Anthocyanins tend to be the main po

Anthocyanins tend to be the main polyphenolics in purple grapes whereas flavan-3-ols (i.e. catechins) are the more abundant phenolic in white varieties.[26] Total phenolic content, a laboratory index of antioxidant strength, is higher in purple varieties due almost entirely to anthocyanin density in purple grape skin compared to absence of anthocyanins in white grape skin.[26] It is these anthocyanins that are attracting the efforts of scientists to define their properties for human health.[27] Phenolic content of grape skin varies with cultivar, soil composition, climate, geographic origin, and cultivation practices or exposure to diseases, such as fungal infections.

Red wine may offer health benefits more so than white because potentially beneficial compounds are present in grape skin, and only red wine is fermented with skins. The amount of fermentation time a wine spends in contact with grape skins is an important determinant of its resveratrol content.[28] Ordinary non-muscadine red wine contains between 0.2 and 5.8 mg/L,[29] depending on the grape variety, because it is fermented with the skins, allowing the wine to absorb the resveratrol. By contrast, a white wine contains lower phenolic contents because it is fermented after removal of skins.

Wines produced from muscadine grapes may contain more than 40 mg/L, an exceptional phenolic content.[24][30] In muscadine skins, ellagic acid, myricetin, quercetin, kaempferol, and trans-resveratrol are major phenolics.[31] Contrary to previous results, ellagic acid and not resveratrol is the major phenolic in muscadine grapes.

The flavonols syringetin, syringetin 3-O-galactoside, laricitrin and laricitrin 3-O-galactoside are also found in purple grape but absent in white grape.[32]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Anthocyanins มีแนวโน้มจะ polyphenolics หลักในองุ่นสีม่วง-flavan-3-ols (เช่น catechins) เป็นอุดมสมบูรณ์กว่าฟีนอในสายพันธุ์สีขาว[26] รวมฟีนอเนื้อหา ดัชนีห้องปฏิบัติการของความแข็งแรงต้านอนุมูลอิสระ จะสูงขึ้นในสายพันธุ์สีม่วงมีโฟเลทสูงความหนาแน่นในผิวองุ่นสีม่วงเมื่อเทียบกับการขาดงานของ anthocyanins ในองุ่นผิวขาวครบเกือบทั้งหมด[26] เป็น anthocyanins เหล่านี้ที่จะดึงดูดความพยายามของนักวิทยาศาสตร์เพื่อกำหนดคุณสมบัติสำหรับสุขภาพของมนุษย์[27] เนื้อหาฟีนอองุ่นผิวไปจน cultivar องค์ประกอบของดิน อากาศ แหล่ง กำเนิดทางภูมิศาสตร์ และวิธีเพาะปลูก หรือสัมผัสโรค เช่นติดเชื้อราไวน์แดงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นเพื่อมากกว่าสีขาว เนื่องจากสารที่เป็นประโยชน์อาจมีอยู่ในองุ่นสกิน และสีแดงเท่านั้น ไวน์จะหมักกับสกิน ระยะเวลาการหมักไวน์ใช้กับองุ่นสกินเป็นดีเทอร์มิแนนต์สำคัญของเนื้อหาจำนวนมาก resveratrol[28] ธรรมดาไม่ใช่ muscadine ไวน์แดงประกอบด้วยระหว่าง 0.2 และ 5.8 mg/L, [29] ขึ้นอยู่กับความหลากหลายองุ่น เนื่องจากมันจะหมักกับสกิน ไวน์ซึมจำนวนมาก resveratrol ช่วยให้ โดยคมชัด ไวน์ขาวประกอบด้วยเนื้อหาฟีนอต่ำเนื่องจากจะหมักหลังจากเอาสกินไวน์ที่ผลิตจากองุ่น muscadine อาจประกอบด้วยมากกว่า 40 mg/L เนื้อหาฟีนอยอดเยี่ยม[24][30] muscadine สกิน กรด ellagic, myricetin, quercetin, kaempferol และธุรกรรมจำนวนมาก resveratrol เป็น phenolics หลัก[31] ทวนผลลัพธ์ก่อนหน้า กรด ellagic และจำนวนมาก resveratrol ไม่เป็นสำคัญฟีนอในองุ่น muscadineFlavonols syringetin, syringetin 3-O-galactoside, laricitrin และ laricitrin 3-O-galactoside ยังมีพบในองุ่นสีม่วง ได้ขาดในองุ่นขาว[32]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

anthocyanins มีแนวโน้มที่จะ polyphenolics หลักในองุ่นสีม่วงขณะที่ flavan-3-OLS (catechins IE) เป็นฟีนอลอีกมากมายในสายพันธุ์สีขาว. [26] รวมเนื้อหาฟีนอล, ดัชนีห้องปฏิบัติการของความแข็งแรงของสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าพันธุ์สีม่วงเนื่องจากเกือบ ทั้งหมดให้กับความหนาแน่นของ anthocyanin ในผิวองุ่นสีม่วงเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีการ anthocyanins ในผิวขององุ่นขาว. [26] มันเป็น anthocyanins เหล่านี้ที่จะดึงดูดความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ในการกำหนดคุณสมบัติของพวกเขาสำหรับสุขภาพของมนุษย์. [27] เนื้อหา Phenolic ของผิวองุ่นแตกต่างกันไปด้วย พันธุ์องค์ประกอบของดินสภาพภูมิอากาศแหล่งกำเนิดทางภูมิศาสตร์, การเพาะปลูกและการปฏิบัติหรือการสัมผัสกับโรคเช่นการติดเชื้อรา. ไวน์แดงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นดังนั้นกว่าสีขาวเพราะสารประโยชน์ที่อาจมีอยู่ในผิวองุ่นและเฉพาะไวน์แดงหมักด้วย กิน ระยะเวลาการหมักไวน์ใช้เวลาในการติดต่อกับสกินองุ่นเป็นปัจจัยที่สำคัญของเนื้อหาของ Resveratrol. [28] สามัญที่ไม่ MUSCADINE ไวน์แดงมีระหว่าง 0.2 และ 5.8 มิลลิกรัม / ลิตร [29] ขึ้นอยู่กับพันธุ์องุ่นเพราะ มันจะถูกหมักกับผิวหนังที่ช่วยให้ไวน์ที่จะดูดซับสาร Resveratrol ตรงกันข้ามไวน์ขาวมีเนื้อหาฟีนอลที่ต่ำกว่าเพราะมันจะถูกหมักหลังจากการกำจัดของผิวหนัง. ไวน์ที่ผลิตจากองุ่น MUSCADINE อาจจะมีมากกว่า 40 มิลลิกรัม / ลิตร, เนื้อหาฟีนอลที่โดดเด่น. [24] [30] ในหนัง MUSCADINE กรด ellagic , myricetin, quercetin, เฟอรอลและทรานส์ resveratrol ที่มีฟีนอลที่สำคัญ. [31] ตรงกันข้ามกับผลการค้นหาก่อนกรด ellagic และไม่ Resveratrol เป็นฟีนอลที่สำคัญในองุ่น MUSCADINE. flavonols syringetin, syringetin 3-O-galactoside, laricitrin และ laricitrin 3-O-galactoside ยังพบในองุ่นสีม่วง แต่ไม่อยู่ในองุ่นขาว. [32]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แอนโทไซยานินมักจะเป็นหลัก polyphenolics ในองุ่นสีม่วง ส่วน flavan-3-ols ( เช่น catechins ) เป็นปริมาณมาก ฟีโนลิกในพันธุ์ขาว [ 26 ] รวมฟีนอลสารต้านอนุมูลอิสระเนื้อหาปฏิบัติการดัชนีความแข็งแรงสูงสีม่วงพันธุ์เนื่องจากเกือบทั้งหมดของแอนโธไซยานินในผิวขององุ่นม่วง เมื่อเทียบกับการขาดของแอนโทไซยานินในผิวขององุ่นขาว[ 26 ] มันคือ แอนโธไซยานินเหล่านี้ที่ดึงดูดความพยายามของนักวิทยาศาสตร์ที่จะกำหนดคุณสมบัติของพวกเขาสำหรับสุขภาพของมนุษย์ . [ 27 ] ฟีโนลิก เนื้อหาของผิวองุ่นแตกต่างกันกับพันธุ์ , องค์ประกอบ , ภูมิอากาศ , ภูมิศาสตร์กำเนิดดิน และการปฏิบัติการหรือการเกิดโรค เช่น เชื้อรา

ไวน์แดงอาจให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้นดังนั้นกว่าสีขาวเพราะสารที่อาจเป็นประโยชน์ที่มีอยู่ในผิวขององุ่นและไวน์แดง หมักกับสกิน ปริมาณของเวลาที่ใช้ในการหมักไวน์สัมผัสกับผิวองุ่นเป็นตัวกำหนดที่สำคัญเนื้อหา resveratrol . [ 28 ] ธรรมดาไม่ muscadine ไวน์แดงมีระหว่าง 0.2 และ 5.8 มิลลิกรัม / ลิตร[ 29 ] ขึ้นอยู่กับองุ่นที่หลากหลาย เพราะหมักด้วยสกิน ช่วยให้ไวน์ที่จะดูดซับ Resveratrol โดยคมชัดเป็นไวน์ขาวที่มีสารลดเนื้อหาเพราะหมักหลังจากการกำจัดผิวหนัง

ไวน์ที่ผลิตจากองุ่น muscadine อาจมีมากกว่า 40 มก. / ล. ปริมาณฟีนอลิก , ยอดเยี่ยม [ 24 ] [ 30 ] ใน muscadine สกินลาจิคแอซิดไมริซีทินเคอร์ , , ,เคมเฟอรอล และทรานส์ resveratrol จะผลใหญ่ [ 31 ] ขัดกับผลก่อนหน้า , กรดลาจิก และไม่ทำหน้าที่เป็นหลักของฟีนอลใน muscadine องุ่น

syringetin flavonols , 3-o-galactoside syringetin laricitrin laricitrin 3-o-galactoside , และยังพบได้ในสีม่วงองุ่น แต่ขาดในองุ่นขาว [ 32 ]