BENEFITS FROM ASEAN FREE TRADE AREA

BENEFITS FROM
ASEAN FREE TRADE AREA (AFTA) TARIFF CUTS 



Under AFTA, six members of the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) cut tariffs on nearly 8,000 items. The six countries include Malaysia, Indonesia, Singapore, the Philippines, Brunei and Thailand. Four of the less developed ASEAN nations including Cambodia, Laos, Burma and Vietnam will have a further period to phase in the tariff cuts.

Bangkok Post newspaper reported that duties under the ASEAN common effective preferential tariff (CEPT) scheme have fallen to between zero and 5% for all products, including those previously deferred on countries’ sensitive and highly sensitive lists.  This is good news for ASEAN countries.

Benefits from AFTA:

- The elimination of tariffs should result in product price reductions throughout ASEAN
- Encouraging higher market competition
- Help ASEAN countries' products gain access to a regional market that incorporates many substantial advantages, e.g. a population of more than 580 million, $1.5 trillion gross domestic product, convenient transport systems, huge international trade worth $1.7 trillion a year, and foreign investment of $60 billion
- Consumers will benefit from cheaper prices of goods given lower tariffs on a host of raw materials used by the region's producers.
- Some of processing factories are expected to enjoy cheaper imported raw materials in the face of the tariff elimination, cutting their production costs
- ASEAN will be integrated into a single market which is an important point because the market will be stronger and larger with a high population
- the export and investment sectors will generate higher potential in the long term

Negative and Positive Effects:

Import tariffs will fall to zero for a wide range of agricultural goods, such as onion, garlic, tea, sugar, rice, soybeans, palm oil, and other farm products tariffs are now eliminated as of January 1, 2010. The tariff lines under CEPT-AFTA also cover a wide range from finished consumer products such as air-conditioners; food products such as chili sauce, fish and soya sauces; intermediate materials such as motorcycle parts and automobile cylinders; and other products such as iron and steel, plastics, machinery and mechanical equipment, chemicals and prepared foodstuffs, paper, cement, ceramics and glass.

Some countries, such as, Thailand, have their products on the countries' sensitive lists. Those are to carry a 5% tariff and include coffee beans (down from 20%), copra (from 15%), potatoes (from 10%) and cut flowers (from 10%). Thailand is concerned about the impact on some key agricultural products such as rice and palm oil. However, a number of Thai sectors should gain substantially from the free trade due to a decline in production costs. They include textiles and garments, leather products, food products, gems and jewelery, vehicles and parts, mineral products, and electronics.

The four less developed members of the regional, such as Cambodia, Laos, Burma and Vietnam will have until 2015 to reduce their tariffs to 0-5% under their AFTA commitments.

For Vietnam, its lower production costs and rising output of rice are expected to be competitive with Thailand and affect Thailand’s rice market share. Thailand expects to lose a 0.5% share of the rice trade, or around $13 million, to Vietnam. 

For Malaysia and Indonesia, their palm oil price are more expensive than that produced from Thailand. The loss of palm oil market share to Malaysia was forecast at 2.6% or US$46 million because Malaysia is the world's largest producer and highly efficient. Malaysian producers' expansion to Indonesia will further lift their productivity.

Therefore, AFTA expansion could affect the Thai economy both negatively and positively.  "But the good would far outweigh the bad", said Thailand's Prime Minister Abhisit Vejjajiva, according to Bangkok Post newspaper. He announced that the government had mapped out assistance measures funded by various ministries and  also pledged stringent import regulations to ensure the quality of farm goods, as well as to protect Thai consumers. The governments will lose income from tax collections but in the long term the chances for exports are wider when compared with countries outside ASEAN. Thus, the nation will benefit overall.

Experts suggested that for Thailand, the challenge continues to be upgrading skills and developing products to serve consumer demand, which will help increase brand awareness, add value and competitiveness to Thai products in global markets. Mr Dhanin Chearavanont, a leading food exporter and the Chairman of Charoen Pokphand (CP) Group, also said recently that the the zero tariff scheme under the ASEAN Free Trade Area would attract more foreign investors to Thailand. When compared to other ASEAN nations, Thailand's business environment remains attractive. He explained that the zero duty on agricultural products under the AFTA would benefit the country as a whole in the long run because 95% of products are not taxed. In the short term, some Thai products would be hit by higher competition from trade liberalization. Mr Dhanin called on the government to prepare measures to help affected producers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลประโยชน์จากตัดภาษีอาเซียนค้าเสรี (AFTA) ที่ตั้ง 6 สมาชิกของสมาคมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศ (อาเซียน) ตัดภาษีเกือบ 8000 สินค้าภายใต้ AFTA6 ประเทศได้แก่มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน และไทยสี่ประเทศที่พัฒนาน้อยอาเซียนได้แก่กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะมีระยะเวลาเพิ่มเติมกับระยะในการตัดภาษีหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่า หน้าที่ภายใต้ภาษีต้องมีประสิทธิภาพ (CEPT) โครงร่างทั่วอาเซียนได้ลดลงไปโดยระหว่างศูนย์และ 5% สำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด รวมทั้งเลื่อนเวลาก่อนหน้านี้ ในรายการสำคัญ และมีความไวสูงของประเทศนี่เป็นข่าวดีสำหรับประเทศประโยชน์จาก AFTA:-การขจัดภาษีศุลกากรควรส่งผลในการลดราคาสินค้าทั่วอาเซียน-ส่งเสริมการแข่งขันในตลาดสูง-ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของประเทศเข้าถึงตลาดภูมิภาคที่พบประโยชน์มากมาย เช่น ประชากรมากกว่า 580 ล้าน $1.5 ล้านล้านผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ สะดวกในการขนส่งระบบ การค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่มูลค่า $1.7 ล้านล้านปี และการลงทุนต่างประเทศของ 60 พันล้านเหรียญ-ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากราคาที่ถูกกว่าสินค้าที่กำหนดภาษีศุลกากรต่ำกว่าในโฮสต์ของวัตถุดิบที่ใช้ผลิตของภูมิภาค-บางส่วนของโรงงานการประมวลผลคาดว่าจะพักถูกกว่านำเข้าวัตถุดิบหน้าตัดภาษี ตัดต้นทุนการผลิตของพวกเขา-อาเซียนที่จะรวมเป็นตลาดเดียวซึ่งเป็นจุดสำคัญเนื่องจากจะเป็นตลาดใหญ่ มีประชากรสูง และแข็งแกร่ง-ภาคการส่งออกและการลงทุนจะสร้างศักยภาพที่สูงขึ้นในระยะยาวผลลบ และบวก:ภาษีนำเข้าจะลดลงเป็นศูนย์สำหรับสินค้าการเกษตร หัวหอม กระเทียม ชา น้ำตาล ข้าว ถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม และภาษีอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์ฟาร์มตอนนี้ออก ณวันที่ 1 มกราคม 2010รายการภาษีภายใต้ CEPT AFTA ครอบคลุมหลากหลายจากสินค้าอุปโภคบริโภคสำเร็จรูปเช่นอากาศ ยังผลิตภัณฑ์อาหารเช่นน้ำพริก ปลา และถั่วเหลืองซอสวัสดุระดับกลางเช่นชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์และรถยนต์ถังและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่นพลาสติกเหล็ก และเหล็ก กล้า เครื่องจักร และอุปกรณ์เครื่องจักรกล เคมี และเตรียมอาหาร กระดาษ ซีเมนต์ เซรามิก และแก้วบางประเทศ เช่น ประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์ของตนในรายการสำคัญของประเทศผู้ที่จะมีภาษี 5% และมีเมล็ดกาแฟ copra (ลงจาก 20%), (จาก 15%), มันฝรั่ง (จาก 10%) และตัดดอกไม้ (10%)ประเทศไทยเป็นกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในบางสินค้าเกษตรสำคัญเช่นข้าวและปาล์มน้ำมันอย่างไรก็ตาม จำนวนภาคไทยควรได้รับมากจากการค้าเสรีเนื่องจากต้นทุนการผลิตลดลงพวกเขารวมถึงสิ่งทอ และเสื้อผ้า หนัง ผลิตภัณฑ์อาหาร อัญมณี และประดับ ยานพาหนะ และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์จากแร่ และอิเล็กทรอนิกส์สมาชิกน้อยพัฒนาสี่ของภูมิภาค กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามจะมีจนถึง 2015 เพื่อลดภาษีศุลกากรของตนไป 0-5% ภายใต้ AFTA ผูกพันของพวกเขาสำหรับประเทศเวียดนาม ต้นทุนการผลิตต่ำและผลผลิตที่เพิ่มขึ้นของข้าวของคาดว่าจะสามารถแข่งขันกับประเทศไทย และส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดข้าวของประเทศไทยไทยคาดว่าจะเสียหุ้น 0.5% ของการค้าข้าว หรือประมาณ $13 ล้าน เวียดนามมาเลเซียและอินโดนีเซีย ราคาต้นปาล์มน้ำมันมีราคาแพงมากขึ้นกว่าที่ผลิตจากประเทศไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดน้ำมันปาล์มมาเลเซียมีการคาดการณ์ที่ 2.6% สหรัฐอเมริกา $46 ล้าน เพราะมาเลเซียเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาเลเซียผลิตขยายสู่อินโดนีเซียต่อไปจะยกประสิทธิภาพของพวกเขาดังนั้น ขยาย AFTA อาจมีผลต่อเศรษฐกิจไทยทั้งในเชิงลบ และเชิงบวก"แต่ดีจะไกลเกินดุลดี" กล่าวว่า ประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ตามหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เขาประกาศว่า มีแมปรัฐบาลออกมาช่วยเหลือสนับสนุน โดยทบวงกรมต่าง ๆ และยัง บริจาคระเบียบการนำเข้าที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจคุณภาพของฟาร์มสินค้า ดีเพื่อปกป้องผู้บริโภคชาวไทยรัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากภาษีเรียกเก็บเงิน แต่ในระยะยาว โอกาสสำหรับการส่งออกมีความกว้างเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศนอกอาเซียนดังนั้น ประเทศจะได้รับประโยชน์โดยรวมผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า สำหรับประเทศไทย ความท้าทายยังสามารถอัพเกรดทักษะ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ เพิ่มค่าและการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดโลกนาย Dhanin ธนินท์เจียร ผู้ส่งออกอาหารชั้นนำ และประธานของเจริญโภคภัณฑ์ (CP) กลุ่ม ยัง กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่โครงร่างภาษีเป็นศูนย์ภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนจะดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของประเทศไทยยังคงน่าสนใจเขาอธิบายว่า ภาษีเป็นศูนย์ในสินค้าเกษตรภายใต้ AFTA จะได้รับประโยชน์ประเทศ โดยรวมในระยะยาวเนื่องจากไม่คิด 95% ของผลิตภัณฑ์ในระยะสั้น บางสินค้าจะถูกตี โดยการแข่งขันจากการเปิดเสรีการค้านาย Dhanin เรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ผลิตได้รับผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลประโยชน์จากการ
ค้าเสรีอาเซียน AREA (AFTA) ลดภาษี ภายใต้ AFTA หกสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ภาษีตัดเกือบ 8,000 รายการหกประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์, บรูไนและประเทศไทยสี่ของประเทศอาเซียนพัฒนาน้อยรวมทั้งกัมพูชาลาวพม่าและเวียดนามจะมีระยะเวลาต่อไปขั้นตอนในการลดภาษี.หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่าหน้าที่ตามทางภาษีศุลกากรอาเซียนร่วมกันที่มีประสิทธิภาพ (CEPT) โครงการได้ลดลงไประหว่างศูนย์และ 5% สำหรับสินค้าทุกชนิดรวมถึงผู้ที่รอการตัดบัญชีก่อนหน้านี้ในประเทศ 'รายการที่สำคัญและมีความไวสูงนี้เป็นข่าวที่ดีสำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียน.ผลประโยชน์จาก AFTA:- การกำจัดของภาษีจะส่งผลในการลดราคาสินค้าทั่วอาเซียน- การส่งเสริมการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น- ความช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาเซียนผลิตภัณฑ์ 'เข้าถึงตลาดในภูมิภาคที่รวมเอาข้อดีที่สำคัญอีกมากมายเช่น ประชากรมากกว่า 580,000,000, $ 1500000000000 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศระบบการขนส่งที่สะดวกการค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่มูลค่า $ 1700000000000 ปีและการลงทุนต่างประเทศของ $ 60000000000- ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากราคาที่ถูกกว่าสินค้าที่กำหนดอัตราภาษีที่ลดลงในพื้นที่ของวัตถุดิบ ที่ใช้โดยผู้ผลิตของภูมิภาค.- บางส่วนของโรงงานแปรรูปที่คาดว่าจะเพลิดเพลินไปกับการที่ถูกกว่านำเข้าวัตถุดิบในการเผชิญกับการขจัดภาษี, การตัดค่าใช้จ่ายในการผลิตของพวกเขา- อาเซียนจะรวมอยู่ในตลาดเดียวซึ่งเป็นจุดสำคัญเพราะตลาดจะ ที่แข็งแกร่งและขนาดใหญ่ที่มีประชากรสูง- การส่งออกและภาคการลงทุนจะสร้างที่มีศักยภาพสูงขึ้นในระยะยาวเป็นลบและผลกระทบเชิงบวก:ภาษีนำเข้าจะลดลงเป็นศูนย์สำหรับความหลากหลายของสินค้าเกษตรเช่นหัวหอม, กระเทียม, ชา, น้ำตาล, ข้าวถั่วเหลืองน้ำมันปาล์มและสินค้าเกษตรอื่น ๆ อัตราภาษีที่จะถูกตัดออกในขณะนี้ ณ วันที่ 1 มกราคม 2010 พิกัดศุลกากรภายใต้ CEPT-AFTA ยังครอบคลุมหลากหลายจากสินค้าอุปโภคบริโภคเสร็จเช่นเครื่องปรับอากาศ;ผลิตภัณฑ์อาหารเช่นซอสพริกปลาและซอสถั่วเหลือง;วัสดุที่เป็นสื่อกลางเช่นชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์และกระบอกสูบรถยนต์;และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่นเหล็กและเหล็กกล้า, พลาสติก, เครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องจักรกลเคมีภัณฑ์และอาหารที่เตรียมกระดาษปูนซีเมนต์เซรามิกและแก้ว.บางประเทศเช่นประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอยู่ในรายชื่อประเทศที่มีความสำคัญเหล่านี้คือที่จะดำเนินการภาษี 5% และรวมถึงเมล็ดกาแฟ (ลดลงจาก 20%), เนื้อมะพร้าวแห้ง (จาก 15%), มันฝรั่ง (จาก 10%) และตัดดอก (จาก 10%)ประเทศไทยมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในบางสินค้าเกษตรที่สำคัญเช่นข้าวและน้ำมันปาล์มอย่างไรก็ตามจำนวนของภาคไทยควรได้รับอย่างมากจากการค้าเสรีเนื่องจากการลดลงของต้นทุนการผลิตพวกเขารวมถึงสิ่งทอและเสื้อผ้าเครื่องหนัง, ผลิตภัณฑ์อาหาร, อัญมณีและเครื่องประดับ, ยานพาหนะและชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์จากแร่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์.สมาชิกสี่คนที่พัฒนาน้อยกว่าของภูมิภาคเช่นกัมพูชาลาวพม่าและเวียดนามจะมีจนถึงปี 2015 เพื่อลด ภาษีของพวกเขาไป 0-5% ภายใต้ AFTA ภาระผูกพันของพวกเขา.สำหรับเวียดนามลดต้นทุนการผลิตและการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของข้าวที่คาดว่าจะมีการแข่งขันกับไทยและส่งผลกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยประเทศไทยคาดว่าจะสูญเสียส่วนแบ่ง 0.5% ของการค้าข้าวหรือประมาณ $ 13,000,000, เวียดนาม. สำหรับมาเลเซียและอินโดนีเซียราคาน้ำมันปาล์มของพวกเขามีราคาแพงกว่าที่ผลิตจากประเทศไทยการสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันปาล์มไปยังประเทศมาเลเซียได้รับการคาดการณ์ที่ 2.6% หรือ 46 ล้านเหรียญสหรัฐเนื่องจากมาเลเซียเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของโลกและมีประสิทธิภาพสูงการขยายตัวของผู้ผลิตในประเทศมาเลเซีย 'ไปยังประเทศอินโดนีเซียต่อไปจะยกผลผลิตของพวกเขา.ดังนั้นการขยายตัวของ AFTA จะมีผลต่อเศรษฐกิจไทยทั้งทางลบและทางบวก"แต่ที่ดีห่างไกลจะมีค่าเกินที่ไม่ดี" กล่าวว่าประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์เวชชาชีวะตามที่หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์เขาบอกว่ารัฐบาลได้แมปออกมาตรการช่วยเหลือเกี่ยวกับการได้รับทุนจากกระทรวงต่างๆและยังให้คำมั่นกฎระเบียบการนำเข้าที่เข้มงวดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของสินค้าในฟาร์มเช่นเดียวกับการที่จะปกป้องผู้บริโภคชาวไทยรัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการเก็บภาษี แต่ในระยะยาวมีโอกาสสำหรับการส่งออกมีความกว้างเมื่อเทียบกับประเทศนอกอาเซียนดังนั้นประเทศจะได้รับประโยชน์โดยรวม.ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยเป็นความท้าทายที่ยังคงเป็นระดับความสามารถและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคซึ่งจะช่วยให้การรับรู้แบรนด์เพิ่มขึ้นเพิ่มมูลค่าและการแข่งขันให้กับสินค้าไทยในตลาดโลกนาย ธ นินท์เจียรวนนท์เป็นผู้ส่งออกอาหารชั้นนำและประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) กลุ่มยังกล่าวว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าโครงการภาษีเป็นศูนย์ภายใต้อาเซียนเขตการค้าเสรีจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติมากขึ้นในประเทศไทยเมื่อเทียบกับประเทศอาเซียนอื่น ๆ , สภาพแวดล้อมทางธุรกิจของไทยยังคงเป็นที่น่าสนใจเขาอธิบายว่าเป็นศูนย์หน้าที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การเกษตรภายใต้ AFTA จะได้รับประโยชน์ของประเทศโดยรวมในระยะยาวเพราะ 95% ของผลิตภัณฑ์จะไม่เก็บภาษีในระยะสั้นบางสินค้าไทยจะได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการเปิดเสรีการค้านาย ธ นินท์เรียกร้องให้รัฐบาลในการเตรียมมาตรการที่จะช่วยให้ผู้ผลิตได้รับผลกระทบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประโยชน์จากเขตการค้าเสรีอาเซียน ( อาฟตา ) การตัดไหม



ภายใต้อาฟตา หกสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน ) ตัดภาษีเกือบ 8 , 000 รายการ 6 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ บรูไน และไทย สี่ของน้อยพัฒนาประเทศอาเซียน ได้แก่ กัมพูชา ลาวพม่า และเวียดนาม จะมีระยะเวลาต่อไป ในขั้นตอนการตัด

หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์รายงานว่าหน้าที่ในกลุ่มประเทศอาเซียนที่มีสิทธิพิเศษภาษีศุลกากร ( CEPT ) โครงการลดลงระหว่างศูนย์และ 5% สำหรับสินค้าทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ รอการตัดบัญชีในประเทศและรายการที่มีความไวสูง ทำไมมันเป็นข่าวดีสำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียนได้รับประโยชน์จากเขตการค้าเสรีอาเซียน :



- การขจัดภาษีศุลกากรจะส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ลดลงทั่วอาเซียน
-
- ) การแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้นช่วยให้ประเทศอาเซียน ' ผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดในภูมิภาคที่ประกอบด้วยประโยชน์มากมายหลายอย่าง เช่น ประชากรกว่า 580 ล้าน $ 1.5 ล้านล้าน ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ระบบการขนส่งที่สะดวกมาก , การค้าระหว่างประเทศ มูลค่า 1 บาท .7 ล้านต่อปี และการลงทุนในต่างประเทศของ $ 60 พันล้าน
- ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการลดภาษีศุลกากรของสินค้าให้ถูกกว่าราคาบนโฮสต์ของวัตถุดิบที่ใช้ โดยภูมิภาคผู้ผลิต .
- บางส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเพลิดเพลินไปกับที่ถูกกว่าการนำเข้าวัตถุดิบในหน้าของการตัด , การตัดค่าใช้จ่ายในการผลิตของพวกเขา
- อาเซียนจะรวมเป็นตลาดเดียว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะตลาดจะแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่มีประชากรสูง
- การส่งออกและภาคการลงทุนจะสร้างศักยภาพสูงขึ้นในระยะยาว

ลบและบวกผล :

อัตราภาษีนำเข้าจะลดลงเป็นศูนย์ สำหรับหลากหลายของสินค้าเกษตร เช่นหัวหอม , กระเทียม , ชา , น้ำตาล , ข้าว , ถั่วเหลือง , ปาล์มน้ำมันและภาษีอื่น ๆผลิตภัณฑ์ฟาร์มตอนนี้ตัดออกเหมือน 1 มกราคม 2010 อัตราค่าไฟฟ้าที่บรรทัดภายใต้ cept-afta ยังครอบคลุมช่วงกว้างจากสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เครื่องสําเร็จรูป สินค้าอาหาร เช่น น้ำพริก ปลาและซอสถั่วเหลือง ; กลางวัสดุ เช่น ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ ภาชนะบรรจุ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น เหล็ก และเหล็กกล้า พลาสติกเครื่องจักร และอุปกรณ์ เครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ และเตรียมอาหาร กระดาษ ปูนซีเมนต์ เซรามิกส์และแก้ว

บางประเทศ เช่น ประเทศไทย มีผลิตภัณฑ์ของตนในประเทศรายการอ่อนไหว ผู้ถือ 5% และภาษี ได้แก่ เมล็ดกาแฟ ( ลงจาก 20% ) , เนื้อมะพร้าวแห้ง ( 15% ) , มันฝรั่ง ( 10% ) และไม้ตัดดอก ( 10 % )ประเทศไทยมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบในบางคีย์ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ข้าว และน้ำมันปาล์ม อย่างไรก็ตาม ตัวเลขของคนไทยภาคควรได้รับอย่างเต็มที่จากการค้าเสรี เนื่องจากการลดลงของต้นทุนการผลิต พวกเขารวมถึงสิ่งทอและเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์หนัง ผลิตภัณฑ์อาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ ยานยนต์ และชิ้นส่วน ผลิตภัณฑ์ , แร่และอิเล็กทรอนิกส์ .

สี่สมาชิกที่พัฒนาน้อยกว่าของภูมิภาค เช่น กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม จะต้องลดอัตราภาษีของพวกเขาจนกว่า 2015 0-5 % ภายใต้ข้อผูกพัน AFTA ของพวกเขา

สำหรับเวียดนาม การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าวที่คาดว่าจะแข่งขันกับไทย และส่งผลกระทบต่อตลาดข้าวไทย . ประเทศไทยคาดว่าจะสูญเสีย 0.5% ของหุ้นค้าข้าวหรือประมาณ $ 13 ล้าน เวียดนาม รึเปล่า

สำหรับมาเลเซียและอินโดนีเซียของน้ำมันปาล์มราคาแพง กว่าที่ผลิตจากประเทศไทย การสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดน้ำมันปาล์มมาเลเซียมีการคาดการณ์ที่ 2.6% หรือ US $ 46 ล้านบาท เพราะมาเลเซียเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของโลกและมีประสิทธิภาพสูง ผู้ผลิตมาเลเซียอินโดนีเซียจะขยายตัวต่อไป ยกผลงาน

เพราะฉะนั้นการขยายตัวซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ทั้งในด้านบวกและด้านลบ ได้รึเปล่า " แต่จะไกลเกินดุลที่ไม่ดี " ของประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่หนังสือพิมพ์ บางกอก โพสต์ เขาประกาศว่ารัฐบาลได้แมปออกมาตรการความช่วยเหลือสนับสนุนจากกระทรวงต่าง ๆ และทำไมยัง pledged กฎระเบียบนำเข้าอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของสินค้าของฟาร์มตลอดจนการคุ้มครองผู้บริโภคไทย รัฐบาลจะสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี แต่ในระยะยาวโอกาสสำหรับการส่งออกที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศนอกอาเซียน ดังนั้น ประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยรวม

ผู้เชี่ยวชาญชี้ให้เห็นว่าประเทศไทย ความท้าทายที่ยังคงถูกอัพเกรดทักษะและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคซึ่งจะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ เพิ่มมูลค่าและการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดสากล นายนีลส์ เฮนริก อาเบล นำอาหารส่งออก และประธานกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ( CP ) ยังได้กล่าวว่าเมื่อเร็ว ๆนี้ว่า โครงการศูนย์ภาษีศุลกากรภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียนจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้ประเทศไทย เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอาเซียนอื่น ๆสภาพแวดล้อมทางธุรกิจของไทยยังคงมีเสน่ห์ เขาอธิบายว่าหน้าที่ศูนย์สินค้าเกษตรภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยรวมในระยะยาว เพราะ 95% ของผลิตภัณฑ์จะไม่เก็บภาษี ในระยะสั้น , สินค้าไทยบางส่วนจะถูกตีโดยการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการเปิดเสรีทางการค้า . นาย dhanin เรียกร้องให้รัฐบาลเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ .