Analysts predict that there will be

Analysts predict that there will be a shortage in the supply of natural rubber in the future. This is not only the case because the demand for rubber is increasing in Asian and Pacific countries, but because as the top natural-rubber The cost of synthetic rubber is directly related to the cost of oil production. Since these rubbers are petroleum-based, they fluctuate with the costs of oil. Factored into this is also the cost of transportation, as well as fuel surcharges. Overall, the prices of synthetic rubber tend to be stable because the producers of these products are also their consumers, meaning that it is a so-called “captive product.” But synthetic rubber is sold to non-producers, and the prices are dependent upon market conditions. These companies also tend to focus many of their expenses on research and development, which leads to the creation of new types of commercial rubbers, refinement of production technologies, and improvements in product quality, all of which can lead to reduced costs of production. Synthetic rubbers dominate the market, and the producers of synthetic rubbers are able to engage in far-more self-regulation. For example, when demand decreases, these producers are able to simply reduce the supply, which will stabilize the costs once again; there will likely always be a gradual rise in stocks. But recently, due to poor economic conditions, prices of synthetic rubber have continued on a downward trend. For example, the price of SBS rubber is $20,500/ton, down $950 from its last pricing. But these prices have been supported by the recovery of crude oil prices since mid-year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะมีการขาดแคลนอุปทานของยางพาราในอนาคต เป็นไม่เฉพาะกรณีนี้เนื่อง จากอุปสงค์เพิ่มขึ้นในประเทศเอเชียและแปซิฟิก แต่เนื่อง จากเป็นยางธรรมชาติที่ด้านบน ของยางสังเคราะห์โดยตรงเกี่ยวข้องกับต้นทุนของการผลิตน้ำมัน เนื่องยางเหล่านี้มีการปิโตรเลียม พวกเขาผันผวน ด้วยต้นทุนของน้ำมัน ในนี้มีต้นทุนของการขนส่ง ค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง โดยรวม ราคาของยางสังเคราะห์มีแนวโน้มที่ มีเสถียรภาพเนื่องจากผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังมีผู้บริโภค ซึ่งหมายความ ว่า มันเป็นสิ่งที่เรียกว่า "เชลยผลิตภัณฑ์" แต่ขายไปไม่ใช่ผู้ผลิตยางสังเคราะห์ และราคาจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด บริษัทเหล่านี้ยังมีแนวโน้มเน้นจำนวนมากของค่าใช้จ่ายวิจัยและพัฒนา ซึ่งนำไปสู่การสร้างประเภทใหม่ของยางพาณิชย์ ความประณีตของเทคโนโลยีการผลิต และการปรับปรุงในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ที่สามารถนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิต ยางสังเคราะห์ครองตลาด และผู้ผลิตยางสังเคราะห์สามารถมีส่วนร่วมในการควบคุมตนเองมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการลดลง ผู้ผลิตเหล่านี้จะสามารถเพียงแค่ลดอุปทาน ซึ่งจะคงค่าใช้จ่ายอีกครั้ง มีแนวโน้มจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นในหุ้น แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากสภาพทางเศรษฐกิจ ราคาของยางสังเคราะห์มีอย่างต่อเนื่องในแนวโน้มลง ตัวอย่างเช่น ราคายาง SBS เป็น $20,500 ตัน ลง $950 จากราคาสุดท้ายของ แต่ราคานี้ได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบตั้งแต่กลางปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีการขาดแคลนอุปทานของยางธรรมชาติในอนาคต นี้ไม่เพียง แต่กรณีนี้เพราะความต้องการใช้ยางที่เพิ่มขึ้นในประเทศแถบเอเชียและแปซิฟิก แต่เพราะเป็นธรรมชาติบนยางค่าใช้จ่ายของยางสังเคราะห์จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับต้นทุนการผลิตน้ำมัน ตั้งแต่ยางเหล่านี้จะปิโตรเลียมตามที่พวกเขามีความผันผวนกับค่าใช้จ่ายของน้ำมัน ปัจจัยหนึ่งในนี้เป็นค่าใช้จ่ายในการขนส่งเช่นเดียวกับค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง โดยรวมราคายางสังเคราะห์มีแนวโน้มที่จะมีเสถียรภาพเพราะผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์เหล่านี้นอกจากนี้ยังมีผู้บริโภคของพวกเขาหมายความว่ามันเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ผลิตภัณฑ์เชลย." แต่ยางสังเคราะห์จะขายให้กับผู้ผลิตที่ไม่ใช่และราคาจะขึ้นอยู่กับ เมื่อสภาวะตลาด บริษัท เหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะให้ความสำคัญมากของค่าใช้จ่ายของพวกเขาในการวิจัยและพัฒนาซึ่งนำไปสู่การสร้างรูปแบบใหม่ของยางในเชิงพาณิชย์, การปรับแต่งของเทคโนโลยีการผลิตและการปรับปรุงในคุณภาพของผลิตภัณฑ์, ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายของการผลิต ยางสังเคราะห์ครองตลาดและผู้ผลิตยางสังเคราะห์สามารถที่จะมีส่วนร่วมในที่ไกลมากขึ้นการควบคุมตนเอง ตัวอย่างเช่นเมื่อมีความต้องการลดลงผู้ผลิตเหล่านี้จะสามารถเพียงแค่ลดอุปทานซึ่งจะรักษาเสถียรภาพของค่าใช้จ่ายอีกครั้ง; มีแนวโน้มที่จะเสมอเป็นเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในหุ้น แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดีราคายางสังเคราะห์ได้อย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการมีแนวโน้มลดลง ตัวอย่างเช่นราคายาง SBS คือ $ 20,500 / ตันลดลง $ 950 จากการกำหนดราคาสุดท้าย แต่ราคาเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบตั้งแต่กลางปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะมีการขาดแคลนอุปทานของยางธรรมชาติในอนาคต นี้ไม่ได้เป็นเพียงกรณี เพราะความต้องการยางที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มประเทศเอเชียและแปซิฟิก แต่เพราะเป็นชั้นยาง ราคายางสังเคราะห์จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับต้นทุนของการผลิตน้ำมัน เนื่องจากยางเหล่านี้เป็นปิโตรเลียมตาม จะผันผวน ด้วยต้นทุนของน้ำมัน นี้ยังเป็นปัจจัยหนึ่งในค่าใช้จ่ายของการขนส่ง ตลอดจนค่าธรรมเนียมเชื้อเพลิง โดยรวมแล้ว ราคายางสังเคราะห์มักจะมีเสถียรภาพ เพราะผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังเป็นผู้บริโภคของพวกเขา ความหมายมันคือที่เรียกว่า " เป็นผลิตภัณฑ์ แต่จะขายให้ผู้ผลิตยางสังเคราะห์ไม่ และราคาจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด บริษัทเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นมากของค่าใช้จ่ายในการวิจัย และการพัฒนา ซึ่งนำไปสู่การสร้างรูปแบบใหม่ของการตลาดเชิงพาณิชย์ , การปรับแต่งของเทคโนโลยีการผลิต และการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ซึ่งจะนำไปสู่การลดต้นทุนการผลิต ยางสังเคราะห์ครองตลาดและผู้ผลิตยางสังเคราะห์สามารถที่จะมีส่วนร่วมในไกลเพิ่มเติมใดๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อความต้องการลดลง ผู้ผลิตเหล่านี้จะสามารถที่จะเพียงแค่ลดอุปทาน ซึ่งจะทำให้ต้นทุนอีกครั้ง ; มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในหุ้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ดี ราคายางสังเคราะห์มีอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มลดลง ตัวอย่างเช่น ราคาของ $ 25 , 000 สำหรับยาง / ตันลดลง $ 950 จากราคาสุดท้าย แต่ราคาเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบตั้งแต่กลางปี