Comitant misalignment is characteri

Comitant misalignment is characteristically found in patients with congenital or early-onset strabismus. These patients typically do not report diplopia because of suppression, an adaptation that reduces the responsiveness of the visual neurons in the occipital cortex to the input from 1 eye. Suppression is often associated with amblyopia but may occur in patients with normal acuity in both eyes, especially in patients with an alternating exodeviation. Patients with a history of childhood strabismus may develop diplopia later in life, when the degree of ocular misalignment changes. Patients with a long-standing exophoria, for example, may develop horizontal diplopia in their fifth decade of life when accommodation and convergence capacities wane.

Conversely, a long-standing incomitant deviation may become comitant with the passage of time. This “spread of comitance” is related to a gradual resetting of the innervation to yoke muscles of each eye. This apparent violation of Hering’s law, which is probably mediated at a cerebellar level, produces an adjustment of the gain of the neural input signal to individual extraocular muscles. Spread of comitance may occur with either a restrictive or paretic incomitant deviation, especially with a fourth nerve palsy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แนว Comitant พบมีลักษณะเฉพาะในผู้ป่วยที่มีมา แต่กำเนิดตาเหล่หรือต้นเริ่มมีอาการ ผู้ป่วยเหล่านี้มักจะไม่รายงานซ้อนเนื่องจากการปราบปรามการปรับตัวที่ช่วยลดการตอบสนองของเซลล์ประสาทภาพในเยื่อหุ้มสมองท้ายทอยเพื่อป้อนข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตา ปราบปรามมักจะเกี่ยวข้องกับมัว แต่อาจเกิดขึ้นในผู้ป่วยที่มีความรุนแรงตามปกติในดวงตาทั้งสองข้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความสลับ exodeviation ผู้ป่วยที่มีประวัติของตาเหล่ในวัยเด็กอาจพัฒนาซ้อนต่อไปในชีวิตเมื่อระดับของแนวตาที่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้ป่วยที่มี exophoria ยาวนานตัวอย่างเช่นอาจจะพัฒนาซ้อนแนวนอนในทศวรรษที่ห้าชีวิตของพวกเขาเมื่อที่พักและการบรรจบขีดความสามารถจางหายไป. ตรงกันข้ามยาวนานเบี่ยงเบน incomitant อาจจะกลายเป็น comitant กับเนื้อเรื่องของเวลา นี้ "การแพร่กระจายของ comitance" มีความสัมพันธ์กับการตั้งค่าอย่างค่อยเป็นค่อยไปของปกคลุมด้วยเส้นเพื่อกล้ามเนื้อแอกของตาแต่ละข้าง นี้ละเมิดชัดเจนของกฎหมาย Hering ซึ่งอาจจะเป็นสื่อกลางในระดับที่สมองน้อย, ก่อให้เกิดการปรับตัวของอัตราขยายของสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ extraocular บุคคล การแพร่กระจายของ comitance อาจเกิดขึ้นกับทั้งเบี่ยงเบน incomitant เข้มงวดหรือเป็นอัมพาตโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีอัมพาตของเส้นประสาทที่สี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

comitant อันมีลักษณะพิเศษที่พบในผู้ป่วยพิการแต่กำเนิด หรือก่อนวัยตาเหล่ ผู้ป่วยเหล่านี้มักจะไม่รายงานเง้างอน เพราะการปราบปราม , การปรับตัวที่ช่วยลดการตอบสนองของระบบประสาทและสมองท้ายทอยเพื่อป้อนข้อมูลจาก 1 ตา ปราบปรามมักจะเกี่ยวข้องกับการนวด แต่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยปกติการมองเห็นในตาทั้งสองข้าง โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีการสลับ exodeviation . ผู้ป่วยที่มีประวัติของเด็กตาเข อาจพัฒนาภาพซ้อนในภายหลังในชีวิต เมื่อระดับของการเปลี่ยนแปลงแนวการดู . ผู้ป่วยที่มี exophoria ยืนยาว , ตัวอย่างเช่นอาจพัฒนาแนวนอนภาพซ้อนในทศวรรษที่ห้าของชีวิตเมื่อที่พักและความสามารถมาหย่อมในทางกลับกัน การเบี่ยงเบน incomitant ยาวนานอาจจะ comitant กับเวลาที่ผ่านไป " การแพร่กระจายของ comitance " เกี่ยวข้องกับมาตรการการตั้งค่าของกระจกเว้าเทียมกล้ามเนื้อของตาแต่ละข้าง การละเมิดที่ชัดเจนของเฮอริ่งของกฎหมายนี้ ซึ่งอาจจะอยู่ในระดับ ( nucleus , ผลิตการปรับเพิ่มของสัญญาณประสาทกับกล้ามเนื้อนอกลูกตาของแต่ละบุคคล การแพร่กระจายของ comitance อาจเกิดขึ้นกับทั้ง จำกัด หรือผู้เป็นเหน็บชา incomitant เบี่ยงเบน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอัมพาตเส้นประสาท 4