Most commercial polypropylene is is

Most commercial polypropylene is isotactic and has an intermediate level of crystallinity between that of low-density polyethylene (LDPE) and high-density polyethylene (HDPE). Polypropylene is normally tough and flexible, especially when copolymerized with ethylene. This allows polypropylene to be used as an engineering plastic, competing with materials such as acrylonitrile butadiene styrene (ABS). Polypropylene is reasonably economical, and can be made translucent when uncolored but is not as readily made transparent as polystyrene, acrylic, or certain other plastics. It is often opaque or colored using pigments. Polypropylene has good resistance to fatigue. The melting point of polypropylene occurs at a range, so a melting point is determined by finding the highest temperature of a differential scanning calorimetry chart. Perfectly isotactic PP has a melting point of 171 °C (340 °F). Commercial isotactic PP has a melting point that ranges from 160 to 166 °C (320 to 331 °F), depending on atactic material and crystallinity. Syndiotactic PP with a crystallinity of 30% has a melting point of 130 °C (266 °F).[2] The melt flow rate (MFR) or melt flow index (MFI) is a measure of molecular weight of polypropylene. The measure helps to determine how easily the molten raw material will flow during processing. Polypropylene with higher MFR will fill the plastic mold more easily during the injection or blow-molding production process. As the melt flow increases, however, some physical properties, like impact strength, will decrease. There are three general types of polypropylene: homopolymer, random copolymer, and block copolymer. The comonomer is typically used with ethylene. Ethylene-propylene rubber or EPDM added to polypropylene homopolymer increases its low temperature impact strength. Randomly polymerized ethylene monomer added to polypropylene homopolymer decreases the polymer crystallinity, lowers the melting point and makes the polymer more transparent

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนใหญ่ผลิต isotactic และมีเป็นระดับปานกลางของ crystallinity ของเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ (LDPE) และ high-density polyethylene (HDPE) โพรพิลีนจะยากปกติ และมีความ ยืดหยุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ copolymerized กับเอทิลีน นี้ช่วยให้โพรพิลีนใช้เป็นเป็นพลาสติกวิศวกรรม แข่งขันกับวัสดุเช่น acrylonitrile butadiene สไตรีนอ (ABS) โพรพิลีน และสมเหตุสมผลประหยัดค่า จะโปร่งแสงเมื่อ uncolored แต่ไม่เป็นพร้อมทำโปร่งใส เป็นโฟม อะคริลิค พลาสติกบาง จึงมักจะทึบแสง หรือสีที่ใช้สีอยู่ โพรพิลีนได้ดีทนต่อล้า จุดหลอมเหลวของโพรพิลีนเกิดขึ้นในช่วง ดังนั้นจุดหลอมเหลวจะถูกกำหนด โดยการหาอุณหภูมิสูงสุดของแผนภูมิ calorimetry แกนส่วนที่แตกต่าง สมบูรณ์แบบ isotactic PP มีจุดหลอมเหลวของ 171 ° C (340 ° F) เชิงพาณิชย์ isotactic PP มีจุดหลอมเหลวตั้งแต่ 160 ถึง 166 ° C (320-331 ° F), วัสดุ atactic และ crystallinity PP Syndiotactic มี crystallinity ของ 30% มีจุดหลอมเหลว 130 องศาเซลเซียส (266 ° F) [2] อัตราการไหลละลาย (MFR) หรือละลายไหลดัชนี (MFI) คือ การวัดน้ำหนักโมเลกุลของโพรพิลีน วัดช่วยกำหนดวิธีง่ายวัตถุดิบหลอมละลายจะไหลระหว่างประมวลผล โพรพิลีนกับ MFR สูงเช่นคุณต้องการแม่พิมพ์พลาสติกได้ง่ายขึ้นในระหว่างการฉีดยาหรือกระบวนการผลิตแม่พิมพ์เป่า เมื่อขั้นตอนการละลายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางคุณสมบัติต่าง ๆ ทางกายภาพ เช่นผลกระทบต่อความแข็งแรง จะลด มีการผลิตทั่วไป: homopolymer โคพอลิเมอร์แบบสุ่ม และบล็อกโคพอลิเมอร์ โดยปกติจะใช้ comonomer ที่ มีเอทิลีน ยางเอทิลีนโพรพิลีนหรือ EPDM เพิ่ม polypropylene homopolymer เพิ่มความแรงของผลกระทบของอุณหภูมิต่ำ น้ำยา polymerized สุ่มเอทิลีน polypropylene homopolymer เพิ่มลด crystallinity พอลิเมอร์ ช่วยลดจุดหลอมเหลว และทำให้พอลิเมอร์โปร่งใสมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โพรพิลีนในเชิงพาณิชย์มากที่สุดคือ isotactic และมีระดับกลางของผลึกระหว่างจากพลาสติกความหนาแน่นต่ำ (LDPE) และเอทิลีนความหนาแน่นสูง (HDPE) โพรพิลีนเป็นปกติยากและมีความยืดหยุ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ copolymerized กับเอทิลีน นี้จะช่วยให้โพรพิลีนที่จะใช้เป็นพลาสติกวิศวกรรม, การแข่งขันกับวัสดุเช่นสไตรีน Butadiene Acrylonitrile (ABS) โพรพิลีนเป็นเหตุผลที่ประหยัดและสามารถทำโปร่งแสงเมื่อทาสีได้ แต่ไม่ทำตามได้อย่างง่ายดายโปร่งใสสไตรีน, คริลิคหรือพลาสติกอื่น ๆ มันมักจะเป็นสีขาวขุ่นหรือสีโดยใช้เม็ดสี โพรพิลีนมีความต้านทานที่ดีที่จะเมื่อยล้า จุดหลอมละลายของโพรพิลีนที่เกิดขึ้นในช่วงดังนั้นจุดหลอมละลายจะถูกกำหนดโดยการหาอุณหภูมิสูงสุดของความแตกต่างในการสแกนแผนภูมิ calorimetry isotactic สมบูรณ์แบบ PP มีจุดหลอมเหลว 171 ° C (340 ° F) พาณิชย์ isotactic PP มีจุดหลอมเหลวที่อยู่ในช่วง 160-166 ° C (320-331 ° F) ขึ้นอยู่กับวัสดุ atactic และผลึก syndiotactic PP ที่มีผลึก 30% มีจุดหลอมเหลว 130 ° C (266 ° F). [2] อัตราการไหล (MFR) หรือละลายดัชนีการไหล (MFI) เป็นตัวชี้วัดน้ำหนักโมเลกุลของโพรพิลี มาตรการที่จะช่วยให้การกำหนดวิธีการได้อย่างง่ายดายวัตถุดิบหลอมเหลวจะไหลระหว่างการประมวลผล โพรพิลีนที่มี MFR ที่สูงขึ้นจะเติมแม่พิมพ์พลาสติกได้ง่ายขึ้นในระหว่างการฉีดหรือเป่าปั้นขั้นตอนการผลิต เช่นเพิ่มการไหล แต่บางคุณสมบัติทางกายภาพเช่นความแข็งแรงของผลกระทบจะลดลง มีสามประเภททั่วไปของโพรพิลีนคือ homopolymer, ลิเมอร์แบบสุ่มและลิเมอร์บล็อก comonomer โดยปกติจะใช้กับเอทิลีน ยางเอทิลีนโพรพิลีนหรือ-EPDM เพิ่มให้กับโฮโมโพรพิลีนเพิ่มความแข็งแรงที่อุณหภูมิต่ำของผลกระทบ เอทิลีนโมโนเมอร์แบบสุ่ม polymerized เพิ่มให้กับโฮโมโพรพิลีนลดลงผลึกลิเมอร์ลดจุดหลอมเหลวและทำให้ลิเมอร์ที่โปร่งใสมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Debt content
.Debt content
.Debt content
.Debt content
.Debt content
.Debt content
.