Bread and cereals are usually forti

Bread and cereals are usually fortified with niacin. In addition, foods that contain tryptophan, an amino acid the body coverts into niacin, include poultry, red meat, eggs, and dairy products.

-Vitamin B3 is available in several different supplement forms:
Niacinamide
Niacin
Inositol hexaniacinate.
Niacin is available as a tablet or capsule in both regular and timed-release forms. The timed-release tablets and capsules may have fewer side effects than regular niacin. However, the timed-release versions are more likely to cause liver damage. Regardless of which form of niacin you are using, doctors recommend periodic liver function tests when using high doses (above 100 mg per day) of niacin.

-How to Take
Generally, high doses of niacin are used to control specific diseases. Such high doses must be prescribed by a doctor who will increase the amount of niacin slowly, over the course of 4 to 6 weeks. Take niacin with meals to avoid stomach irritation.

recommendations for niacin in the diet :
Pediatric

Infants, birth to 6 months: 2 mg (adequate intake)
Infants, 7 months to 1 year: 4 mg (adequate intake)
Children, 1 to 3 years: 6 mg (RDA)
Children, 4 to 8 years: 8 mg (RDA)
Children, 9 to 13 years: 12 mg (RDA)
Boys, 14 to 18 years: 16 mg (RDA)
Girls, 14 to 18 years: 14 mg (RDA)
Adult

Men, 19 years and older: 16 mg (RDA)
Women, 19 years and older: 14 mg (RDA)
Pregnant women: 18 mg (RDA)
Breastfeeding women: 17 mg (RDA)
Precautions

Because of the potential for side effects and interactions with medications, you should take dietary supplements only under the supervision of a knowledgeable health care provider. Side effects may include diarrhea, headache, stomach discomfort, and bloating.

High doses (50 mg or more) of niacin can cause side effects. The most common side effect is called "niacin flush," which is a burning, tingling sensation in the face and chest, and red or flushed skin. Taking an aspirin 30 minutes prior to the niacin may help reduce this symptom.

At very high doses, used to lower cholesterol and treat other conditions, liver damage and stomach ulcers can occur. Your doctor will regularly check your liver function through a blood test.

People with a history of liver disease, kidney disease, or stomach ulcers should not take niacin supplements. Those with diabetes or gallbladder disease should do so only under the close supervision of their doctors.

Stop taking niacin or niacinamide at least 2 weeks before a scheduled surgery.

Niacin and niacinamide may make allergies worse by increasing histamine.

People with low blood pressure should not take niacin or niacinamide because they may cause a dangerous drop in blood pressure. DO NOT take niacin if you have a history of gout.

People with coronary artery disease or unstable angina should not take niacin without their doctor's supervision, as large doses can raise the risk of heart rhythm problems.

Taking any one of the B vitamins for a long period of time can result in an imbalance of other important B vitamins. For this reason, you may want to take a B-complex vitamin, which includes all the B vitamins.

Possible Interactions

Because of its impact on the liver, vitamin B3 can interact with several medications. If you are currently taking medications, or regularly drink alcohol, you should not use niacin without talking to your health care provider first. Below is a partial list of medications that may interact with vitamin B3.

Antibiotics, tetracycline: Niacin should not be taken at the same time as the antibiotic tetracycline because it interferes with the absorption and effectiveness of this medication. All vitamin B complex supplements act in this way and should be taken at different times from tetracycline.

Aspirin: Taking aspirin before taking niacin may reduce flushing from niacin. But take it only under your doctor's supervision.

Anti-seizure medications: Phenytoin (Dilantin) and valproic acid (Depakote) may cause niacin deficiency in some people. Taking niacin with carbamazepine (Tegretol) or mysoline (Primidone) may increase levels of these medications in the body.

Anticoagulants (blood thinners): Niacin may make the effects of these medications stronger, increasing the risk of bleeding.

Blood pressure medications, alpha-blockers: Niacin can make the effects of medications taken to lower blood pressure stronger, leading to the risk of low blood pressure.

Cholesterol-lowering medications: Niacin binds the cholesterol-lowering medications known as bile-acid sequestrants and may make them less effective. For this reason, niacin and these medications should be taken at different times of the day. Bile-acid sequestrants include colestipol (Colestid), colesevelam (Welchol), and cholestyramine (Questran).

Statins: Some scientific evidence suggests that taking niacin with simvastatin (Zocor) appears to slow the progression of heart disease. However, the combination may also inc

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนมปังและธัญพืชมักจะเสริม ด้วยไนอาซิน นอกจากนี้ อาหารที่ประกอบด้วยโพรไบโอ กรดอะมิโน coverts ร่างเป็นไนอะซิน รวมสัตว์ปีก เนื้อแดง ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม-วิตามินบี 3 จะอยู่ในรูปแบบอาหารเสริมแตกต่างกันหลาย:NiacinamideไนอะซินHexaniacinate ทอเป็นแท็บเล็ตหรือแคปซูลในรูปแบบทั้งแบบธรรมดา และ timed-release มีไนอะซิน Timed-release เม็ดและยาแคปซูลอาจมีผลข้างเคียงน้อยกว่าปกติไนอะซิน อย่างไรก็ตาม รุ่น timed-release มีแนวโน้มทำให้เกิดความเสียหายของตับ โดยไม่คำนึงถึงการที่รูปแบบของไนอะซินที่คุณกำลังใช้ แพทย์แนะนำการทดสอบการทำงานของตับเป็นครั้งคราวเมื่อใช้ปริมาณสูง (มากกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน) ของไนอาซิน-วิธีการใช้ โดยทั่วไป ปริมาณที่สูงของไนอะซินที่ใช้เพื่อควบคุมโรคเฉพาะ ปริมาณสูงดังกล่าวต้องถูกกำหนด โดยแพทย์ที่จะเพิ่มจำนวนของไนอาซิช้า ช่วง 4 ถึง 6 สัปดาห์ ใช้ไนอาซินพร้อมอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหารคำแนะนำสำหรับไนอะซินในอาหาร:เด็กทารก แรกเกิดถึง 6 เดือน: 2 มิลลิกรัม (ปริมาณที่เพียงพอ)ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี: 4 มิลลิกรัม (ปริมาณที่เพียงพอ)เด็ก 1-3 ปี: 6 มิลลิกรัม (RDA)เด็ก 4-8 ปี: 8 มิลลิกรัม (RDA)เด็ก 9-13 ปี: 12 mg (RDA)เด็กชาย 14-18 ปี: 16 มิลลิกรัม (RDA)สาว 14-18 ปี: 14 มิลลิกรัม (RDA)ผู้ใหญ่ผู้ชาย 19 ปี และมากกว่า: 16 มก. (RDA)ผู้หญิง 19 ปี และมากกว่า: 14 มิลลิกรัม (RDA)หญิงตั้งครรภ์: 18 mg (RDA)บุตร: 17 มิลลิกรัม (RDA)ข้อควรระวังเนื่องจากมีศักยภาพสำหรับผลข้างเคียงและการโต้ตอบกับยา คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพที่มีความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงโรคท้องร่วง ปวดศีรษะ ไม่สบายท้อง และท้องอืดปริมาณที่สูง (50 มิลลิกรัมหรือมากกว่า) ของไนอะซินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงทั่วไปเรียกว่า "ไนอะซินฟลัช ซึ่งเป็นการเผาไหม้ ชา ๆ ในใบหน้า และทรวงอก และสีแดง หรือล้างผิว ใช้แอสไพรินก่อนไนอะซิน 30 นาทีอาจช่วยลดอาการนี้ในปริมาณที่สูงมาก ใช้ในการลดคอเลสเตอร และเงื่อนไขอื่น ๆ รักษาแผลในกระเพาะอาหารและความเสียหายตับสามารถเกิดขึ้น แพทย์จะตรวจสอบทำงานของตับ โดยตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอคน มีประวัติของโรคตับ โรคไต หรือแผลในกระเพาะอาหารไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไนอะซิน ผู้ที่ มีโรคเบาหวานหรือถุงน้ำดีควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้นหยุดการ niacinamide หรือไนอะซินอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดที่กำหนดเวลาไว้ไนอะซินและ niacinamide อาจทำให้โรคภูมิแพ้แย่ลง โดยการเพิ่มฮีสตามีคนที่ มีความดันโลหิตต่ำไม่ควรใช้ไนอาซินหรือ niacinamide เพราะอาจทำอันตรายลดลงความดันโลหิต ไม่สามารถใช้ไนอาซินถ้าคุณมีประวัติของโรคเกาต์คนที่ มีโรคหลอดเลือดหัวใจหรืออาการปวดเค้นไม่เสถียรไม่ควรใช้ไนอาซิน โดยกำกับดูแลของแพทย์ของพวกเขา เป็นปริมาณมากสามารถเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาจังหวะหัวใจการวิตามินบีหนึ่งเป็นระยะเวลานานของเวลาอาจทำให้สมดุลของวิตามินบีที่สำคัญอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ คุณอาจต้องการใช้วิตามินบีคอมเพล็กซ์ ซึ่งประกอบด้วยวิตามินบีการโต้ตอบเนื่องจากผลกระทบต่อตับ วิตามินบี 3 สามารถโต้ตอบกับยาหลาย ถ้าคุณรับประทานยา หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ คุณไม่ควรใช้ไนอาซิน โดยไม่มีการพูดคุยกับผู้ดูแลสุขภาพให้ครั้งแรก ด้านล่างเป็นรายชื่อบางส่วนของยาที่อาจโต้ตอบกับวิตามินบี 3ยาปฏิชีวนะ เตตราไซคลีน: ไนอะซินไม่ควรดำเนินการในเวลาเดียวกันเป็นเตตราไซคลีนยาปฏิชีวนะเนื่องจากจะรบกวนการดูดซึมและประสิทธิภาพของยานี้ อาหารเสริมวิตามินบีทั้งหมดกระทำการนี้ และจะต้องดำเนินการในเวลาที่ต่างจากเตตราไซคลีนแอสไพริน: การแอสไพรินก่อนที่ไนอะซินอาจลดล้างจากไนอะซิน แต่ใช้เฉพาะภายใต้การดูแลของแพทย์ยาต้านการชัก: Phenytoin (วิจัย) และ valproic กรด (Depakote) อาจทำให้เกิดการขาดไนอะซินในบางคน การไนอาซินกับ carbamazepine (Tegretol) หรือ mysoline (Primidone) อาจเพิ่มระดับของยาเหล่านี้ในร่างกายAnticoagulants (ทินเนอร์เลือด): ไนอะซินอาจทำให้ผลของยาเหล่านี้แข็งแรง เพิ่มความเสี่ยงของเลือดออกได้ความดันโลหิตยา alpha-blockers: ไนอะซินสามารถทำให้ผลของยาเพื่อลดความดันโลหิต แข็งแกร่งนำไปสู่ความเสี่ยงของความดันโลหิตต่ำได้ยาไขมัน: ไนอะซินผูกยาไขมันที่เรียกว่ากรดน้ำดี sequestrants และอาจทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพน้อยลง ด้วยเหตุนี้ ไนอะซินและยาเหล่านี้ควรนำในเวลาต่าง ๆ ของวัน กรดน้ำดี sequestrants ได้แก่ colestipol (Colestid), colesevelam (Welchol), และ cholestyramine (Questran)Statins: หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า การไนอาซินกับ simvastatin (Zocor) จะ ชะลอการลุกลามของโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การรวมกันยังอาจ inc

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขนมปังและธัญพืชมักจะมีการเสริมด้วยไนอาซิน นอกจากนี้อาหารที่มีโพรไบโอกรดอะมิโนที่ร่างกายขนอ่อนลงในไนอาซิน ได้แก่ ไก่เนื้อแดงไข่และผลิตภัณฑ์นม.

B3 วิตามินสามารถใช้ได้ในหลายรูปแบบอาหารเสริมที่แตกต่างกัน:
Niacinamide
ไนอาซิน
. Inositol hexaniacinate
ไนอาซินสามารถใช้ได้เป็น แท็บเล็ตหรือแคปซูลทั้งในรูปแบบปกติและหมดเวลาการวางจำหน่าย แท็บเล็ตหมดเวลาการปล่อยและแคปซูลอาจมีผลข้างเคียงน้อยกว่าปกติไนอาซิน แต่รุ่นหมดเวลาปล่อยมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความเสียหายของตับ โดยไม่คำนึงถึงรูปแบบของไนอาซินที่คุณใช้แพทย์แนะนำการทดสอบการทำงานของตับเป็นระยะ ๆ เมื่อใช้ในปริมาณสูง (สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน) ของไนอาซิน.

วิธีการใช้
โดยทั่วไปในปริมาณที่สูงของไนอาซินที่ใช้ในการควบคุมโรคที่เฉพาะเจาะจง ปริมาณสูงดังกล่าวจะต้องได้รับการกำหนดโดยแพทย์ที่จะเพิ่มปริมาณของไนอาซินช้าในช่วง 4-6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ใช้ไนอาซินกับอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหาร.

คำแนะนำสำหรับไนอาซินในอาหาร:

กุมารเวชศาสตร์

ทารกแรกเกิดถึง 6 เดือน: 2 mg (ปริมาณที่เพียงพอ)
ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี 4 มก. (ปริมาณที่เพียงพอ)
เด็ก 1 ถึง 3 ปี : 6 mg (RDA)
เด็ก 4-8 ปี: 8 มิลลิกรัม (RDA)
เด็ก 9-13 ปี: 12 mg (RDA)
Boys, 14 ถึง 18 ปี: 16 mg (RDA)
สาว 14 ถึง 18 ปี: 14 มก. (RDA)
ผู้ใหญ่

ชาย, 19 ปีและผู้สูงอายุ: 16 mg (RDA)
ผู้หญิง 19 ปีและผู้สูงอายุ: 14 mg (RDA)
หญิงตั้งครรภ์: 18 mg (RDA)
ผู้หญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนม 17 mg (RDA)
ข้อควรระวัง

เพราะการที่มีศักยภาพ สำหรับผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยาคุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพที่มีความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงโรคท้องร่วง, ปวดหัว, ความรู้สึกไม่สบายท้องและท้องอืด.

ปริมาณที่สูง (50 มิลลิกรัมหรือมากกว่า) ของไนอาซินสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดคือที่เรียกว่า "ล้างไนอาซิน" ซึ่งเป็นการเผาไหม้รู้สึกเสียวซ่าในใบหน้าและหน้าอกและผิวสีแดงหรือสีแดง การแอสไพรินเป็นเวลา 30 นาทีก่อนที่จะมีไนอาซินอาจช่วยลดอาการนี้.

ในปริมาณที่สูงมากที่ใช้ในการลดคอเลสเตอรอลและรักษาเงื่อนไขอื่น ๆ ความเสียหายของตับและแผลในกระเพาะอาหารสามารถเกิดขึ้นได้ แพทย์ของคุณอย่างสม่ำเสมอจะตรวจสอบการทำงานของตับของคุณผ่านการทดสอบเลือด.

คนที่มีประวัติของโรคตับโรคไตหรือแผลในกระเพาะอาหารไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไนอาซิน ผู้ที่มีโรคเบาหวานหรือโรคถุงน้ำดีควรทำเฉพาะภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ของพวกเขา.

หยุดการใช้ไนอาซินหรือ Niacinamide อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดที่กำหนด.

ไนอาซินและ Niacinamide อาจทำให้โรคภูมิแพ้แย่ลงโดยการเพิ่มฮีสตามี.

คนที่มีความดันโลหิตต่ำไม่ควร ใช้ไนอาซินหรือ Niacinamide เพราะพวกเขาอาจก่อให้เกิดอันตรายลดลงความดันโลหิต ไม่ได้ใช้ไนอาซินถ้าคุณมีประวัติของโรคเกาต์.

คนที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจหรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบที่ไม่แน่นอนไม่ควรใช้ไนอาซินโดยไม่มีผู้ดูแลแพทย์ของพวกเขาในขณะที่ปริมาณมากสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจจังหวะ.

การอย่างใดอย่างหนึ่งของวิตามินบีสำหรับ ระยะเวลานานอาจส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของวิตามินบีที่สำคัญอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้คุณอาจต้องการที่จะใช้วิตามิน B-ซับซ้อนซึ่งรวมถึงวิตามินบี.

ติดต่อเป็นไปได้

เพราะผลกระทบที่มีต่อตับวิตามินบี 3 สามารถโต้ตอบกับยาหลาย หากคุณกำลังใช้ยาหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำคุณไม่ควรใช้ไนอาซินโดยไม่ต้องพูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณครั้งแรก ด้านล่างคือรายการบางส่วนของยาที่อาจมีปฏิสัมพันธ์กับวิตามิน B3.

ยาปฏิชีวนะ tetracycline: ไนอาซินไม่ควรดำเนินการในเวลาเดียวกันเป็นยาปฏิชีวนะเพราะมันรบกวนการดูดซึมและประสิทธิผลของยานี้ ทั้งหมดอาหารเสริมวิตามินบีคอมเพล็กซ์กระทำในลักษณะนี้และจะต้องดำเนินการในช่วงเวลาที่แตกต่างจาก tetracycline.

แอสไพริน: แอสไพรินก่อนที่ไนอาซินอาจลดล้างจากไนอาซิน แต่ใช้เวลาเพียงภายใต้การดูแลของแพทย์.

ยาป้องกันการชัก: Phenytoin (Dilantin) และกรด valproic (Depakote) อาจทำให้เกิดการขาดไนอาซินในบางคน ไนอาซินกับการ carbamazepine (Tegretol) หรือ mysoline (primidone) อาจเพิ่มระดับของยาเหล่านี้ในร่างกาย.

Anticoagulants (ทินเนอร์เลือด). ไนอาซินอาจทำให้ผลกระทบของยาเหล่านี้แข็งแกร่งที่เพิ่มความเสี่ยงของเลือด

ยาความดันโลหิต, อัลฟา อัพ: ไนอาซินสามารถทำให้ผลกระทบของยานำมาใช้เพื่อลดความดันโลหิตแข็งแกร่งที่นำไปสู่ความเสี่ยงของความดันโลหิตต่ำ.

ยาลดคอเลสเตอรอล: ไนอาซินผูกลดคอเลสเตอรอลยาที่รู้จักกันเป็นน้ำดี sequestrants กรดและอาจทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพน้อย ด้วยเหตุนี้ไนอาซินและยาเหล่านี้จะต้องดำเนินการในช่วงเวลาที่ต่างกันของวัน sequestrants น้ำดี ได้แก่ กรด colestipol (Colestid) Colesevelam (Welchol) และ cholestyramine (Questran).

Statins: บางหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่าการที่มีไนอาซิน simvastatin (Zocor) ดูเหมือนจะชะลอการดำเนินของโรคหัวใจ อย่างไรก็ตามการรวมกันนอกจากนี้ยังอาจ inc

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขนมปังและธัญพืชมักจะเสริมไนอาซิน นอกจากนี้ อาหารที่ประกอบด้วยทริปโตเฟนเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกาย coverts เป็นไนอาซินรวมถึงสัตว์ปีก เนื้อแดง ไข่ และนม- วิตามิน B3 สามารถใช้ได้ในรูปแบบต่าง ๆเสริมหลายไนอะซินาไมด์ไนไอโนซิทอล hexaniacinate .ไนอาซินสามารถใช้ได้เป็นยาเม็ดหรือแคปซูล ทั้งแบบปกติและแบบตั้งเวลารุ่น เวลาปล่อยยาเม็ดและแคปซูลอาจมีลักษณะพิเศษด้านที่น้อยกว่าปกติไนอาซิน อย่างไรก็ตาม เวลาปล่อยรุ่นมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความเสียหายตับ ไม่ว่าคุณจะใช้รูปแบบของไนอาซิน แพทย์แนะนำให้ตรวจการทำงานของตับเป็นระยะ ๆเมื่อใช้ในปริมาณที่สูง ( สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน ) ของไนอาซิน- วิธีการใช้โดยทั่วไป ปริมาณสูงของไนอาซินจะใช้ในการควบคุมโรคที่เฉพาะเจาะจง ในปริมาณสูง เช่น ต้องกำหนดโดยแพทย์ที่จะเพิ่มปริมาณไนอาซินช้าๆ ผ่านหลักสูตรของ 4 ถึง 6 สัปดาห์ ใช้ไนอาซินกับอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองกระเพาะอาหารคำแนะนำสำหรับไนอาซินในอาหาร :กุมารเวชศาสตร์ทารกที่คลอดถึง 6 เดือน : 2 มิลลิกรัม ( ปริมาณที่เพียงพอ )ทารก 7 เดือนถึง 1 ปี : 4 มิลลิกรัม ( ปริมาณที่เพียงพอ )เด็ก 1 ปี : 6 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก , 4 ถึง 8 ปี : 8 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก 9 ปี 13 : 12 มิลลิกรัม ( RDA )เด็ก 14 ถึง 18 ปี 16 มก. ( RDA )สาว 14 ถึง 18 ปี 14 มิลลิกรัม ( RDA )ผู้ใหญ่ชาย 19 ปีและอายุ : 16 มก. ( RDA )ผู้หญิง , อายุ 19 ปีและอายุ : 14 มิลลิกรัม ( RDA )หญิงตั้งครรภ์ : 18 มก. ( RDA )หญิงเลี้ยงลูกด้วยนม : 17 มิลลิกรัม ( RDA )ข้อควรระวังเพราะศักยภาพสำหรับผลข้างเคียงและปฏิกิริยากับยา คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้การดูแลของผู้ให้บริการดูแลสุขภาพความรู้ ผลข้างเคียงที่อาจรวมถึงท้องเสีย ปวดหัว ไม่สบายท้อง ท้องอืดปริมาณสูง ( 50 มิลลิกรัม หรือมากกว่า ) ของไนอาซินสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียง ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด เรียกว่า " ไนอาซินล้าง , " ซึ่งเป็นการเขียนเหน็บ ความรู้สึกบนใบหน้าและหน้าอก และสีแดง หรือล้างผิว กินยาแอสไพริน 30 นาทีก่อนที่ไนอาซินจะช่วยลดอาการนี้ได้ที่ปริมาณสูงมาก ใช้เพื่อลดคอเลสเตอรอลและรักษาเงื่อนไขอื่น ๆ , ความเสียหายของตับและกระเพาะสามารถเกิดขึ้นได้ แพทย์จะหมั่นตรวจตับของคุณผ่านการทดสอบเลือดคนที่มีประวัติของโรคตับ โรคไต หรือแผลในกระเพาะอาหาร ไม่ควรใช้อาหารเสริมไนอาซิน ผู้ที่มีโรคเบาหวานหรือโรคถุงน้ำดีควรทำเฉพาะภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ของพวกเขาหยุดการไนอาซินหรือ Niacinamide อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัดไนอาซินและ Niacinamide อาจทำให้อาการแย่ลง โดยการเพิ่มฮีสตามีน .ผู้ที่มีความดันต่ำไม่ควรใช้ไนอาซินไนอาซินาไมด์ หรือเพราะพวกเขาอาจก่อให้เกิดอันตรายในหยดเลือด ไม่ถ้าคุณมีประวัติของโรคเก๊าต์ใช้ไนอาซินผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือ ทำให้แน่นหน้าอกควรใช้ไนอาซิน โดยไม่มีการควบคุมของแพทย์ เช่น doses ขนาดใหญ่สามารถเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาการเต้นของหัวใจ .การใด ๆหนึ่งของวิตามิน B เป็นระยะเวลานานจะส่งผลในความไม่สมดุลของอื่น ๆที่สำคัญ วิตามินบี สำหรับเหตุผลนี้ คุณอาจต้องการที่จะใช้วิตามิน B-Complex , ซึ่งรวมถึง ทั้งวิตามินบีปฏิสัมพันธ์ที่เป็นไปได้เพราะผลกระทบต่อตับ วิตามิน B3 สามารถโต้ตอบกับหลายโรค ถ้าคุณกำลังใช้ยา หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ คุณควรใช้ไนอาซินโดยไม่ต้องพูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อน ด้านล่างคือรายการบางส่วนของโรคที่อาจติดต่อกับวิตามิน B3 .ยาปฏิชีวนะ tetracycline : ไน ไม่ควรถ่ายในเวลาเดียวกันเช่น tetracycline ยาปฏิชีวนะเพราะมันรบกวนการดูดซึมและประสิทธิภาพของยา นี้ ทั้งหมดวิตามิน บี คอมเพล็กซ์ข้อมูลเพิ่มเติมทำในลักษณะนี้ ควรถ่ายในเวลาที่แตกต่างจากเตตราซัยคลิน .แอสไพริน : สละแอสไพริน ก่อนการล้างไนอาซินอาจลดจากไนอาซิน แต่ใช้เฉพาะภายใต้การดูแลของแพทย์ยาต้านโรคลมชัก : เฟนิโทอิน ( หดหู่ ) และกรดวัลโปรอิก ( depakote ) อาจทำให้เกิดการขาดไนอาซินในบางคน สละไนอาซินที่มีคาร์บามาซีพีน ( tegretol ) หรือ mysoline ( ไพรมิโดน ) อาจเพิ่มระดับของโรคเหล่านี้ในร่างกายนฤบาล ( ทินเนอร์ ) : ไน อาจทำให้ผลของยาเหล่านี้แข็งแกร่ง เพิ่มความเสี่ยงของการตกเลือดความดันโลหิตสูงโรค ขบคิด : ไนอาซินจะทำให้ผลของยาได้รับการลดความดันโลหิตที่แข็งแกร่ง นำไปสู่ความเสี่ยงของความดันโลหิตต่ําลดคอเลสเตอรอลรวมคอเลสเตอรอลไนอาซินยา : ลดโรคที่รู้จักกันเป็นกรดน้ำดี และอาจทำให้พวกเขามีประสิทธิภาพน้อย ด้วยเหตุนี้ , ไนอาซินและโรคเหล่านี้ ควรถ่ายในเวลาที่แตกต่างกันของวัน กรดน้ำดีรวมถึงโคเลสติพอล ( colestid ) colesevelam ( welchol ) และโดย ( questran )ความบางหลักฐานทางวิทยาศาสตร์แสดงให้เห็นว่าการไนอาซินกับทิฟฟานี่ ฮวัง ( โซคอร์ ) ปรากฏในการชะลอการลุกลามของโรคหัวใจ อย่างไรก็ตาม การรวมกันอาจ งค์