Tomato, Lycopersicum esculentum (Mi

Tomato, Lycopersicum esculentum (Miller) is a staple fruit vegetable. Fresh fruits are very important source of vitamins and minerals which are essential for human health that is one of the most important fruit consumed as vegetables in the world. It is considered as an important cash and industrial crop in many parts of the world [1]. Tomato cultivars are much sensitive to hot climate of Pakistan [2] where the varieties are differ in characters like fruit shape, size, firmness, yield and quality [3] for food industry as they serve as raw material for production of value added products [4]. Pakistan produces two crops annually first in spring and second in autumn. However, in southern Pakistan, tomato can be grown throughout the year. During, 2010-11 the cultivation was estimated 52.3 hectors in Pakistan and 14.6 in Sindh with production overall 529.6 and 114.8 tones and yield 10.1 and 7.9 tones per hector was recorded [5]. To delay ripening in tomato temperature should be greater than 26-27C as harvested at different stages and stored. Although fully ripened tomatoes may be held at 2-5 ฐC before consumption for short time [6]. But the mature green tomatoes should not be placed at temperature below 12 ฐC as it causes chilling injury which adversely affects quality and ripening [7].
A wide range of insects attack tomato and forms major limiting factor in its successful cultivation and improvement in yield. Among them fruit borer, Helicoverpa armigera (Hubner) is the most destructive insect pest causing the loss in tomato yield to the tune of 50 to 80 percent. The genus Helicoverpa armigera (Hubner) belongs to Trifine subfamily Heliothinae of family Noctuidae of insect order Lepidoptera [8]. These species are polyphagous in nature their ability to adapt diverse cropping systems and wide geographic range has contributed to pest status [9]. H. armigera commonly known as American bollworm, is the major pest of many crops and considered as the most main pest of cotton, all over the world and also in Pakistan [10] on many crops from many countries [11] with 50% of all insecticides used in India and China are used to control this pest, despite continually re-entering regions of the Europe. For example H. armigera was first reported from Hungary in 1951 but did not establish in neighboring Austria until 2003. Field failures resulting from pyrethroid resistance have been reported from Australia, Thailand, Turkey, India, Indonesia and Pakistan [12]. Gene flow is high because of large-scale migration of populations [13]. Furthermore, H. armigera has developed resistance against insecticides. Earlier reports showed that the pyrethroids were the most potent against this pest and these insecticides reduced the population and damage of H. armigera effectively. But indiscriminate use of insecticides resulted in H. armigera becoming resistant to the insecticides. Now, it has also become difficult to control this pest because it has developed resistance against several conventional insecticides from the Organophosphate, Pyrethroid and Carbamate groups. Resistance has been reported from different parts of the world, especially from, New Zealand [14], India [15], Australia [16], Spain [17] and Pakistan [18]. Organophosphates were initially used for borer control then were gradually replaced by pyrethroids during the 1970s. During the early 1980s, cartap which alternates with pyrethroids and thiocyclam were sprayed showing the good effectiveness of the former. During the 1990s, insecticides with novel mode of actions were introduced such as abamectin, acylurea, insect growth regulators, tenbufenozide and chlorfenapyr [19]. Superiority of profenophos over cypermethrin and dichlorvos with respected to mean larval population and percent fruit damage [20]. However, synthetic pyrethroids have been reported most effective against fruit borer [21]. Spinosad provided effective control of Lepidopteran, thysanopteran pests and some coleopteran, homopteran, hymanopteran and orthopteran species [20]. The application of insecticides reduced the larval population of H. armigera to a considerable extent and hence increased the yield [22]. However, [23] suggested the effective control of this insect pest, Endosulfan 35 EC @ 1000 ml ha-1, Deltamethrin 2.8 EC @ 750 ml ha-1, Quinalphos 25 EC @ 1000 ml ha-1 can be applied. In case of severe infestation, application of Olytrin C 44 EC @ 1000 ml ha-1, Profenophos 50 EC @ 1500 ml ha, Spark 36 EC at the rate of 1000 ml ha or Chlorpyriphos 20 EC (200 ml) + Acephate 100 ml ha-1 are recommended. To defend this problem therefore, the present study was carried out in the field conditions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Lycopersicum esculentum (มิลเลอร์) มะเขือเทศเป็นผักผลไม้หลัก ผลไม้สดเป็นสิ่งสำคัญมากแหล่งของวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับสุขภาพของมนุษย์ที่เป็นหนึ่งในผลไม้สำคัญ ใช้เป็นผักในโลก ก็ถือว่าเป็นใบสำคัญเงินสดและพืชอุตสาหกรรมในหลายส่วนของโลก [1] พันธุ์มะเขือเทศมีมากความไวต่อสภาพอากาศร้อนของปากีสถาน [2] ซึ่งพันธุ์แตกต่างในอักขระเช่นผลไม้รูปร่าง ขนาด ไอซ์ ผลผลิต และคุณภาพ [3] สำหรับอุตสาหกรรมอาหารบริการเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตมูลค่าเพิ่มเป็นสินค้า [4] ปากีสถานผลิตพืชสองปีแรก ในฤดูใบไม้ผลิ และที่สอง ในฤดูใบไม้ร่วง อย่างไรก็ตาม ในภาคใต้ปากีสถาน มะเขือเทศได้ปลูกตลอดทั้งปี ระหว่าง 2010-11 มีการเพาะปลูกประมาณ hectors 52.3 ในปากีสถาน และ 14.6 ใน Sindh ผลิต 529.6 โดยรวมและ 114.8 โทนและโทนผลผลิต 10.1 และ 7.9 ต่อนางได้บันทึกไว้ [5] ชักช้า ripening ในมะเขือเทศ อุณหภูมิควรจะมากกว่า 26-27C เก็บเกี่ยวในระยะต่าง ๆ และเก็บไว้ แม้ว่ามะเขือเทศที่สุกเต็มที่อาจจัดขึ้นที่ ฐC 2-5 ก่อนที่จะใช้เวลาสั้น ๆ [6] แต่มะเขือเทศสีเขียวผู้ใหญ่ควรไม่สามารถทำได้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 12 ฐC เท่าที่จะทำให้บาดเจ็บหนาวซึ่งมีผลกระทบคุณภาพและ ripening [7] ความหลากหลายของแมลงโจมตีมะเขือเทศและฟอร์มจำกัดปัจจัยสำคัญในการเพาะปลูกประสบความสำเร็จและปรับปรุงผลตอบแทน ในบรรดาผลไม้เขา borer, Helicoverpa armigera (Hubner) คือ แมลงแมลงทำลายมากที่สุดก่อให้เกิดการสูญเสียผลตอบแทนมะเขือเทศของ 50 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในสกุล Helicoverpa armigera (Hubner) เป็นของ Trifine subfamily Heliothinae ครอบครัว Noctuidae สั่งแมลงเจาะต้น [8] พันธุ์เหล่านี้มี polyphagous ในธรรมชาติความสามารถในการปรับระบบหลากหลายครอบและช่วงกว้างทางภูมิศาสตร์มีส่วนสถานะศัตรูพืช [9] Armigera H. ที่รู้จักกันทั่วไปเป็น bollworm อเมริกัน เป็นศัตรูพืชสำคัญของพืชมาก และถือเป็นพืชหลักสุดฝ้าย ทั่วโลก และในปากีสถาน [10] บนพืชจำนวนมากจากหลายประเทศ [11] ด้วย 50% ของยาฆ่าแมลงทั้งหมดที่ใช้ในอินเดียและจีนจะใช้ในการควบคุมศัตรูพืชนี้ แม้ มีอย่างต่อเนื่องเข้าภูมิภาคของยุโรปอีกครั้ง เช่น H. armigera ก่อนรายงานจากฮังการีใน 1951 แต่ไม่ได้สร้างในเพื่อนบ้านออสเตรียจนถึง 2003 ฟิลด์ความล้มเหลวที่เกิดจากความต้านทาน pyrethroid ถูกรายงานจากออสเตรเลีย ไทย ตุรกี อินเดีย อินโดนีเซีย และปากีสถาน [12] ขั้นตอนยีนไม่สูงเนื่องจากการโยกย้ายใหญ่ของประชากร [13] นอกจากนี้ H. armigera ได้พัฒนาความต้านทานต่อยาฆ่าแมลง รายงานก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า pyrethroids ได้มีศักยภาพมากที่สุดกับพืชนี้ และยาฆ่าแมลงเหล่านี้ลดลงประชากรและความเสียหายของ H. armigera ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่เลือกใช้ยาฆ่าแมลงให้ H. armigera ทนต่อยาฆ่าแมลงเป็น ตอนนี้ มันได้กลายเป็นยากที่จะควบคุมศัตรูพืชนี้เนื่องจากได้มีพัฒนาความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงทั่วไปหลายจากกลุ่ม Organophosphate, Pyrethroid และ Carbamate ต้านทานได้รับรายงานจากส่วนต่าง ๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จาก นิวซีแลนด์ [14], [15] อินเดีย ออสเตรเลีย [16], สเปน [17] [18] ปากีสถาน Organophosphates เริ่มใช้สำหรับการควบคุม borer แล้วมาค่อย ๆ แทน pyrethroids ระหว่างทศวรรษ 1970 ในช่วงต้นทศวรรษ 1980, cartap ซึ่งเปลี่ยนแปลง pyrethroids และ thiocyclam ถูกพ่นแสดงประสิทธิภาพดีของเดิม ในช่วงปี 1990 ยาฆ่าแมลงกับนวนิยายโหมดของการดำเนินการได้แนะนำเช่น abamectin, acylurea เจริญเติบโตของแมลงเร็คกูเลเตอร์ tenbufenozide และ chlorfenapyr [19] ปม profenophos cypermethrin และ dichlorvos ด้วยยอมรับหมายประชากร larval และเปอร์เซ็นต์ผลไม้เสียหาย [20] อย่างไรก็ตาม pyrethroids สังเคราะห์รายงานมีประสิทธิภาพสูงสุดกับผลไม้ borer [21] Spinosad ให้มีประสิทธิภาพควบคุม Lepidopteran ศัตรูพืช thysanopteran และ coleopteran, homopteran, hymanopteran และบางสปีชีส์ orthopteran [20] ใช้ยาฆ่าแมลงลดลงประชากร larval ของ H. armigera ระดับมาก และเพิ่มผลผลิต [22] ดังนั้น อย่างไรก็ตาม, [23] แนะนำการควบคุมมีประสิทธิภาพนี้แมลงศัตรูพืช เอนโดซัลแฟน 35 EC @ 1000 ml ฮา-1, Deltamethrin EC 2.8 @ 750 ml ฮา-1, Quinalphos 25 EC @ 1000 ml ฮา-1 สามารถใช้ ในกรณีรุนแรงทำลาย ใช้ Olytrin C 44 EC @ 1000 ml ฮา-1, EC 50 Profenophos @ 1500 ml ฮา จุดประกาย 36 EC ในอัตรา 1000 ml ฮา หรือ Chlorpyriphos 20 EC (200 มล) + Acephate 100 ml ฮา-1 แนะนำ เพื่อป้องกันปัญหานี้ดังนั้น การศึกษาปัจจุบันได้ดำเนินการในเงื่อนไขเขตข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเขือเทศ lycopersicum esculentum (มิลเลอร์) เป็นผักผลไม้เป็นหลัก ผลไม้สดเป็นแหล่งที่มาที่สำคัญมากของวิตามินและแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อสุขภาพของมนุษย์ที่เป็นหนึ่งในผลไม้ที่สำคัญที่สุดบริโภคเป็นผักในโลก ก็ถือเป็นเงินสดที่สำคัญและพืชอุตสาหกรรมในหลายส่วนของโลก [1] พันธุ์มะเขือเทศมีมากไวต่ออากาศร้อนของประเทศปากีสถาน [2] ที่พันธุ์จะแตกต่างกันในตัวอักษรเช่นผลไม้รูปร่าง, ขนาด, ความแน่น, ผลผลิตและคุณภาพ [3] สำหรับอุตสาหกรรมอาหารที่พวกเขาทำหน้าที่เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม [ 4] ปากีสถานผลิตสองพืชเป็นประจำทุกปีเป็นครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงที่สองใน อย่างไรก็ตามในทางตอนใต้ของปากีสถานมะเขือเทศสามารถเจริญเติบโตตลอดทั้งปี ในช่วงการเพาะปลูก 2010-11 อยู่ที่ประมาณ 52.3 รังแกในปากีสถานและ 14.6 ฮ์ที่มีการผลิตโดยรวม 529.6 และ 114.8 เสียงและผลผลิต 10.1 และ 7.9 ตันต่อเฮคเตอร์ได้รับการบันทึก [5] เพื่อชะลอการสุกในอุณหภูมิมะเขือเทศควรมากกว่า 26-27C เป็นเก็บเกี่ยวในแต่ละขั้นตอนที่แตกต่างกันและเก็บไว้ แม้ว่ามะเขือเทศสุกเต็มที่อาจจะจัดขึ้นที่ 2-5 ฐ C ก่อนบริโภคในช่วงเวลาสั้น [6] แต่มะเขือเทศสีเขียวผู้ใหญ่ไม่ควรวางไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 12 ฐ C ในขณะที่มันทำให้เกิดอาการสะท้านหนาวซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพและสุก [7].
หลากหลายของแมลงมะเขือเทศโจมตีและรูปแบบการ จำกัด ปัจจัยสำคัญในการเพาะปลูกที่ประสบความสำเร็จและการปรับปรุงผลผลิต . ในหมู่พวกเขาหนอนเจาะผลไม้ Helicoverpa armigera (Hubner) เป็นแมลงศัตรูพืชทำลายล้างมากที่สุดที่ก่อให้เกิดการสูญเสียผลผลิตมะเขือเทศที่จะปรับจาก 50 ถึงร้อยละ 80 สกุล Helicoverpa armigera (Hubner) เป็น Trifine อนุวงศ์ Heliothinae ของครอบครัว Noctuidae ผีเสื้อแมลงเพื่อ [8] สายพันธุ์เหล่านี้เป็น polyphagous ในธรรมชาติความสามารถในการปรับตัวเข้ากับระบบการปลูกพืชที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และช่วงกว้างมีส่วนทำให้สถานะของศัตรูพืช [9] H. armigera ที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นหนอนเจาะสมอฝ้ายอเมริกันเป็นศัตรูพืชที่สำคัญของพืชจำนวนมากและถือว่าเป็นศัตรูพืชที่สำคัญที่สุดของผ้าฝ้ายทั่วโลกและยังอยู่ในปากีสถาน [10] ในพืชจำนวนมากจากหลายประเทศ [11] กับ 50% ของ ยาฆ่าแมลงทั้งหมดที่ใช้ในอินเดียและจีนจะใช้ในการควบคุมศัตรูพืชนี้แม้จะมีอย่างต่อเนื่องอีกครั้งเข้าสู่ภูมิภาคของยุโรป ยกตัวอย่างเช่นเอช armigera มีรายงานครั้งแรกจากฮังการีในปี 1951 แต่ไม่ได้สร้างในประเทศเพื่อนบ้านออสเตรียจนถึงปี 2003 ความล้มเหลวที่เกิดจากสนามต้านทานไพรีทรอยด์ที่ได้รับรายงานจากออสเตรเลีย, ไทย, ตุรกี, อินเดีย, อินโดนีเซียและปากีสถาน [12] การไหลของยีนอยู่ในระดับสูงเนื่องจากการย้ายถิ่นขนาดใหญ่ของประชากร [13] นอกจากนี้เอช armigera มีการพัฒนาความต้านทานต่อยาฆ่าแมลง รายงานก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าไพรีทรอยด์ส่วนใหญ่มีศักยภาพกับศัตรูพืชและยาฆ่าแมลงเหล่านี้ลดลงของประชากรและความเสียหายที่เกิดจาก H. armigera ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การใช้ตามอำเภอใจของยาฆ่าแมลงที่มีผลในการ H. armigera กลายเป็นทนต่อยาฆ่าแมลง ตอนนี้ก็ยังเป็นได้ยากที่จะควบคุมศัตรูพืชนี้เพราะมันมีการพัฒนาความต้านทานต่อยาฆ่าแมลงแบบเดิมจากหลาย Organophosphate, ไพรีทรอยด์และกลุ่มคาร์บาเม ความต้านทานได้รับรายงานจากส่วนต่างๆของโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศนิวซีแลนด์ [14], อินเดีย [15], ออสเตรเลีย [16], สเปน [17] และปากีสถาน [18] organophosphates ถูกนำมาใช้ในขั้นต้นสำหรับการควบคุมหนอนเจาะแล้วค่อย ๆ ถูกแทนที่โดยไพรีทรอยด์ในช่วงปี 1970 ในช่วงต้นทศวรรษ 1980, cartap สลับกับ pyrethroids และ thiocyclam ถูกพ่นแสดงประสิทธิภาพที่ดีของอดีต ในช่วงทศวรรษที่ 1990, ยาฆ่าแมลงด้วยโหมดนวนิยายของการกระทำที่ถูกนำมาใช้เช่น Abamectin, acylurea ควบคุมการเจริญเติบโตของแมลง, tenbufenozide และ chlorfenapyr [19] เหนือกว่าของ profenophos กว่า cypermethrin คลอด้วยความเคารพนับถือหมายถึงประชากรตัวอ่อนและความเสียหายของผลไม้ร้อยละ [20] อย่างไรก็ตามไพรีทรอยด์สังเคราะห์ที่ได้รับรายงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดกับหนอนเจาะผลไม้ [21] Spinosad ให้การควบคุมที่มีประสิทธิภาพของกลุ่ม Lepidoptera, thysanopteran ศัตรูพืชและ coleopteran บาง homopteran, hymanopteran และพันธุ์ orthopteran [20] การประยุกต์ใช้ยาฆ่าแมลงลดประชากรตัวอ่อนของ H. armigera ในระดับมากและเพิ่มผลผลิตด้วยเหตุนี้ [22] อย่างไรก็ตาม [23] แนะนำการควบคุมที่มีประสิทธิภาพของแมลงศัตรูพืชนี้ซัลแฟน 35 EC @ 1000 ml ฮ่า-1, Deltamethrin 2.8 EC @ 750 มลฮ่า-1, Quinalphos 25 EC @ 1000 ml ฮ่า-1 สามารถนำมาใช้ ในกรณีของการรบกวนอย่างรุนแรง, การประยุกต์ใช้ Olytrin C 44 EC @ 1000 ml ฮ่า-1, Profenophos 50 EC @ 1,500 มลฮ่า Spark 36 EC ในอัตรา 1,000 มลไร่หรือ Chlorpyriphos 20 EC (200 มล) + Acephate 100 มลฮ่า -1 มีการแนะนำ เพื่อปกป้องปัญหานี้ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้ได้รับการดำเนินการในสภาพสนาม