Lau and Lam (2004) found that the a

Lau and Lam (2004) found that the anorectal procedure was the method most associated with postoperative urinary retention compared to the other types operations. The urinary retention prevalence rate was 26.7% following anorectal surgery (Lau & Lam 2004). Toyonaga et al. (2006) found that the prevalence of urinary retention of haemorrhoidectomy (21.9%) was higher than that of other anorectal procedures (from 2.3-19.8%). A search of past PubMed literature, 1991-2001, revealed two retrospective studies reporting a variance in the prevalence (78.1 and 18.8%) of urine retention after haemorrhoidectomy in Taiwan (Chao et al. 1991, Lin 2001). These two study samples focused on the north and middle of Taiwan and demonstrated a very big difference between these regions. Meanwhile, studies exploring the prevalence of posthaemorrhoidectomy urine retention in southern Taiwan are rare and should likely be increased if we are to better grasp any potential regional correltion for prevalence and severity of the complication;thus the intent of this study.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Lau และลำ (2004) พบว่าขั้นตอนการ anorectal เป็นวิธีการส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการเก็บปัสสาวะหลังการผ่าตัดเมื่อเทียบกับการดำเนินงานประเภทอื่น ๆ อัตราความชุกการเก็บปัสสาวะเป็น 26.7% การผ่าตัด anorectal ดังต่อไปนี้ (Lau &ลำ 2004) Toyonaga ตอ​​ัล (2006) พบว่าความชุกของการเก็บปัสสาวะของ haemorrhoidectomy (219%) สูงกว่าวิธีการอื่น ๆ anorectal (2.3-19.8%) การค้นหาของวรรณกรรม PubMed ผ่านมา 1991-2001 เผยให้เห็นสองการศึกษาย้อนหลังการรายงานความแปรปรวนในความชุก (78.1 และ 18.8%) ของการเก็บปัสสาวะหลังจาก haemorrhoidectomy ในไต้หวัน (chao และคณะ. 1991 lin 2001)ทั้งสองตัวอย่างการศึกษามุ่งเน้นไปที่ภาคเหนือและตอนกลางของไต้หวันและแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่ใหญ่มากระหว่างภูมิภาคเหล่านี้ ขณะที่การศึกษาการสำรวจความชุกของการเก็บปัสสาวะ posthaemorrhoidectomy ในไต้หวันใต้เป็นของหายากและควรมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นถ้าเราจะเข้าใจได้ดีขึ้นใด ๆ correltion ภูมิภาคท​​ี่มีศักยภาพสำหรับความชุกและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน;ดังนั้นเจตนาของการศึกษาครั้งนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Lau และลำ (2004) พบว่า กระบวน anorectal เป็นวิธีการที่เกี่ยวข้องกับในการผ่าตัดรักษาท่อปัสสาวะเปรียบเทียบกับงานชนิดอื่น ๆ มากที่สุด อัตราการรักษาท่อปัสสาวะ 26.7% หลังผ่าตัด anorectal (Lau &ลำ 2004) Toyonaga et al. (2006) พบว่าความชุกของการ haemorrhoidectomy (21 ท่อปัสสาวะ9%) สูงกว่าที่อื่น ๆ ตอน anorectal (จาก 2.3-19.8%) การค้นหาเอกสารประกอบการผ่าน PubMed, 1991-2001 เปิดเผยคาดสองการศึกษารายงานผลต่างการชุก (78.1 และ 18.8%) ของปัสสาวะหลังจาก haemorrhoidectomy ในไต้หวัน (เจ้า et al. 1991, 2001 หลิน) ตัวอย่างการศึกษาที่สองเหล่านี้เน้นเหนือและกลางของไต้หวัน และแสดงความแตกต่างระหว่างภูมิภาคเหล่านี้ใหญ่มาก ในขณะเดียวกัน การศึกษาสำรวจความชุกของปัสสาวะ posthaemorrhoidectomy ในไต้หวันภาคใต้ไม่ค่อยพบ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นถ้าเราเข้าใจ correltion ภูมิภาคใด ๆ อาจชุกและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อน ดีดังนั้นจุดประสงค์ของการศึกษานี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Lau Pa Sat ก่อนและลำ( 2004 )พบว่าวิธีการฝึกให้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บปัสสาวะ postoperative เมื่อเทียบกับการทำงาน ประเภท อื่นๆ ในขณะเดียวกันอัตราการยึดระบบทางเดินปัสสาวะได้ 26.7% ต่อไปนี้การผ่าตัด Biofeedback ( Lau Pa Sat &ลำ 2004 ) toyonaga et al . ( 2006 )พบว่ามีมากกว่าของการยึดระบบทางเดินปัสสาวะของ haemorrhoidectomy ( 21 .9% )อยู่ที่ระดับสูงกว่าขั้นตอนอื่นๆ( Anorectal (จาก 2.3-19.8% )ว่า การค้นหาในอดีต pubmed วรรณกรรม 1991-2001 เปิดเผยว่าทั้งสองมีผลย้อนหลังการรายงานการศึกษาในความแตกต่างที่มีมากกว่า( 78.1 และ 18.8% )ของการยึดปัสสาวะหลังจาก haemorrhoidectomy ในไต้หวัน(เจ้า et al . 1991 Lin 2001 )ตัวอย่างสองการศึกษาเหล่านี้ให้ความสำคัญกับส่วนกลางและด้านทิศเหนือของไต้หวันและแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง ภูมิภาค นี้ ในขณะที่การศึกษาเพื่อการสำรวจมีมากกว่าของการยึดปัสสาวะ posthaemorrhoidectomy ในไต้หวันทางตอนใต้หาได้ยากและจะต้องเพิ่มขึ้นถ้าเราจะต้องจับ correltion ในระดับ ภูมิภาค จะเกิดความรุนแรงและมีมากกว่าของโรคแทรกที่มีแนวโน้มจะดีขึ้นดังนั้นความมุ่งหมายของข้อกำหนดในการศึกษานี้.