One of the important health needs f

One of the important health needs for children is oral health care. The 2011 US Dental Health Project reported that poor dental health among young children is increasing, with 50% of children experience at least one cavity by kindergarten. According to Jill Boylston of the University of Florida’s College of Medicine, it is important to identify effective policies to tackle the prevalent problem of untreated tooth decay which affects children’s overall health and well-being, especially among vulnerable and low-income children. The purpose of our presentation is to report a study by Jo Blevins investigating the level of oral health care provided to hospitalized children on acute care units at a children’s hospital. 14/15
In this study, participants were 49 pediatric nurses and parents of 59 hospitalized children. All participants provided answers to specific questionnaire questions including (1) What type and frequency of oral care activities do pediatric nurses engage in while caring for hospitalized children? (2) Do nurses engaged in collaborative care with an affiliated dental school and dental residents? (3) What are primary caretaker’s perception of the oral care received by their hospitalized children? (4) How often are hospitalized children’s teeth brushed and by whom? (5) Is there a difference in the frequency of tooth brushing at home versus in the hospital? 5/5
According to the parents, 17% of the children brushed their teeth more than once a day, but 60% of these same children brushed more than once a day when at home. According to the nurse respondents, their assessments, interventions, health teaching, and referrals related to oral care are done in frequently. Over 40% of the nurses responded that they do not educate patients about oral hygiene, and 61/2% provide no nutritional education in relation to oral health. The majority had never entered documentation related to broken teeth or cavities, and 85.75 had never advised patients to see a dentist. 4/5
Oral health is integral to overall health and should be attended to whether a child is at home or in the hospital. Oral health care should be a basic part of nursing care while children are hospitalized. The Research on this topics can assist pediatric nurses in providing desired best practices for oral health care in hospitalized children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หนึ่งของความต้องการสุขภาพที่สำคัญสำหรับเด็กเป็นการดูแลสุขภาพช่องปาก 2011 สหรัฐอเมริกาทันตสุขภาพโครงการรายงานว่า สุขภาพฟันในเด็กเพิ่มขึ้น 50% เด็กประสบการณ์น้อยช่อง โดยโรงเรียนอนุบาล ตาม Boylston จิลของวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฟลอริดา จะต้องระบุนโยบายมีประสิทธิภาพเล่นงานปัญหาการแพร่หลายของไม่ถูกรักษาฟันผุซึ่งมีผลต่อเด็กโดยรวมสุขภาพและสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่อ่อนแอ และแนซ์ วัตถุประสงค์ของงานนำเสนอของเราคือ รายงานการศึกษา โดยตรวจสอบระดับของการดูแลสุขภาพช่องปากให้เด็กพักบนหน่วยดูแลเฉียบพลันที่โรงพยาบาลเด็ก Jo Blevins 14/15 ในการศึกษานี้ คนมีพยาบาลเด็กและผู้ปกครองของเด็กพัก 59 49 ร่วมให้คำตอบแบบสอบถามเฉพาะคำถาม (1) รวมทั้งชนิด และความถี่ของกิจกรรมการดูแลช่องปากทำพยาบาลเด็กมีส่วนร่วมในขณะดูแลเด็กพัก (2) ทำการพยาบาลในการดูแลร่วมกับโรงเรียนการทันตกรรมในเครือและชาวทันตกรรม (3) สิ่งรับรู้ของผู้ดูแลหลักของการดูแลช่องปากที่รับลูก hospitalized (4) ว่าจะฟันพักเด็กสร้าง และ โดยใคร (5) มีความแตกต่างในความถี่ของฟันแปรงที่บ้านและในโรงพยาบาล 5/5ตามผู้ปกครอง 17% ของเด็กที่ทาสีฟันของพวกเขามากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน แต่ 60% ของเด็กเหล่านี้เหมือนกันงานมากกว่าหนึ่งครั้งต่อวันเมื่อที่บ้าน ตามพยาบาล ผู้ตอบ ผู้ประเมิน แทรกแซง สุขภาพสอน และอ้างอิงที่เกี่ยวข้องกับช่องปากดูแลจะทำบ่อย ๆ กว่า 40% ของพยาบาลที่ตอบว่า พวกเขาไม่รู้ผู้ป่วยเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก และ 61/2% มีการศึกษาคุณค่าทางโภชนาการไม่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก ส่วนใหญ่ไม่ได้ป้อนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับฟันแตกหรือฟันผุ และ 85.75 ไม่ได้แนะนำให้ผู้ป่วยหาหมอฟัน 4/5 สุขภาพช่องปากไปสุขภาพโดยรวม และควรดูแลเด็กไม่ว่าจะที่บ้าน หรือโรงพยาบาล ดูแลสุขภาพช่องปากควรจะเป็นส่วนพื้นฐานของพยาบาลขณะเด็กพยาบาล การวิจัยในหัวข้อนี้สามารถช่วยเด็กพยาบาลให้ระบุแนวทางปฏิบัติสำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กที่พัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในความต้องการด้านสุขภาพที่สำคัญสำหรับเด็กคือการดูแลสุขภาพช่องปาก 2011 สหรัฐอเมริกาโครงการทันตสุขภาพรายงานว่าสุขภาพฟันที่ไม่ดีในหมู่เด็กเล็กจะเพิ่มขึ้นด้วย 50% ของเด็กที่มีประสบการณ์อย่างน้อยหนึ่งช่องโดยโรงเรียนอนุบาล ตามที่จิลล์บอยล์สตันของมหาวิทยาลัยฟลอริดาวิทยาลัยแพทยศาสตร์มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะระบุนโยบายที่มีประสิทธิภาพเพื่อรับมือกับปัญหาที่แพร่หลายของฟันผุได้รับการรักษาที่มีผลต่อสุขภาพโดยรวมของเด็กและความเป็นอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เด็กที่เปราะบางและมีรายได้ต่ำ วัตถุประสงค์ของการนำเสนอของเราคือการรายงานการศึกษาโดยโจ Blevins ตรวจสอบระดับของการดูแลสุขภาพช่องปากให้กับโรงพยาบาลเด็กในหน่วยดูแลผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเด็ก 14/15
ในการศึกษาครั้งนี้ผู้เข้าร่วมมี 49 หอผู้ป่วยเด็กและผู้ปกครองของเด็กในโรงพยาบาล 59 ผู้เข้าร่วมทั้งหมดให้คำตอบสำหรับคำถามแบบสอบถามเฉพาะรวมถึง (1) สิ่งที่ชนิดและความถี่ของกิจกรรมการดูแลช่องปากทำพยาบาลเด็กมีส่วนร่วมในขณะที่การดูแลเด็กในโรงพยาบาล? (2) ทำพยาบาลมีส่วนร่วมในการดูแลความร่วมมือกับโรงเรียนในเครือทันตกรรมและทันตกรรมที่อาศัยอยู่? (3) การรับรู้สิ่งที่เป็นผู้ดูแลหลักของการดูแลช่องปากที่ได้รับจากโรงพยาบาลเด็กของพวกเขา? (4) วิธีการรักษาในโรงพยาบาลมักจะฟันเด็กแปรงและโดยใคร? (5) มีความแตกต่างในความถี่ของการแปรงฟันที่บ้านเมื่อเทียบกับในโรงพยาบาล? 5/5
ตามที่พ่อแม่, 17% ของเด็กแปรงฟันของพวกเขามากกว่าหนึ่งครั้งต่อวัน แต่ 60% ของเด็กเหล่านี้เหมือนกันแปรงมากกว่าวันละครั้งเมื่ออยู่ที่บ้าน ตามที่ผู้ตอบแบบสอบถามพยาบาล, การประเมินผลของพวกเขาการแทรกแซงการเรียนการสอนด้านสุขภาพและการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลช่องปากจะทำในบ่อย กว่า 40% ของพยาบาลตอบว่าพวกเขาไม่ได้ให้ความรู้แก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับสุขอนามัยในช่องปากและ 61/2% ไม่ให้การศึกษาทางโภชนาการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพช่องปาก ส่วนใหญ่ไม่เคยป้อนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเสียฟันหรือฟันผุและ 85.75 ไม่เคยให้คำแนะนำผู้ป่วยไปพบทันตแพทย์ 4/5
สุขภาพในช่องปากเป็นหนึ่งต่อสุขภาพโดยรวมและควรจะเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็นเด็กอยู่ที่บ้านหรือในโรงพยาบาล การดูแลสุขภาพช่องปากควรจะเป็นส่วนพื้นฐานของการดูแลรักษาพยาบาลในขณะที่เด็กได้รับการรักษาในโรงพยาบาล งานวิจัยเกี่ยวกับหัวข้อนี้สามารถช่วยพยาบาลเด็กในการให้บริการที่ต้องการปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากในเด็กในโรงพยาบาล