Heed the warning Several strands of

Heed the warning Several strands of evidence suggest that management of children with asthma is often suboptimal, which increases the risk of AAEs. For example, admissions for children with asthma vary more than tenfold between clinical commissioning groups from 60 to 639 admissions per 100 000 of the population (Asthma UK, 2014). Furthermore, Asthma UK identifies three core elements of high quality care: a written action plan, checking inhaler technique and a structured review at least annually (Asthma UK, 2014; BTS/SIGN, 2014). For example, people without action plans are four times more likely to need to go to hospital for their asthma (Asthma UK, 2014). Between 32% and 96% of patients make errors using MDIs. Indeed, 28% to 68% do not use their MDI or dry powder inhaler (DPI) sufficiently well to benefit (Chrystyn and Price, 2009). In another recent study, just 7% of a group of 44 adults and children used MDIs correctly (Bonds, 2015). Nevertheless, according to Asthma UK (2014), 64% of children had not received a written action plan, 24% had not had their inhaler technique checked and 22% did not receive an annual review. Just 28% met all three markers of care. Therefore, school nurses can stress the importance of action plans, checking inhaler technique and annual review to parents, children and their community healthcare colleagues. ‘Unless treated promptly and efficiently,’ AAEs can rapidly escalate into potentially life-threatening attacks (Guibas et al, 2012). So, school nurses could ensure that the policy clearly indicates what to do and when. In addition, an AAE warns of suboptimal care and school nurses can help parents, when appropriate the children, and community healthcare team heed the warning. An AAE offers school nurses the opportunity to encourage the review of treatment and other elements of care that should help reduce the risk of further exacerbations

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รำลึกเตือนหลาย strands ของหลักฐานแนะนำว่า ของเด็กโรคหอบหืดมักจะเป็นสภาพ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของ AAEs ตัวอย่าง รับสมัครเด็กโรคหอบหืดมากกว่า tenfold ระหว่างคลินิก commissioning กลุ่มจาก 60 ไปสมัครเรียน 639 ต่อ 100 000 ของประชากร (โรคหืด UK, 2014) แตกต่างกันไป นอกจากนี้ โรคหอบหืด UK ระบุสามองค์ประกอบหลักของคุณภาพ: การดำเนินการเขียนแผน ตรวจสอบยาเทคนิคและโครงสร้างรีวิวน้อยปี (โรคหืด UK, 2014 BTS/SIGN, 2014) ตัวอย่าง ผู้ มีแผนการดำเนินการเป็นครั้งที่สี่มักต้องไปโรงพยาบาลของโรคหอบหืด (โรคหืด UK, 2014) ระหว่าง 32% และ 96% ของผู้ป่วยทำผิดใช้ MDIs แน่นอน 28% กับ 68% ไม่การไอหรือยาผงแห้ง (DPI) ของพวกเขาพอดีได้ประโยชน์ (Chrystyn และราคา 2009) ในการศึกษาล่าสุดอื่น เพียง 7% ของกลุ่มผู้ใหญ่และเด็ก 44 ใช้ MDIs ได้อย่างถูกต้อง (ขายหุ้นกู้ 2015) อย่างไรก็ตาม ตามโรคหืดที่ UK (2014), 64% ของเด็กได้รับการดำเนินการเขียนแผน 24% เคยมีเทคนิคถ้ำของพวกเขาตรวจสอบ แล้ว 22% ไม่ได้รับการตรวจสอบประจำปี เพียง 28% ตรงตามเครื่องหมายที่สามทั้งหมดของ ดังนั้น โรงเรียนพยาบาลสามารถย้ำความสำคัญของแผนการดำเนินการ ตรวจสอบยาเทคนิคและตรวจสอบประจำปีให้ผู้ปกครอง เด็ก และเพื่อนร่วมดูแลสุขภาพชุมชน 'ถ้ารับการรักษาทันที และมีประสิทธิภาพ AAEs อย่างรวดเร็วสามารถเลื่อนระดับเป็นอาจชีวิตส่วนโจมตี (Guibas et al, 2012) โรงเรียนพยาบาลสามารถให้แน่ใจว่า นโยบายชัดเจนบ่งชี้ว่า จะทำอย่างไร และเมื่อ นอกจากนี้ เอเออีการเตือนดูแลสภาพ และโรงเรียนพยาบาลสามารถช่วยผู้ปกครอง เด็ก และทีมสุขภาพชุมชนคำเตือนรำลึกความเหมาะสม เฟิร์สทออนลินคอล์นเป็นโอกาสในการส่งเสริมการทบทวนรักษาและองค์ประกอบอื่น ๆ ของการดูแลจะช่วยลดความเสี่ยงต่อ exacerbations พยาบาลโรงเรียนมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังคำเตือนเส้นหลายหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดการของเด็กที่มีโรคหอบหืดมักจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการ Aaes ยกตัวอย่างเช่นการรับสมัครสำหรับเด็กที่มีโรคหอบหืดแตกต่างกันไปขึ้นกว่าสิบเท่าระหว่างกลุ่มว่าจ้างคลินิก 60-639 การรับสมัครต่อ 100 000 ของประชากร (หอบหืดสหราชอาณาจักร, 2014) นอกจากนี้โรคหืดสหราชอาณาจักรระบุสามองค์ประกอบหลักของการดูแลที่มีคุณภาพสูง: แผนปฏิบัติการการเขียนการตรวจสอบเทคนิคการพ่นยาและการตรวจสอบโครงสร้างอย่างน้อยปีละ (หอบหืดสหราชอาณาจักร, 2014; BTS / SIGN, 2014) ตัวอย่างเช่นคนที่ไม่มีแผนการดำเนินงานเป็นครั้งที่สี่มีแนวโน้มที่จะต้องไปที่โรงพยาบาลสำหรับโรคหอบหืดของพวกเขา (หอบหืดสหราชอาณาจักร, 2014) ระหว่าง 32% และ 96% ของผู้ป่วยที่ทำผิดพลาดโดยใช้ MDIs อันที่จริง 28% ถึง 68% ไม่ได้ใช้ MDI หรือยาสูดพ่นผงแห้งของพวกเขา (DPI) พอที่จะได้รับประโยชน์ (Chrystyn และราคา, 2009) ในการศึกษาเมื่อเร็ว ๆ นี้อีกเพียง 7% ของกลุ่ม 44 เด็กและผู้ใหญ่ใช้ MDIs ถูกต้อง (พันธบัตร, 2015) แต่จากการหอบหืดสหราชอาณาจักร (2014), 64% ของเด็กที่ไม่เคยได้รับแผนปฏิบัติการเขียน 24% ไม่ได้มีเทคนิคการพ่นยาของพวกเขาตรวจสอบและ 22% ไม่ได้รับการตรวจสอบประจำปี เพียงแค่ 28% พบทั้งสามเครื่องหมายของการดูแล ดังนั้นพยาบาลโรงเรียนสามารถเน้นความสำคัญของการวางแผนการดำเนินการตรวจสอบเทคนิคการพ่นยาและการทบทวนประจำปีให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเด็กและเพื่อนร่วมงานของการดูแลสุขภาพชุมชนของพวกเขา 'เว้นแต่จะได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ' Aaes อย่างรวดเร็วสามารถขยายเข้าโจมตีที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต (Guibas, et al, 2012) ดังนั้นพยาบาลโรงเรียนสามารถตรวจสอบให้แน่ใจว่านโยบายบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าจะทำอย่างไรและเมื่อ นอกจากนี้ AAE เตือนของการดูแล suboptimal และพยาบาลโรงเรียนสามารถช่วยให้ผู้ปกครองเมื่อเด็กที่เหมาะสมและทีมงานการดูแลสุขภาพชุมชนฟังคำเตือน AAE บริการพยาบาลโรงเรียนโอกาสที่จะส่งเสริมให้มีการตรวจสอบของการรักษาและองค์ประกอบอื่น ๆ ของการดูแลที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการกำเริบเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต่อคำเตือนหลายเส้นของหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดการของผู้ป่วยเด็กโรคหอบหืดมัก suboptimal ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของ aaes . ตัวอย่างเช่น การรับสมัครเด็กที่มีโรคหอบหืดแตกต่างกันมากกว่าสิบเท่าระหว่างคลินิกการว่าจ้างจากกลุ่ม 60 แต่สมัครต่อ 100 , 000 ประชากร ( UK , หอบหืด 2014 ) นอกจากนี้อังกฤษหืดระบุสามองค์ประกอบหลักของการดูแลที่มีคุณภาพสูง : เขียนแผนปฏิบัติการ การตรวจสอบเครื่องพ่นยาเทคนิคและโครงสร้างตรวจสอบอย่างน้อยปีละ ( UK , หอบหืด 2014 ; BTS / เข้าสู่ระบบ , 2014 ) ตัวอย่างเช่น คนที่ไม่มีแผนปฏิบัติการ 4 ครั้งมีแนวโน้มที่จะต้องไปโรงพยาบาลสำหรับโรคหอบหืดของพวกเขา ( อังกฤษ , โรคหอบหืด 2014 ) ระหว่าง 32 และร้อยละ 96 % ของผู้ป่วยทำให้ข้อผิดพลาดโดยใช้ mdis . แน่นอน28 ร้อยละ 68 % ไม่ได้ใช้ยาพ่น MDI หรือผงแห้ง ( DPI ) เพียงพอดีที่จะได้รับประโยชน์ ( chrystyn และราคา , 2009 ) ในอีกการศึกษาล่าสุดเพียง 7 % ของกลุ่มผู้ใหญ่และเด็กใช้ mdis อย่างถูกต้อง ( พันธบัตร , 2015 ) อย่างไรก็ตาม ตาม UK หืด ( 2014 ) , 64 % ของเด็กไม่ได้รับเขียนแผนการดําเนิน24 % ไม่ได้มีเครื่องพ่นยาเทคนิคตรวจสอบ และ 22 % ไม่ได้รับการตรวจสอบประจำปี เพียง 28 % พบทั้งสามเครื่องหมายของการดูแล ดังนั้น ครูพยาบาลสามารถความเครียดความสำคัญของแผนปฏิบัติการ การตรวจสอบเครื่องพ่นยาเทคนิคและทบทวนประจำปี ผู้ปกครอง เด็ก และชุมชนของตนเอง สุขภาพ เพื่อนร่วมงาน ถ้าได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ' aaes อย่างรวดเร็วสามารถกลายเป็นการโจมตีที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ( guibas et al , 2012 ) ดังนั้น ครูพยาบาลจะให้นโยบายอย่างชัดเจนว่าสิ่งที่ต้องทำและเมื่อ นอกจากนั้น แอ๊ะเตือนของการดูแล suboptimal และพยาบาลโรงเรียนสามารถช่วยให้พ่อแม่ที่เหมาะสมกับเด็ก และ ทีมสุขภาพชุมชนฟังคำเตือนมี AAE ให้พยาบาลโรงเรียนโอกาส เพื่อให้ทบทวนการรักษาและองค์ประกอบอื่น ๆของการดูแลที่จะช่วยลดความเสี่ยงของผู้ป่วยต่อไป