Egyptians were responsible for the

Egyptians were responsible for the origin of perfume. They utilized scents in everything from religious ceremonies to burial preparations and even daily wear. The rich elites of Egyptian society, male and female alike, would adorn themselves with aromas like lily to denote their status. The Persians took over the use of perfume as a sign of political status, but it wasn't until the Greeks and Romans became acquainted with it that it began to be viewed as a form of art and produced en masse and in consistent quality. Archaeologists recently uncovered a perfume factory from 2,000 BC, located in Cyprus, which seemed to have specialized in the production of scents like coriander, laurel, myrtle, lavender, and rosemary. Perfume slowly spread throughout the globe, and for a while, scents were reserved mainly for use in religious ceremonies. However, in 1190, perfume began to be produced commercially in Paris, and from there, it blossomed into a massive industry once more.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คนชอบต้นกำเนิดของน้ำหอมได้ พวกเขาใช้กลิ่นในตั้งแต่พิธีทางศาสนาเพื่อเตรียมงานศพและสวมใส่ได้ทุกวัน ร่ำรวยร่ำรวยสังคมอียิปต์ ชาย และหญิงเหมือนกัน จะประดับตัวเองกับกลิ่นเช่นลิลลี่แสดงสถานะ เอา Persians ที่ใช้น้ำหอมเป็นสัญลักษณ์ของสถานะทางการเมือง แต่มันไม่ได้จนกว่ากรีกและโรมกลายเป็นความคุ้นเคย กับมันที่มันเริ่มที่จะดูรูปแบบของศิลปะ และมีผลิต และคุณภาพที่สอดคล้องกัน นักโบราณคดีเพิ่งเปิดโรงงานน้ำหอมจาก 2000 BC อยู่ในไซปรัส ซึ่งดูเหมือนมีความในการผลิตความหอม เช่นผักชี ลอเรล ไมร์เทิล ลาเวนเดอร์ โรสแมรี่ น้ำหอมช้าแพร่กระจายทั่วโลก และในขณะ กลิ่นถูกจองไว้สำหรับใช้ในพิธีทางศาสนาส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ใน 1190 น้ำหอมเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ในปารีส ก จากนั้นดอกเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาวอียิปต์มีความรับผิดชอบสำหรับที่มาของน้ำหอม พวกเขาใช้กลิ่นในทุกอย่างจากพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อเตรียมการฝังศพและแม้กระทั่งการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ที่อุดมไปด้วยชนชั้นสูงของสังคมอียิปต์ชายและหญิงเหมือนกันจะประดับตัวเองที่มีกลิ่นหอมเช่นดอกลิลลี่เพื่อแสดงสถานะของพวกเขา เปอร์เซียเข้ามาใช้น้ำหอมเป็นสัญลักษณ์ของสถ​​านะทางการเมือง แต่มันไม่ได้จนกว่าชาวกรีกและโรมันเริ่มคุ้นเคยกับมันว่ามันเริ่มที่จะถูกมองว่าเป็นรูปแบบของศิลปะและผลิตค์ไรเดอและมีคุณภาพสม่ำเสมอ นักโบราณคดีค้นพบเมื่อเร็ว ๆ นี้โรงงานน้ำหอมจาก 2,000 ปีก่อนคริสตกาลตั้งอยู่ในไซปรัสซึ่งดูเหมือนจะมีความเชี่ยวชาญในการผลิตของกลิ่นเช่นผักชี, ลอเรล, ไมร์เทิลลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ น้ำหอมช้าแผ่กระจายไปทั่วโลกและในขณะที่กลิ่นส่วนใหญ่ถูกสงวนไว้สำหรับใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา อย่างไรก็ตามใน 1190 น้ำหอมจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในกรุงปารีสและจากนั้นก็แตกแขนงออกไปเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อียิปต์มีความรับผิดชอบสำหรับที่มาของน้ำหอม พวกเขาใช้กลิ่นในการทุกอย่างจากพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อการเตรียมงานศพและใส่ทุกวัน ชนชั้นสูงรวยของสังคมอียิปต์ , ชายและหญิงเหมือนกัน จะประดับตัวเองด้วยกลิ่นหอม เช่น ลิลลี่ เพื่อแสดงสถานะของพวกเขา เปอร์เซียยึดการใช้น้ำหอมที่เป็นสัญลักษณ์ของสถานะการเมืองแต่มันไม่ได้จนกว่ากรีกโรมันและมีความคุ้นเคยกับมัน มันเริ่มจะถูกมองว่าเป็นรูปแบบของศิลปะและผลิต en masse และคุณภาพที่สอดคล้องกัน นักโบราณคดีเพิ่งเปิดโรงงานน้ำหอม จาก พ.ศ. 2000 ตั้งอยู่ในไซปรัส ซึ่งดูจะมีความเชี่ยวชาญในการผลิตหอมผักชี ลอเรล เมอเทิล , ลาเวนเดอร์และโรสแมรี่น้ำหอมค่อยๆ กระจายไปทั่วโลก และสักพัก กลิ่นจะถูกสงวนไว้เป็นหลักสำหรับใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา อย่างไรก็ตาม ใน 1190 , น้ำหอมเริ่มผลิตในเชิงพาณิชย์ในปารีส และจากที่นั่น มันเบ่งบานกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกครั้ง