What this shows is that there is a

What this shows is that there is a way of grasping a rule which is not an interpretation, but which is exhibited in what we call "obeying the rule" and "going against it" in actual cases.[23]

So following a rule is a practice. And furthermore, since one can think one is following a rule and yet be mistaken, thinking one is following a rule is not the same as following it. Therefore, following a rule cannot be a private activity.[24]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งนี้แสดงให้เห็น ว่ามีวิธีการจับกฎซึ่งไม่ใช่การตีความ แต่ซึ่งเป็นการจัดแสดงในสิ่งที่เราเรียก "เชื่อฟังกฎ" และ "ไปกับมัน" ในกรณีที่เกิดขึ้นจริง [23]ดังนั้น ตามกฎคือ การปฏิบัติ นอกจากนี้ เนื่องจากหนึ่งสามารถคิดเป็นกฎต่อไปนี้ และยัง เป็น หนึ่งเข้าใจผิดว่า คิดเป็นตามกฎจะไม่เหมือนกับต่อไปนี้มัน ดังนั้น ตามกฎไม่ได้มีกิจกรรมส่วนตัว [24]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามีวิธีการของโลภกฎซึ่งไม่ได้เป็นความหมาย แต่ซึ่งเป็นที่จัดแสดงในสิ่งที่เราเรียกว่า "การเชื่อฟังกฎ" และ "ไปกับมันว่า" ในกรณีที่เกิดขึ้นจริง. [23]

ดังนั้นต่อไปนี้กฎคือ การปฏิบัติ และนอกจากนี้ตั้งแต่หนึ่งสามารถคิดว่าหนึ่งดังต่อไปนี้คือกฎและยังเข้าใจผิดคิดว่าต่อไปนี้หนึ่งคือกฎไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับมันต่อไป ดังนั้นต่อไปนี้กฎไม่สามารถเป็นกิจกรรมส่วนตัว. [24]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามีวิธีการจับกฎซึ่งไม่ใช่การตีความ แต่ที่แสดงในสิ่งที่เราเรียกว่า " การเชื่อฟังกฎ " และ " ต่อต้าน " ในกรณีที่เกิดขึ้นจริง . [ 23 ]ดังนั้นต่อไปนี้เป็นกฎ เป็น ปฏิบัติ และยิ่งกว่านั้น ตั้งแต่หนึ่งสามารถคิดว่าไม่มีใครตามกฎ และยัง จะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นตามกฎ ไม่เหมือนตาม ดังนั้น ต่อไปนี้เป็นกฎไม่ได้เป็นกิจกรรมส่วนบุคคล [ 24 ]