Eight studiesmet their inclusion cr

Eight studies
met their inclusion criteria and linked leadership
characteristics and outcome measures; however, only two
of these studies included leadership behaviours. Anderson
et al. [1], referred to in the literature study by both
Wong and Cummings [9] and Harvath et al. [6], studied
164 nursing homes in Texas and found a significant
negative relation between relationship-oriented leadership
behaviours - as giving constructive feedback, helping
staff resolve conflicts, generating trust and being
approachable - and the prevalence of fractures and of
complications of immobility. However, the studies
showed no significant association between relationshiporiented
leadership style and the outcome measures such
as resident behaviour and restraint use. The task-oriented
leadership behaviour of formalization, defined as specifying
work procedures and rules and monitoring tasks,
showed insignificant relationships with all of the four
outcomes. McNeese-Smith [44], also included in Wong
and Cummings’ [9] literature review, interviewed 30
nurses working in a Los Angeles hospital and found that
when staff nurses perceived their superiors to employ the
typical relationship-oriented behaviours of support and
conflict solving, the nurses systematically reported higher
levels of productivity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษา 8ตรงตามหลักเกณฑ์การรวมและเชื่อมโยงภาวะผู้นำของพวกเขาลักษณะและการวัดผล อย่างไรก็ตาม สองเท่านั้นการศึกษานี้รวมพฤติกรรมความเป็นผู้นำ แอนเดอร์สันร้อยเอ็ด [1], อ้างถึงในวรรณคดีศึกษาทั้งศึกษาวง และ Cummings [9] และ Harvath et al. [6],พยาบาล 164 บ้านในเท็กซัส และพบสำคัญลบความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำที่มุ่งเน้นความสัมพันธ์-พฤติกรรมเป็นการให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ ช่วยพนักงานแก้ไขความขัดแย้ง การสร้างความน่าเชื่อถือ และการมิตร - และความชุก ของกระดูกหัก และภาวะแทรกซ้อนนาน ๆ ก็ทำ อย่างไรก็ตาม การศึกษาแสดงให้เห็นว่าไม่มีความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่าง relationshiporientedลักษณะความเป็นผู้นำและผลวัดเช่นเป็นการใช้พฤติกรรมและยับยั้งอยู่ มุ่งเน้นที่การงานพฤติกรรมผู้นำของ formalization กำหนดเป็นการระบุทำงานขั้นตอน และกฎ และ งานตรวจสอบแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่สำคัญทั้งหมดของสี่ผลลัพธ์ที่ McNeese-สมิธ [44], รวมอยู่ในวงศ์และทบทวนวรรณกรรม [9] Cummings' สัมภาษณ์ 30พยาบาลทำงานในโรงพยาบาลลอสแองเจลิส และพบว่าเมื่อพนักงานผู้บังคับบัญชาของพวกเขาใช้การรับรู้ของพยาบาลพฤติกรรมทั่วไปเน้นความสัมพันธ์ของการสนับสนุน และขัดแย้ง การแก้การพยาบาลระบบรายงานสูงระดับของผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แปดศึกษา
พบเกณฑ์การคัดเลือกของพวกเขาและความเป็นผู้นำที่เชื่อมโยงกับ
ลักษณะและมาตรการผล; แต่เพียงสอง
การศึกษาเหล่านี้รวมถึงพฤติกรรมผู้นำ เดอร์สัน
, et al [1] อ้างถึงในการศึกษาวรรณคดีโดยทั้งสอง
วงศ์และคัมมิ่งส์ [9] และ Harvath et al, [6] ศึกษา
164 พยาบาลในเท็กซัสและพบว่ามีนัยสำคัญ
ความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างความสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นการเป็นผู้นำ
พฤติกรรม - การให้ความคิดเห็นที่สร้างสรรค์ซึ่งจะช่วยให้
เกิดความขัดแย้งพนักงานแก้ปัญหาการสร้างความไว้วางใจและเป็น
ที่เข้าถึงได้ - และความชุกของการเกิดกระดูกหักและ
ภาวะแทรกซ้อนของการเคลื่อน อย่างไรก็ตามการศึกษา
แสดงให้เห็นว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่าง relationshiporiented
ลักษณะความเป็นผู้นำและการวัดผลดังกล่าว
เป็นพฤติกรรมที่มีถิ่นที่อยู่และการใช้ความยับยั้งชั่งใจ งานเชิง
พฤติกรรมผู้นำของทางการที่กำหนดไว้ในการระบุ
ขั้นตอนการทำงานและกฎระเบียบและการตรวจสอบงาน
ที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีนัยสำคัญที่มีทั้งหมดของสี่
ผล McNeese สมิ ธ [44] นอกจากนี้ยังรวมอยู่ในวงศ์
และคัมมิ่งส์ [9] ทบทวนวรรณกรรมสัมภาษณ์ 30
พยาบาลที่ทำงานในโรงพยาบาล Los Angeles และพบว่า
เมื่อพยาบาลประจำการรับรู้ของผู้บังคับบัญชาของพวกเขาไปจ้าง
พฤติกรรมความสัมพันธ์ที่มุ่งเน้นการทั่วไปของการสนับสนุนและ
ความขัดแย้ง แก้พยาบาลระบบรายงานที่สูงกว่า
ระดับของการผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

8 การศึกษาพบกับการสอนของพวกเขาและเชื่อมโยงกับภาวะผู้นำลักษณะและการวัดผล อย่างไรก็ตาม เพียงสองการศึกษาเหล่านี้รวมพฤติกรรมภาวะผู้นำ แอนเดอร์สันet al . [ 1 ] ที่อ้างถึงในการศึกษาวรรณคดีทั้งวอง และ คัมมิ่งส์ [ 9 ] และ harvath et al . [ 6 ] , ศึกษา164 บ้านพยาบาลในเท็กซัส และพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ ความสัมพันธ์เชิงลบ- เป็นพฤติกรรมสร้างสรรค์ช่วยให้ความคิดเห็นพนักงานแก้ไข ความขัดแย้ง การสร้างความน่าเชื่อถือ และเป็นเข้าถึงได้และความชุกของกระดูกและภาวะแทรกซ้อนของการไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ . อย่างไรก็ตาม การศึกษาพบว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่าง relationshiporientedภาวะผู้นำกับผลของมาตรการดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่พักอาศัย และการใช้ งานที่มุ่งเน้นพฤติกรรมภาวะผู้นำของความเป็นทางการ กําหนดเป็น ระบุงานขั้นตอนและกฎระเบียบและการตรวจสอบการไม่พบความสัมพันธ์ที่มีทั้งหมดสี่ผลลัพธ์ McNeese สมิธ [ 44 ] ซึ่งรวมอยู่ในวงศ์คัมมิงส์และทบทวนวรรณกรรม ' [ 9 ] สัมภาษณ์ 30พยาบาลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลลอสแองเจลิส และพบว่าเมื่อพยาบาลประจำการรับรู้ผู้บังคับบัญชาที่จะจ้างโดยทั่วไปความสัมพันธ์เชิงพฤติกรรมของสนับสนุนแก้ปัญหาความขัดแย้ง , พยาบาลอย่างเป็นระบบรายงานสูงกว่าระดับของการผลิต