was carved somewhere in Asia, yet firstly discovered staying in Lanna Kingdom (Chiang Rai) and Siamese called him Phra Kaew, before he was travelling whether in northern areas and between Siam and Lan Chang (Laos, then was one of Siam’s colonies), finally King Taksin (Phra Jao Tak) brought the Buddha image to Wat Arun and stayed there till the end of his throne, the King Rama I invited him to Wat Phra Kaew.
The beauty of the jade made his name the Emerald Buddha or Phra Kaew Morakot (emerald). The Buddha image is highlighted by the ceremony of seasonal costumes taken every four months.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุโบสถมีมีพระแก้วมรกตและพระพุทธรูปพิเศษที่พระฟ้าฯ ดายอดฟ้า Chulakok และภาพพระฟ้าฯ อัครชายานภาลัยอยู่ขวาและซ้ายของราชบัลลังก์ของพระแก้วมรกต พวกเขาจะทุ่มเทให้กับพระรามผมและรามตามลำดับ พระพุทธรูปมีกำบังภายใต้ร่มฉัตรสัญลักษณ์ของราชวงศ์ รัตนศาสดาราม "พระแก้วมรกต" วันที่กลับไปศตวรรษที่ 15 พระพุทธรูปหยกแกะสลักแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่แรก พบในอาณาจักรล้านนา (เชียงราย) และสยามเรียกว่าเขาพระแก้ว ก่อนที่เขาได้เดินทาง ในพื้นที่ภาคเหนือ และ ระหว่างสยามและล้านช้าง (ลาว จากนั้นเป็นหนึ่งในอาณานิคมของสยาม), ในที่สุดสมเด็จพระเจ้าตากสิน (พระเจ้าตาก) นำพระพุทธรูปที่วัดอรุณ และอยู่ที่นั่นจนจบของบัลลังก์ พระรามผมเชิญเขาไปวัดพระแก้วความงามของหยกทำเขาชื่อพระแก้วมรกตหรือพระแก้วมรกต (มรกต) พระพุทธรูปจะถูกเน้น โดยพิธีแต่งกายตามฤดูกาลนำทุกสี่เดือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พระอุโบสถมีพระศรีรัตนศาสดารามและพระพุทธรูปพิเศษพระพุทธ Yodfa Chulakok และภาพพระพุทธ Loetla นภาลัยพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ทางด้านขวาและด้านซ้ายของพระที่นั่งของพระพุทธเจ้ามรกต พวกเขาจะทุ่มเทให้กับรัชกาลและรัชกาลที่สองตามลำดับ ทั้งหมดพระพุทธรูปที่กำบังภายใต้ร่มฉัตรสัญลักษณ์ค่าภาคหลวง.

แก้วมรกต "พระแก้วมรกต"

ย้อนไปถึงศตวรรษที่ 15, หยกพระพุทธรูปแกะสลักที่ใดที่หนึ่งในเอเชีย แต่ประการแรกการค้นพบอยู่ในอาณาจักรล้านนา (เชียงราย) และสยาม เรียกเขาว่าพระแก้วก่อนที่เขาจะเดินทางไม่ว่าจะในพื้นที่ภาคเหนือและระหว่างสยามและล้านช้าง (ลาวแล้วเป็นหนึ่งในอาณานิคมของสยาม) ในที่สุดสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พระเจ้าตาก) นำพระพุทธรูปไปยังวัดอรุณและอยู่ที่นั่นจนถึง ในตอนท้ายของพระที่นั่งของพระองค์รัชกาลที่ผมเชิญเขาไปวัดพระแก้ว.
ความงามของหยกทำให้ชื่อของเขาพระศรีรัตนศาสดารามหรือพระแก้วมรกต (Emerald) พระพุทธรูปจะถูกเน้นด้วยพิธีของเครื่องแต่งกายตามฤดูกาลนำทุกสี่เดือน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระอุโบสถมีพระพุทธรูปพระแก้วมรกต และ พิเศษ พระ phutta สมเด็จพระยอดฟ้า chulakok และพระ phutta เลิศนภาลัย พระพุทธรูปตั้งอยู่ด้านขวาและด้านซ้ายของบัลลังก์พระแก้วมรกต . พวกเขาจะทุ่มเทเพื่อรัชกาลที่รัชกาลที่ 2 และ ตามลำดับ ภาพพระพุทธเจ้าเป็นกำบังภายใต้ร่มฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์พระแก้วมรกต " พระแก้วมรกต "วันที่กลับไปศตวรรษที่ 15 โฆษณา , หยกพระพุทธรูปแกะสลักอยู่ในเอเชีย แต่ประการแรกค้นพบอยู่ในราชอาณาจักรล้านนา ( เชียงราย ) และสยามเรียกเขาว่าพระแก้วก่อนที่เขาได้เดินทางไม่ว่าในพื้นที่ภาคเหนือ และระหว่างสยามกับล้านช้าง ( ลาว ก็เป็นหนึ่งในเมืองสยาม อาณานิคม ) ในที่สุดพระเจ้าตากสิน , ( พระเจ้าตาก ) ได้นำพระพุทธรูป วัด อรุณ และอยู่ที่นั่นจนสิ้นบัลลังก์ รัชกาลที่ฉันชวนเขามาวัดพระแก้วความงามของหยกทำให้ชื่อของเขา พระแก้วมรกต หรือ พระแก้ว มรกต ( Emerald ) พระพุทธรูปจะถูกเน้นโดยพิธีเครื่องแต่งกายตามฤดูกาลถ่ายทุกสี่เดือน