Jews in Europe generally were force

Jews in Europe generally were forced, by decree or by informal pressure, to live in highly segregated ghettos and shtetls.[7] In 1204 the papacy required Jews to segregate themselves from Christians and to wear distinctive clothing.[8] Forced segregation of Jews spread throughout Europe during the 14th and 15th centuries.[9] In the Russian Empire, Jews were restricted to the so-called Pale of Settlement, the Western frontier of the Russian Empire corresponding roughly to the modern-day countries of Poland, Lithuania, Belarus, Moldova and Ukraine.[10] By the early 20th century, the majority of European Jews lived in the Pale of Settlement.
Jewish population were confined to mellahs in Morocco beginning from the 15th century. In cities, a mellah was surrounded by a wall with a fortified gateway. In contrast, rural mellahs were separate villages inhabited solely by the Jews.[11]
In the middle of the 19th century, J. J. Benjamin wrote about the life of Persian Jews:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาวยิวในยุโรปโดยทั่วไปจะถูกบังคับโดยพระราชกฤษฎีกาหรือความดันทางการที่อาศัยอยู่ในสลัมแยกสูงและ shtetls. [7] ใน 1204 พระสันตะปาปาที่จำเป็นชาวยิวที่จะแยกตัวออกมาจากคริสเตียนและที่จะสวมใส่เสื้อผ้าที่โดดเด่น. [8] แยกบังคับของชาวยิว แผ่กระจายไปทั่วยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 14 และ 15. [9] ในจักรวรรดิรัสเซียชาวยิวถูก จำกัด ให้อ่อนที่เรียกว่าการตั้งถิ่นฐานที่ชายแดนตะวันตกของจักรวรรดิรัสเซียประมาณสอดคล้องกับประเทศสมัยใหม่ของโปแลนด์ลิทัวเนีย, เบลารุสมอลโดวาและยูเครน. [10] โดยต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนใหญ่ของ ยุโรปชาวยิวที่อาศัยอยู่ในสีของการตั้งถิ่นฐาน.
ประชากรชาวยิวที่ถูกคุมขังใน mellahs ในโมร็อกโกเริ่มจากศตวรรษที่ 15 ในเมืองMellah ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงที่มีประตูป้อม ในทางตรงกันข้าม mellahs ชนบทถูกแยกหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ แต่เพียงผู้เดียวโดยชาวยิว. [11]
ในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19, เจ เจ เบนจามินเขียนเกี่ยวกับชีวิตของชาวยิวเปอร์เซีย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาวยิวในยุโรปโดยทั่วไปถูกบังคับ โดยกฎหมาย หรือ โดยความ ดันไม่เป็นทางการ ในการจำแนกสูง ghettos และ shtetls[7] ใน 1204 โรมันต้อง segregate เองจากคริสเตียน และสวมเสื้อผ้าที่โดดเด่นชาวยิว[8] แบ่งแยกชาวยิวบังคับให้กระจายไปทั่วยุโรปในช่วงศตวรรษ 14 และ 15[9] ในจักรวรรดิรัสเซีย ชาวยิวถูกจำกัดที่เรียกว่าซีดของชำระ ชายแดนตะวันตกของจักรวรรดิรัสเซียประมาณตรงกับสมัยประเทศโปแลนด์ ประเทศลิทัวเนีย เบลารุส มอลโดวา และยูเครน[10] โดยช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนใหญ่ของชาวยิวในยุโรปอยู่ในจางของการชำระเงิน
ประชากรชาวยิวถูกจำกัดไป mellahs ในโมร็อกโกเริ่มจากศตวรรษ 15 ในเมือง mellah ถูกล้อมรอบ ด้วยกำแพงมีประตูกำแพงล้อมรอบ ในทางตรงกันข้าม mellahs ชนบทได้แยกหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ โดยชาวยิวเท่านั้น[11]
กลางศตวรรษที่ 19 เบนจามิน J. J. เขียนเกี่ยวกับชีวิตของชาวยิวเปอร์เซีย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชาวยิวในยุโรปโดยทั่วไปแล้วถูกบังคับให้โดยพ.ร.ก.หรือในแบบซึ่งไม่เป็นทางการความดันสูงอยู่ในต่างประเทศและ ghettos shtetls .[ 7 ]ใน 1204 Papacy แห่งประวัติศาสตร์ที่ต้องมีชาวยิวเพื่อให้แยกออกจากชาวคริสเตียนและสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความโดดเด่น.[ 8 ]ถูกบังคับให้มีการแบ่งแยกของชาวยิวซึ่งกระจายตัวอยู่ตลอดทั่วทั้งยุโรปในระหว่างที่ 14 และ 15 มาเป็นระยะเวลาหลายช่วงศตวรรษ.[ 9 ]ในรัสเซีย Empire ,ยิวเป็นการจำกัดการใช้งานเพื่อที่เรียกกันว่าสีอ่อนในการชำระเงิน,ที่ตะวันตกชายแดนของรัสเซีย, Empire ที่เกี่ยวข้องอย่างหยาบๆเพื่อที่วันที่ทันสมัยของประเทศโปแลนด์,ลิทัวเนีย,เบลารุส,มอลโดวา,และยูเครน.[ 10 ]โดยช่วงต้นยุคศตวรรษที่ 20 โดยส่วนใหญ่ของชาวยุโรปชาวยิวอาศัยอยู่ในที่สีอ่อนการตั้งถิ่นฐาน.
ชาวยิวจำนวนประชากรมีการจำกัดขอบเขตอยู่ที่ mellahs ในโมร็อกโกเริ่มจาก 15 แห่งศตวรรษ. ในเมืองmellah ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยกำแพงที่พร้อมด้วยป้อมปราการที่เกตเวย์ ในทางตรงข้าม mellahs ในชนบทเป็นหมู่บ้านแบบแยกพื้นที่อาศัยอยู่แต่เพียงผู้เดียวโดยชาวยิวที่.[ 11 ]
ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ที่ J . J .เบนจามินได้เขียนเกี่ยวกับชีวิตของชาวยิวเปอร์เซีย