RESULTSThirty-six participants (22

RESULTS
Thirty-six participants (22 women and 14 men) completed the study. There was no significant difference in BMI (P = 0.29) on the meal test days (Table 1). Similarly, no significant differences were observed for fasting plasma glucose (P = 0.42), serum insulin (P = 0.42), serum C-peptide, and EE (P = 0.30) before the consumption of the 3 meals.
Maximum increases in insulin concentration and iAUC for serum insulin (Figure 3) were heterogeneous (P =
0.0008) after the 3 meals: these measures were 36% and 32% lower, respectively, after consumption of the CAC meal than after that of the BAB meal. The maximum increases in insulin concentration and iAUC for serum insulin after the CAB meal were in between but closer to those with the CAC meal than with the BAB meal. The maximum increases in insulin concentration and iAUC for serum insulin after the CAB meal were 15% (P = 0.074) and 17% (P = 0.072) lower, respec- tively, than after the BAB meal. The maximum increases in insulin concentration and iAUC for serum insulin after the CAC meal were 24% (P = 0.24) and 18% (P = 0.52) lower, respec- tively, than after the CAB meal. The maximum increases in C-peptide concentration and iAUC for C-peptide were not sig- nificantly different between the 3 meals (Table 2). There was no significant difference (P = 0.1) in EE (Figure 4) or in the respi- ratory quotient between the 3 meals (Table 2).

The analysis showed that the significant heterogeneity observed between the 3 meals in the whole group came predom- inantly from the subjects with a BMI > 26.3 (Table 3). In addition to these results, subjects with a BMI > 26.3 showed significant heterogeneity (P < 0.02 for all) in maximum C-peptide, iAUC C-peptide, iAUC C-peptide/insulin quotient, and net AUC EE. Postestimation analysis showed a higher C- peptide/insulin quotient, and a lower net EE after the CAB meal (P < 0.045 for both) and the CAC meal (P < 0.003 for both) than after the BAB meal. The maximal change in C-peptide was smaller with the CAC meal than with the CAB and the BAB meals (P < 0.02 for both), and iAUC C-peptide was lower after the CAC meal than after the BAB meal (P = 0.015).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์สามสิบหกคน (ผู้หญิง 22 และ 14 คน) ดำเนินการศึกษา มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน BMI (P = 0.29) ในอาหารทดสอบวัน (ตารางที่ 1) เหมือนกับ ไม่แตกต่างกันถูกสังเกตสำหรับน้ำตาลในพลาสมาที่ถือศีลอด (P = 0.42), เซรั่มอินซูลิน (P = 0.42), เซรั่ม C เพปไทด์ และ EE (P = 0.30) ก่อนการบริโภค 3 มื้อ เพิ่มความเข้มข้นของอินซูลินและ iAUC สำหรับเซรั่มอินซูลิน (รูป 3) สูงสุดแตกต่างกัน (P =0.0008) หลังอาหาร 3: มาตรการเหล่านี้ได้ 36% และ 32% ต่ำ ตามลำดับ หลังใช้ของ CAC อาหารมากกว่าหลังจากนั้นรับประทานอาหารแบบนั้น สูงสุดเพิ่มความเข้มข้นของอินซูลินและ iAUC สำหรับเซรั่มอินซูลินหลังจากอาหาร CAB ได้ใกล้ชิด แต่ในระหว่างผู้ที่มีอาหาร CAC กว่าด้วยอาหารแบบ เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลินและ iAUC สำหรับเซรั่มอินซูลินหลังอาหาร CAB ได้ 15% (P = 0.074) และ 17% (P = 0.072) ต่ำ respec-tively กว่าหลังอาหารแบบนั้น เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลินและ iAUC สำหรับเซรั่มอินซูลินหลังอาหาร CAC ได้ 24% (P = 0.24) และ 18% (P = 0.52) ต่ำ respec-tively กว่าหลังอาหาร CAB เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้น C เพปไทด์และ iAUC สำหรับ C เพปไทด์ไม่ sig nificantly แตกต่างกันระหว่าง 3 มื้อ (ตาราง 2) มีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P = 0.1) EE (รูปที่ 4) หรือ respi - ratory ผลหารระหว่างมื้ออาหาร 3 (ตารางที่ 2)การวิเคราะห์พบว่า heterogeneity สำคัญที่สังเกตระหว่าง 3 มื้อในทั้งกลุ่มมา predom inantly จากเรื่องมี BMI > 26.3 (ตาราง 3) นอกจากนี้ผล หัวเรื่องกับ heterogeneity สำคัญ > พบ 26.3 BMI (P < 0.02 ทั้งหมด) สูงสุด C-เปป iAUC เพปไทด์ C ผลหาร iAUC C-เพปไทด์/อินซูลิน และ EE AUC สุทธิ Postestimation วิเคราะห์แสดงผลหาร C-เพปไทด์/อินซูลินที่สูง และเป็นแบบสุทธิต่ำกว่าหลังอาหาร CAB (P < 0.045 ทั้ง) และอาหาร CAC (P < 0.003 ทั้ง) กว่าหลังอาหารแบบนั้น การเปลี่ยนแปลงสูงสุดในเพปไทด์ C ถูกเล็กอาหาร CAC กว่ากับ CAB ที่ด้วยอาหารแบบ (P < 0.02 ทั้ง), และ iAUC เพปไทด์ C ล่างหลังอาหาร CAC กว่าหลังอาหารแบบ (P = 0.015)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการ
เข้าร่วมสามสิบหก (22 ผู้หญิงและผู้ชาย 14) เสร็จสิ้นการศึกษา ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในค่าดัชนีมวลกาย (p = 0.29) ในวันที่ทดสอบอาหาร (ตารางที่ 1) ในทำนองเดียวกันไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญสำหรับการอดอาหารระดับน้ำตาลในเลือด (p = 0.42), เซรั่มอินซูลิน (p = 0.42), เซรั่ม C-เปปไทด์และ EE (p = 0.30) ก่อนที่จะบริโภคอาหาร 3 มื้อ.
เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลิน และ IAUC อินซูลินในซีรั่ม (รูปที่ 3) มีความแตกต่าง (p =
0.0008) หลังอาหาร 3 มื้อ: มาตรการเหล่านี้เป็น 36% และ 32% ลดลงตามลำดับหลังการบริโภคอาหาร CAC กว่าหลังจากที่รับประทานอาหาร BAB เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลินและ IAUC อินซูลินในซีรั่มหลังอาหาร CAB อยู่ในระหว่าง แต่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาหาร CAC กว่าด้วยอาหาร BAB เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลินและ IAUC อินซูลินในซีรั่มหลังอาหาร CAB เป็น 15% (p = 0.074) และ 17% (p = 0.072) ลดลงตามลำดับกว่าหลังอาหาร BAB เพิ่มขึ้นสูงสุดในความเข้มข้นของอินซูลินและ IAUC อินซูลินในซีรั่มหลังจากอาหาร CAC เป็น 24% (p = 0.24) และ 18% (p = 0.52) ลดลงตามลำดับกว่าหลังอาหาร CAB เพิ่มขึ้นสูงสุดในซีเข้มข้นเปปไทด์และ IAUC สำหรับ C-เปปไทด์ที่ไม่ได้คัญ nificantly ที่แตกต่างกันระหว่างอาหาร 3 มื้อ (ตารางที่ 2) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (P = 0.1) ในของ EE (รูปที่ 4) หรือความฉลาดการห้อง respi- ระหว่างอาหาร 3 มื้อ (ตารางที่ 2). การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่สังเกตระหว่างอาหาร 3 มื้อในทั้งกลุ่มมา Predom - inantly จากวิชาที่มีค่าดัชนีมวลกาย> 26.3 (ตารางที่ 3) นอกเหนือจากผลเหล่านี้วิชาที่มีค่าดัชนีมวลกาย> 26.3 แสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ (p <0.02 ทั้งหมด) ในสูงสุด C-เปปไทด์, IAUC C-เปปไทด์, IAUC C-เปปไทด์ / เชาวน์อินซูลินและสุทธิ AUC EE การวิเคราะห์แสดงให้เห็น Postestimation เปปไทด์ C- สูง / เชาวน์อินซูลินและ EE สุทธิที่ลดลงหลังอาหาร CAB (p <0.045 สำหรับทั้งสอง) และอาหาร CAC (p <0.003 สำหรับทั้งสอง) กว่าหลังอาหาร BAB การเปลี่ยนแปลงสูงสุดใน C-เป็นเปปไทด์ขนาดเล็กที่มีอาหาร CAC กว่าด้วย CAB และอาหาร BAB (p <0.02 สำหรับทั้งสอง) และ IAUC C-เปปไทด์ที่ต่ำหลังอาหาร CAC กว่าหลังอาหาร BAB (P = 0.015) .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้เข้าร่วมจาก
สามสิบหก ( 22 หญิงและชาย 14 ) จบการศึกษา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P = 0.29 ) ดัชนีมวลกายในอาหารทดสอบวัน ( ตารางที่ 1 ) ในทำนองเดียวกันไม่แตกต่างกันว่าระดับน้ำตาล ( P = 0.42 ) , เซรั่มอินซูลิน ( P = 0.42 ) , เซรั่มซี เปปไทด และอี ( P = 0.30 ) ก่อนการบริโภคของอาหาร 3 .
สูงสุดเพิ่มความเข้มข้นของอินซูลิน และ iauc เซรั่มอินซูลิน ( รูปที่ 3 ) แตกต่างกัน ( P =
ยว ) หลัง อาหาร 3 มื้อ มาตรการเหล่านี้เป็น 36% และ 32% ลดลงตามลำดับ หลังจากที่การบริโภคของอาหารมากกว่าการหลังของบับ อาหารสูงสุดเพิ่มความเข้มข้นของอินซูลิน และ iauc เซรั่มอินซูลินหลังรถแท็กซี่อาหารอยู่ระหว่าง แต่ต่างกับ the อาหารกว่ากับ บับ อาหาร สูงสุดเพิ่มความเข้มข้นของอินซูลิน และ iauc เซรั่มอินซูลินหลังรถแท็กซี่อาหาร 15 % ( p = 0.074 ) และ 17 เปอร์เซ็นต์ ( P = 0.072 ) ลดลง respec - มี , กว่าหลัง บับ อาหารสูงสุดเพิ่มความเข้มข้นของอินซูลิน และ iauc เซรั่มอินซูลินหลัง the อาหารเป็น 24% ( p = 0.24 ) และ 18 % ( p = 0.52 ) ลดลง respec - มีกว่าหลังจากรถอาหาร เพิ่มความเข้มข้นสูงสุดในซี เปปไทด iauc สำหรับซี เปปไทดและไม่ Sig - nificantly ความแตกต่างระหว่างอาหาร 3 มื้อ ( ตารางที่ 2 ) มีความแตกต่างอย่างไม่มีนัยสำคัญ ( p = 01 ) ใน EE ( รูปที่ 4 ) หรือใน respi - ratory หารระหว่างอาหาร 3 มื้อ ( ตารางที่ 2 ) .

จากการวิเคราะห์พบว่ามีนัยสำคัญที่สามารถสังเกตระหว่างอาหาร 3 มื้อในทั้งกลุ่มมา predom - inantly จากผู้ที่มี BMI > จำกัด ( ตารางที่ 3 ) นอกจากผลลัพธ์เหล่านี้ผู้ที่มี BMI > เพื่อความหลากหลายอย่างมีนัยสำคัญ ( p < 0.02 ทั้งหมด ) ใน ซี เปปไทดสูงสุดiauc ซี เปปไทด iauc ซี เปปไทด / อินซูลิน , ไอคิวและอียาสุทธิ การวิเคราะห์ postestimation มีค่า C - เปปไทด์ / ระดับอินซูลิน และลดมูลค่าอีหลังรถแท็กซี่อาหาร ( P < 0.045 ทั้งสอง ) และการอาหาร ( p < 0.003 สำหรับทั้งสอง ) กว่าหลัง บับ อาหาร การเปลี่ยนแปลงความแรงสูงสุดในซี เปปไทดเป็นขนาดเล็กกับ the อาหารกว่ากับแท็กซี่ และ บับ อาหาร ( p < 0.02 ทั้ง )และ iauc ซี เปปไทดลดลงหลังจากการทานอาหารมากกว่า หลังจาก บับ อาหาร ( p = 0.015 )