sk most any gardener whether they p

sk most any gardener whether they prefer organic or chemical fertilizer, and chances are you’ll spark a lively debate. However, if you could ask your plants the same question, you’d find out that at the most basic level, they really can’t tell the difference – nutrients are nutrients.

Yet there ARE significant differences between organic and chemical fertilizers in terms of nutrient availability and the long-term effects on soil, plants, and the environment. So how does a conscientious gardener decide?

Terminology
To begin with, the terminology can be confusing, since labels and gardeners freely throw around words like organic, natural, inorganic, chemical, synthetic, artificial, and manufactured. The good news is that the choice can be reduced to either organic or chemical fertilizers.



Organic Fertilizer
The words “organic” or “natural” in this case simply means that the product is only minimally processed, and the nutrients remain bound up in their natural forms, rather than being extracted and refined. In the case of fertilizer, “organic” does NOT refer to the standards of processing associated with food.

Organic fertilizer is usually made from plant or animal waste or powdered minerals. Examples include manure and compost, as well as bone and cottonseed meal. They are usually sold as “soil conditioners” rather than as fertilizer, because the nutrient ratios are difficult to guarantee. Organic fertilizers may be processed in a factory, or, in the case of manure and compost, at a farm.

There is also a growing selection of more highly processed products now available, with labeled analysis of nutrients and contents. For example, Scotts Miracle-Gro Organic Choice Plant Food is a manufactured product composed entirely of chicken litter and ground up feathers, with an N-P-K ratio of 7-1-2. Garden Safe Organic Plant Food is made of poultry manure with a label very similar to chemical fertilizers.



Advantages of Organic Fertilizer:

In addition to releasing nutrients, as organic fertilizers break down, they improve the structure of the soil and increase its ability to hold water and nutrients. Over time, organic fertilizers will make your soil–and plants–healthy and strong.
Since they are the ultimate slow-release fertilizers, it’s very difficult to over fertilize (and harm) your plants.
There’s little to no risk of toxic buildups of chemicals and salts that can be deadly to plants.
Organic fertilizers are renewable, biodegradable, sustainable, and environmentally friendly.
Although rather expensive in packages, you can make your own organic fertilizer by composting or find inexpensive sources—such as local dairy farms—that may sell composted manure.
Disadvantages of Organic Fertilizer:

Microorganisms are required to break down and release nutrients into the soil. Since they need warmth and moisture to do their job, the effectiveness of organic fertilizer is limited seasonally. The good news is that these microorganisms obtain energy from decaying plant and animal matter, so an application of organic fertilizer provides a complete package of nutrients for your soil.
Organic fertilizers break down according to nature’s rules, so they may not release nutrients as soon as you need them. You have to be patient – you won’t see improvement overnight. In fact, you may actually see a deficiency in your plants during the first couple of months until the first application breaks down. Hang in there! You’ll most definitely be rewarded.
Nutrient ratios are often unknown, and the overall percentage is lower than chemical fertilizers. However, some organic products are actually higher in certain nutrients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

sk สวนใดว่า พวกเขาต้องการปุ๋ยอินทรีย์ หรือเคมี และมีโอกาสที่คุณจะจุดประกายการอภิปรายมีชีวิตชีวามากที่สุด อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณสามารถขอให้พืชของคุณคำถามเดียวกัน คุณจะค้นหาที่ระดับพื้นฐานมากที่สุด พวกเขาจริง ๆ ไม่สามารถบอกความแตกต่าง – สารอาหารคือ สารอาหารยัง มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปุ๋ยอินทรีย์ และเคมีในแง่ของการมีอยู่ของธาตุอาหารและผลกระทบระยะยาวในดิน พืช และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นไม่การตัดสินใจสวนคุณธรรมคำศัพท์จะเริ่มต้นด้วย คำศัพท์สามารถจะสับสน เนื่องจากป้ายชื่อและคนอิสระโยนรอบคำชอบอินทรีย์ ธรรมชาติ อนินทรีย์ เคมี สังเคราะห์ ประดิษฐ์ และผลิต ข่าวดีคือ ว่า ทางเลือกที่สามารถลดลงเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือเคมีปุ๋ยอินทรีย์คำ "อินทรีย์" หรือ "ธรรมชาติ" ในกรณีนี้ก็หมายความ ว่า ผลิตภัณฑ์จะถูกประมวลผลเฉพาะผ่า และสารอาหารยังคงผูกค่าในรูป แบบธรรมชาติ แทนการสกัด และกลั่น ในกรณีของปุ๋ย "อินทรีย์" ได้อ้างถึงมาตรฐานของการประมวลผลที่เกี่ยวข้องกับอาหารปุ๋ยอินทรีย์มักจะทำจากพืชหรือสัตว์เสีย หรือผงเกลือแร่ ตัวอย่างเช่นมูล และปุ๋ย ตลอดจนอาหารกระดูกและส่วนเกิน นอกจากนี้พวกเขามักจะขาย เป็น "ปรับอากาศดิน" ไม่ ใช่ เป็น ปุ๋ย เนื่องจากยากที่จะรับประกันอัตราส่วนธาตุอาหาร ปุ๋ยอินทรีย์อาจจะประมวลผล ในโรงงาน หรือ ในกรณี ของปุ๋ยพืชสดและปุ๋ย ที่ฟาร์มมียังมีการเลือกเติบโตประมวลผลมากกว่าผลิตภัณฑ์ตอนนี้ มีป้ายการวิเคราะห์สารอาหารและเนื้อหา ตัวอย่าง Scotts มหัศจรรย์ไม่เลือกพืชอาหารอินทรีย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตส่วนประกอบทั้งหมดของแคร่ไก่ และดินค่าขน มีอัตราส่วนการ N-P-K 7-1-2 ไม่มีป้ายชื่อคล้ายกับปุ๋ยเคมีทำสวนปลอดภัยพืชอาหารอินทรีย์ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์:นอกจากการปล่อยสารอาหาร ปุ๋ยอินทรีย์แบ่ง พวกเขาปรับปรุงโครงสร้างของดิน และเพิ่มความสามารถในการเก็บน้ำและสารอาหาร ช่วงเวลา ปุ๋ยอินทรีย์จะทำให้ดินของคุณ – และพืช – มีสุขภาพดี และแข็งแรงเนื่องจากปุ๋ยออกช้าที่สุด ได้ยากมากที่จะผ่าน fertilize (และเป็นอันตรายต่อ) ของพืชมีน้อยไม่มีความเสี่ยงของ buildups พิษของสารเคมีและเกลือที่อาจเป็นอันตรายกับพืชปุ๋ยอินทรีย์ไว้หมุนเวียน สลาย ยั่งยืน และสิ่งแวดล้อมแม้ว่าค่อนข้างแพงในแพคเกจ คุณสามารถทำให้คุณปุ๋ยอินทรีย์ โดยการหมัก หรือค้นหาแหล่งราคาไม่แพง — เช่นฟาร์มโคนมภายใน — ที่อาจขายมูล compostedข้อเสียของปุ๋ยอินทรีย์:จุลินทรีย์จะต้องทำลายลง และปล่อยสารอาหารในดิน เนื่องจากพวกเขาต้องการความอบอุ่นและความชื้นทำหน้าที่ ประสิทธิภาพของปุ๋ยอินทรีย์คือจำกัด seasonally ข่าวดีคือ ว่า จุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับพลังงานจากการสลายเรื่องพืชและสัตว์ เพื่อประยุกต์ของปุ๋ยอินทรีย์ให้แพคเกจที่สมบูรณ์ของสารอาหารในดินของคุณปุ๋ยอินทรีย์แบ่งตามกฎของธรรมชาติ ดังนั้นพวกเขาอาจปล่อยสารอาหารที่ไม่เป็นคุณจำเป็นต้อง คุณต้องอด – คุณจะไม่เห็นการปรับปรุงที่นอน ในความเป็นจริง คุณอาจจริงเห็นขาดการในพืชของคุณในระหว่างคู่แรกของเดือนจนกว่าแอพลิเคชันแรกแบ่ง หางมี คุณจะแน่นอนที่สุดได้รับรางวัลอัตราส่วนธาตุอาหารมักไม่ทราบ และเปอร์เซ็นต์โดยรวมไม่ต่ำกว่าปุ๋ยเคมี อย่างไรก็ตาม บางผลิตภัณฑ์อินทรีย์จะสูงจริงในสารอาหารบางอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

SK ที่สุดสวนใด ๆ ไม่ว่าพวกเขาต้องการปุ๋ยอินทรีย์หรือสารเคมีและโอกาสที่คุณจะจุดประกายการอภิปรายที่มีชีวิตชีวา แต่ถ้าคุณสามารถถามพืชของคุณคำถามเดียวกันคุณจะพบว่าในระดับพื้นฐานที่สุดที่พวกเขาไม่สามารถบอกความแตกต่าง - สารอาหารที่เป็นสารอาหาร. แต่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างปุ๋ยอินทรีย์และสารเคมีในแง่ของ ความพร้อมใช้งานของสารอาหารและผลกระทบระยะยาวบนพื้นดินพืชและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวิธีที่จะสวนมโนธรรมตัดสินใจ? ศัพท์เพื่อเริ่มต้นกับคำศัพท์ที่อาจสร้างความสับสนเนื่องจากฉลากและชาวสวนได้อย่างอิสระโยนรอบคำเช่นอินทรีย์ธรรมชาตินินทรีย์สารเคมีสังเคราะห์เทียมและผลิต ข่าวดีก็คือว่าทางเลือกที่สามารถลดลงได้ทั้งปุ๋ยอินทรีย์หรือสารเคมี. ปุ๋ยอินทรีย์คำว่า "อินทรีย์" หรือ "ธรรมชาติ" ในกรณีนี้ก็หมายความว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นเพียงการประมวลผลน้อยที่สุดและสารอาหารยังคงผูกพันในธรรมชาติของพวกเขา รูปแบบมากกว่าการสกัดและการกลั่น ในกรณีของปุ๋ย "อินทรีย์" ไม่ได้หมายถึงมาตรฐานของการประมวลผลที่เกี่ยวข้องกับอาหาร. ปุ๋ยอินทรีย์มักจะทำจากพืชหรือของเสียจากสัตว์หรือแร่ธาตุผง ตัวอย่างเช่นปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักรวมทั้งกระดูกและกากฝ้าย พวกเขาจะขายมักจะเป็น "ดิน" มากกว่าเป็นปุ๋ยเพราะอัตราส่วนสารอาหารที่เป็นเรื่องยากที่จะรับประกัน ปุ๋ยอินทรีย์อาจจะดำเนินการในโรงงานหรือในกรณีที่มีการใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักที่ฟาร์ม. นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์การประมวลผลสูงขึ้นในขณะนี้สามารถใช้ได้กับการวิเคราะห์ของสารอาหารที่มีข้อความและเนื้อหา ตัวอย่างเช่น Scotts Miracle-Gro อินทรีย์ทางเลือกโรงอาหารเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตประกอบด้วยทั้งหมดของครอกไก่และพื้นดินขึ้นขนที่มีอัตราส่วนของ NPK 7-1-2 การ์เด้นที่ปลอดภัยอาหารอินทรีย์พืชทำจากมูลไก่ที่มีป้ายชื่อคล้ายกับปุ๋ยเคมี. ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์: นอกจากนี้จะปล่อยสารอาหารเป็นปุ๋ยอินทรีย์ทำลายลงพวกเขาปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มความสามารถในการเก็บน้ำ และสารอาหาร เมื่อเวลาผ่านไปปุ๋ยอินทรีย์จะทำให้ดินของคุณและพืชสุขภาพดีและแข็งแรง. เนื่องจากพวกเขาเป็นสุดยอดปุ๋ยปล่อยช้ามันยากมากที่จะมากกว่าปุ๋ย (และอันตราย) โรงงานของคุณ. มีเล็ก ๆ น้อย ๆ กับความเสี่ยงของ buildups เป็นพิษของสารเคมีไม่ได้ และเกลือที่สามารถเป็นอันตรายต่อพืช. ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนย่อยสลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม. แม้ว่าจะค่อนข้างแพงในแพคเกจที่คุณสามารถทำปุ๋ยอินทรีย์ของคุณเองโดยการทำปุ๋ยหมักหรือหาแหล่งที่มาของราคาไม่แพงเช่นนมฟาร์มท้องถิ่นที่อาจ ขายปุ๋ยหมัก. ข้อเสียของการใช้ปุ๋ยอินทรีย์: จุลินทรีย์จะต้องทำลายลงและปล่อยสารอาหารลงไปในดิน เนื่องจากพวกเขาต้องการความอบอุ่นและความชื้นที่จะทำงานของพวกเขามีประสิทธิภาพของปุ๋ยอินทรีย์จะถูก จำกัด ตามฤดูกาล ข่าวดีก็คือว่าจุลินทรีย์เหล่านี้ได้รับพลังงานจากการสลายตัวอาคารและเรื่องสัตว์ดังนั้นการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้เป็นแพคเกจที่สมบูรณ์ของสารอาหารสำหรับดินของคุณ. ปุ๋ยอินทรีย์ทำลายลงไปตามกฎของธรรมชาติดังนั้นพวกเขาจึงไม่อาจปล่อยสารอาหารที่เร็วที่สุดเท่าที่ คุณต้องการพวกเขา คุณต้องอดทน - คุณจะไม่เห็นการปรับปรุงในชั่วข้ามคืน ในความเป็นจริงคุณจริงอาจจะเห็นข้อบกพร่องในโรงงานของคุณในช่วงสองสามสัปดาห์แรกของเดือนจนกว่าโปรแกรมแรกหยุดลง แขวนในที่นั่น! แน่นอนที่สุดคุณจะได้รับการตอบแทน. อัตราส่วนสารอาหารมักจะไม่ทราบและร้อยละโดยรวมต่ำกว่าปุ๋ยเคมี แต่บางสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นจริงที่สูงขึ้นในสารอาหารบางชนิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

SK ที่สุดใด ๆไม่ว่าพวกเขาชอบทำสวนอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี และโอกาสที่คุณจะจุดประกายการอภิปรายที่มีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตาม , ถ้าคุณสามารถให้พืชของคุณคำถามเดียวกันคุณจะพบว่าในระดับพื้นฐานที่สุด พวกเขาจริงๆไม่สามารถบอกความแตกต่างและรังรัง

ยัง มีความแตกต่างระหว่างปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีในด้านการบริการอาหารและผลกระทบในระยะยาวต่อดิน พืช และสภาพแวดล้อม ดังนั้นทำไมคนสวน รอบคอบ ตัดสินใจ


เริ่มต้นด้วยคำศัพท์ , คำศัพท์จะสับสน เพราะป้ายและชาวสวนได้อย่างอิสระโยนรอบคำว่าอินทรีย์ , ธรรมชาติ , นินทรีย์เคมีสังเคราะห์ประดิษฐ์ และผลิต ข่าวดีคือ ทางเลือกที่สามารถจะลดลงเพื่อให้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์




คำว่า " อินทรีย์ " หรือ " ธรรมชาติ " ในคดีนี้ก็หมายถึงว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นเพียงการประมวลผลน้อยที่สุด และรังที่ยังคงมีขึ้นในรูปแบบธรรมชาติของพวกเขามากกว่าที่จะสกัดและกลั่น . ในกรณีของปุ๋ย" อินทรีย์ " ไม่ได้อ้างถึงมาตรฐานของกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับอาหาร

ปุ๋ยอินทรีย์คือมักจะทำจากพืชหรือสัตว์ เสีย หรือผงเกลือแร่ ตัวอย่าง ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก และเช่นเดียวกับกระดูกและกากเมล็ดฝ้าย . พวกเขามักจะขายเป็น " ปรับอากาศดิน " มากกว่าจะเป็นปุ๋ย เพราะอัตราส่วนธาตุอาหารจะยากที่จะรับประกันปุ๋ยอินทรีย์อาจจะแปรรูปในโรงงาน หรือในกรณีของปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก ที่ฟาร์ม

นอกจากนี้ยังมีการเลือกมากกว่าการประมวลผลสูง ผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ได้กับป้ายวิเคราะห์ธาตุอาหารและเนื้อหา ตัวอย่างเช่น เลือกอาหารอินทรีย์พืช Scotts มิราเคิล Gro เป็นผลิตผลประกอบด้วยทั้งหมดของซากไก่และพื้นดินขนนกด้วยอัตราส่วน n-p-k ของ 7-1-2 . สวนพืชอาหารอินทรีย์ที่ปลอดภัยให้ใช้มูลไก่ที่มีป้ายข้อความคล้ายกับปุ๋ยเคมี .



ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ :

นอกจากปล่อยสารอาหาร เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ แบ่ง พวกเขาปรับปรุงโครงสร้างของดิน และเพิ่มความสามารถในการเก็บน้ำและ สารอาหาร . ตลอดเวลาปุ๋ยอินทรีย์จะให้ทั้งดินและพืชเพื่อสุขภาพแข็งแรง
ตั้งแต่พวกเขาเป็นปุ๋ยช้าที่สุด มันยากกว่าปุ๋ย ( และอันตราย ) พืชของคุณ .
มีน้อยและไม่มีความเสี่ยงของสารพิษ สารเคมี buildups และเกลือที่สามารถเป็นอันตรายกับพืช .
ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทน ย่อยสลายได้ทางชีวภาพอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าจะค่อนข้างแพงในแพคเกจคุณสามารถให้ปุ๋ยอินทรีย์ของคุณเองโดยการทำปุ๋ยหมัก หรือหาแหล่งที่ราคาไม่แพงเช่นท้องถิ่นฟาร์มโคนมที่อาจขายหมักปุ๋ยคอก
ข้อเสียของปุ๋ยอินทรีย์ :

จุลินทรีย์จะต้องหยุดลงและปล่อยสารอาหารในดิน ตั้งแต่ที่พวกเขาต้องการความอบอุ่นและความชื้นที่จะทำงานของพวกเขาผลของปุ๋ยอินทรีย์จำกัดตามฤดูกาล ข่าวดีคือ จุลินทรีย์เหล่านี้ ได้รับพลังงานจากสลายเรื่องพืชและสัตว์ ดังนั้น การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ให้แพคเกจที่สมบูรณ์ของสารอาหารในดินของคุณ .
ปุ๋ยอินทรีย์แบ่งตามกฎของธรรมชาติ ดังนั้นจึงไม่อาจปล่อยรังทันทีที่คุณต้องการคุณต้องเป็นผู้ป่วยและคุณจะเห็นการปรับปรุงในชั่วข้ามคืน ในความเป็นจริงคุณอาจจะเห็นจริง ขาดพืชของคุณในช่วง 2-3 เดือนแรก จนถึงก่อนการหยุดพักลง ทำใจดีๆไว้นะ ! คุณจะแน่นอนที่สุดจะได้รับรางวัล
อัตราส่วนสารอาหารมักจะไม่ทราบและเปอร์เซ็นต์โดยรวมน้อยกว่าปุ๋ยเคมี อย่างไรก็ตาม