Twitter has a take-down policy to h

Twitter has a take-down policy to handle claims for copyright infringement. Under the DMCA Twitter is provided “safe harbour” from copyright claims so long as it does not try to protect infringing material. Typically claims will involve embedded material in tweets such as videos or images, so this case was somewhat unusual in that it concerned the content of the tweet itself. Anyone can submit a claim through Twitter’s Web Form and Twitter will then review the claim and decide whether it appears to be valid. If it decides to take action in relation to the claim, Twitter can then remove the offending tweet. The company’s policy is to then give the offending user 10 days to file a counter notice if the user objects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทวิตเตอร์มีนโยบายที่จะใช้ลงเพื่อเรียกร้องการจัดการการละเมิดลิขสิทธิ์ ภายใต้ DMCA ทวิตเตอร์มีให้ "การคุ้มครอง" จากการเรียกร้องลิขสิทธิ์ตราบใดที่มันไม่ได้พยายามที่จะปกป้องเนื้อหาที่ละเมิดลิขสิทธิ์ มักจะอ้างว่าจะเกี่ยวข้องกับวัสดุที่ฝังตัวอยู่ในทวิตเตอร์เช่นวิดีโอหรือภาพดังนั้นกรณีนี้ค่อนข้างผิดปกติในการที่จะเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของทวีตเอง ทุกคนสามารถยื่นข้อเรียกร้องผ่านฟอร์มเว็บทวิตเตอร์และทวิตเตอร์แล้วจะตรวจสอบการเรียกร้องและตัดสินใจว่ามันดูเหมือนจะเป็นที่ถูกต้อง ถ้ามันตัดสินใจที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้อง, Twitter แล้วสามารถลบทวีตที่กระทำผิด นโยบายของ บริษัท ฯ คือการแล้วให้ผู้ใช้ที่กระทำผิดกฎหมาย 10 วันในการยื่นเรื่องโต้แย้งถ้าวัตถุผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Twitter ได้รื้อนโยบายเพื่อจัดการกับการเรียกร้องการละเมิดลิขสิทธิ์ . ภายใต้ DMCA Twitter จะให้ " ท่าเรือ " ปลอดภัยจากลิขสิทธิ์อ้างว่าตราบใดที่มันไม่ได้พยายามที่จะปกป้องวัสดุที่ละเมิดลิขสิทธิ์ มักจะอ้างว่า จะเกี่ยวข้องกับการฝังวัสดุในทวิตเตอร์ เช่น วิดีโอ หรือรูปภาพ เพื่อให้คดีนี้มันค่อนข้างผิดปกติที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของ tweet นั่นเอง ทุกคนสามารถส่งเคลมผ่านเว็บ Twitter และ Twitter จะตรวจสอบการเรียกร้อง และตัดสินใจว่า มันดูเหมือนจะถูกต้อง ถ้ามันตัดสินใจที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการเรียกร้อง , Twitter สามารถแล้วเอาโพ จิ๊บๆ นโยบายของบริษัทคือเพื่อให้ผู้ใช้รุกราน 10 วันไปยื่นที่เคาน์เตอร์ สังเกตเห็น หากผู้ใช้วัตถุ