AbstractCoronary heart disease (CHD

Abstract
Coronary heart disease (CHD) in women is an enormous problem and remains the number one killer of women. As a result, there is a great deal of research available. However, in spite of the research and the media attention focused on educating women, there are still misconceptions about this life-threatening disease. Nurses must work to bridge the gap between the evidence and the women who are failing to heed the signs and symptoms of CHD. Education is essential to overcoming these barriers. As client advocates, nurses have key roles in the areas of assessment, education, and referral. Formal and informal culturally appropriate education programs need to be developed and implemented to disseminate CHD information. A wealth of information is available regarding women and CHD. However, limited research has been conducted regarding the role of the nurse as educator. Nurses must take advantage of their leadership position to educate the public and identify women at risk for CHD, while working collaboratively between all healthcare disciplines.
Coronary heart disease (CHD) is the number one cause of death and disability for women over 50 in the United States (Lefler, 2002). Despite all the media attention and the efforts to educate the public by various health organizations, there is still a misconception among many that women do not develop CHD until a later age and that it is not the number one killer of women in the U.S. (Miracle, 2006). Many people, especially women, still believe that heart disease is a man’s problem. Research confirms that factors such as socio-economic status and gender do influence perceptions and understanding of the illness (King, 2002). This paper will review some of the research about women and heart disease, statistics, various signs and symptoms of CHD in women, and the role of the nurse in educating the public about CHD in women. Throughout this paper, primary research reports will be analyzed for their contribution to the research question, and implications for nursing will be discussed. This literature review will answer the research question: What role should nurses provide in educating women about the symptoms and risks of heart disease?
Women have insufficient knowledge and understanding about heart disease and its treatments (Kärner, Dahlgren, & Bergdahl, 2004). CHD alone is the cause of death for more than 500,000 women in the U.S. each year (Lefler, 2002). However, a survey in 2004 showed that more than 50% of women did not know this (Miracle, 2006). These statistics are very alarming, considering the great advances in treating CHD and the efforts to educate the public through information and awareness campaigns.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อโรค (เด็ฏ) ในสตรีเป็นปัญหาใหญ่หลวง และยังคงเป็น นักฆ่าหมายเลขหนึ่งของผู้หญิง ดัง มีวิจัยมากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการวิจัยและความสนใจของสื่อที่เน้นให้ผู้หญิง ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคที่คุกคามชีวิตนี้ พยาบาลต้องทำงานเพื่อเชื่อมต่อช่องว่างระหว่างหลักฐานและไม่สามารถนำพาสัญญาณและอาการของเด็ฏผู้หญิง การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขจัดหมดสิ้นอุปสรรคเหล่านี้ เป็นไคลเอ็นต์สนับสนุน พยาบาลมีบทบาทสำคัญในด้านการประเมิน การศึกษา และอ้างอิง อย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางเหมาะวัฒนธรรมศึกษาการพัฒนาขึ้น และนำไปใช้เพื่อสื่อข้อมูลเด็ฏ ความมั่งคั่งของข้อมูลจะพร้อมใช้งานเกี่ยวกับสตรีและเด็ฏ อย่างไรก็ตาม วิจัยจำกัดมีการดำเนินเกี่ยวกับบทบาทของพยาบาลเป็นประวัติผู้สอนและ พยาบาลต้องใช้ประโยชน์จากตำแหน่งผู้นำของพวกเขาเพื่อรู้ประชาชน และระบุผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสำหรับเด็ฏ ในขณะที่ทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์ทุกสาขาโรค (เด็ฏ) เป็นสาเหตุจำนวนหนึ่งเสียชีวิตและทุพพลภาพสตรีกว่า 50 ในสหรัฐอเมริกา (Lefler, 2002) แม้ มีความสนใจสื่อและความรู้สาธารณะองค์กรสุขภาพต่าง ๆ ยังมีความเข้าใจผิดมากมายที่ผู้หญิงไม่พัฒนาเด็ฏจนอายุในภายหลังว่า มันไม่ใช่นักฆ่าหมายเลขหนึ่งของผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา (มิราเคิล 2006) หลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิง ยังคงเชื่อว่า โรคหัวใจเป็นปัญหาของมนุษย์ งานวิจัยยืนยันว่า ปัจจัยเช่นสถานะทางเศรษฐกิจสังคมและเพศมีผลต่อภาพลักษณ์และความเข้าใจในโรค (คิง 2002) กระดาษนี้จะตรวจสอบบางส่วนของงานวิจัยเกี่ยวกับสตรี และโรคหัวใจ สถิติ สัญญาณต่าง ๆ และอาการของเด็ฏในผู้หญิง และบทบาทของพยาบาลในความรู้เกี่ยวกับเด็ฏในผู้หญิง ทั้งนี้กระดาษ รายงานการวิจัยหลักที่จะวิเคราะห์ในส่วนของคำถามวิจัย และจะหารือผลกระทบสำหรับพยาบาล การทบทวนวรรณกรรมนี้จะตอบคำถามวิจัย: บทบาทใดจะพยาบาลให้ให้ผู้หญิงเกี่ยวกับอาการและความเสี่ยงของโรคหัวใจหรือไม่ผู้หญิงมีความรู้ไม่เพียงพอและความเข้าใจเกี่ยวกับโรคและการบำบัด (Kärner, Dahlgren, & Bergdahl, 2004) เด็ฏคนเดียวเป็นสาเหตุการตายมากกว่า 500000 ชุดในสหรัฐอเมริกาแต่ละปี (Lefler, 2002) อย่างไรก็ตาม การสำรวจในปี 2004 พบว่า มากกว่า 50% ของผู้หญิงไม่รู้นี้ (โรงแรมมิราเคิล 2006) สถิติเหล่านี้จะรุนแรง พิจารณาความก้าวหน้ามากในการรักษาความรู้สาธารณะผ่านข้อมูลและการส่งเสริมความตระหนักและเด็ฏ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
โรคหลอดเลือดหัวใจ (CHD) ในสตรีที่เป็นปัญหาอย่างมากและยังคงเป็นนักฆ่าหมายเลขหนึ่งของผู้หญิง เป็นผลให้มีการจัดการที่ดีของการวิจัยที่มีอยู่ แต่ทั้งๆที่มีการวิจัยและความสนใจของสื่อที่มุ่งเน้นการให้ความรู้แก่ผู้หญิงยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคนี้ที่คุกคามชีวิต พยาบาลต้องทำงานเพื่อลดช่องว่างระหว่างหลักฐานและผู้หญิงที่มีความล้มเหลวที่จะฟังสัญญาณและอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ ในฐานะที่เป็นผู้สนับสนุนของลูกค้า, พยาบาลมีบทบาทสำคัญในด้านการประเมินผลการศึกษาและการอ้างอิง อย่างเป็นทางการและโปรแกรมการศึกษาที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมจะต้องมีการพัฒนาและดำเนินการเพื่อเผยแพร่ข้อมูล CHD ความมั่งคั่งของข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับผู้หญิงและโรคหลอดเลือดหัวใจ อย่างไรก็ตามการวิจัย จำกัด ได้รับการดำเนินการเกี่ยวกับบทบาทของพยาบาลในขณะที่การศึกษา พยาบาลต้องใช้ประโยชน์จากสถานะความเป็นผู้นำของพวกเขาให้ความรู้ประชาชนและระบุผู้หญิงที่มีความเสี่ยงสำหรับโรคหลอดเลือดหัวใจในขณะที่ทำงานร่วมกันระหว่างสาขาการดูแลสุขภาพทั้งหมด.
โรคหลอดเลือดหัวใจ (CHD) เป็นจำนวนหนึ่งสาเหตุของการตายและความพิการสำหรับผู้หญิงกว่า 50 ในประเทศ สหรัฐอเมริกา (Lefler, 2002) แม้จะมีความสนใจของสื่อและความพยายามให้ความรู้แก่ประชาชนโดยหน่วยงานด้านสุขภาพต่างๆยังมีความเข้าใจผิดในหลาย ๆ ที่ผู้หญิงไม่พัฒนา CHD จนกระทั่งอายุภายหลังและที่มันไม่ได้เป็นนักฆ่าหมายเลขหนึ่งของผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา (มิราเคิล 2006) หลายคนโดยเฉพาะผู้หญิงยังคงเชื่อว่าโรคหัวใจเป็นปัญหาของมนุษย์ การวิจัยยืนยันว่าปัจจัยต่าง ๆ เช่นสถานะทางเศรษฐกิจและสังคมและเพศมีอิทธิพลต่อการรับรู้ทำและความเข้าใจของการเจ็บป่วย (คิง 2002) บทความนี้จะตรวจสอบบางส่วนของการวิจัยเกี่ยวกับผู้หญิงและโรคหัวใจ, สถิติ, สัญญาณต่าง ๆ และอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิงและบทบาทของพยาบาลในการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิง ตลอดกระดาษนี้รายงานการวิจัยหลักจะได้รับการวิเคราะห์สำหรับการสนับสนุนของพวกเขากับคำถามการวิจัยและผลกระทบต่อการพยาบาลจะมีการหารือ การทบทวนวรรณกรรมนี้จะตอบคำถามการวิจัย: อะไรคือบทบาทของพยาบาลควรให้ในการให้ความรู้เกี่ยวกับอาการของผู้หญิงและความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
ผู้หญิงมีความรู้ไม่เพียงพอและความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหัวใจและการรักษาของ (Karner, ดาห์ลเกรนและเบิร์กดาห์, 2004) CHD คนเดียวที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตมานานกว่า 500,000 ผู้หญิงในสหรัฐในแต่ละปี (Lefler, 2002) แต่จากการสำรวจในปี 2004 พบว่ากว่า 50% ของผู้หญิงที่ไม่ได้รู้เรื่องนี้ (มิราเคิล 2006) สถิติเหล่านี้เป็นที่น่าตกใจมากเมื่อพิจารณาความก้าวหน้าอย่างมากในการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจและความพยายามให้ความรู้แก่ประชาชนผ่านข้อมูลและแคมเปญการรับรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
โรคหัวใจขาดเลือด ในผู้หญิงที่เป็นปัญหาที่ใหญ่หลวงและยังคงนักฆ่าหมายเลขหนึ่งของผู้หญิง เป็นผลให้มีการจัดการที่ดีของการวิจัยที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการวิจัยและความสนใจของสื่อที่เน้นให้ผู้หญิงยังคงมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับโรคร้ายแรงนี้พยาบาลต้องทำงานเพื่อลดช่องว่างระหว่างหลักฐานและสตรีที่มีความล้มเหลวที่จะทำตามสัญญาณและอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจ . การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ ที่สนับสนุนลูกค้า พยาบาลมีบทบาทที่สำคัญในพื้นที่ของการประเมิน การศึกษาและการอ้างอิงที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการระหว่างโปรแกรมการศึกษาที่เหมาะสมจะต้องมีการพัฒนาและดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลความสัมพันธ์ ความหลากหลายของข้อมูลที่มีอยู่เกี่ยวกับผู้หญิงและความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม การวิจัย จำกัด ได้ดำเนินการ เกี่ยวกับบทบาทของพยาบาลเป็นผู้ให้การศึกษา พยาบาลจะต้องใช้ประโยชน์จากตำแหน่งความเป็นผู้นำของพวกเขาเพื่อให้ความรู้สาธารณะและระบุผู้หญิงที่มีความเสี่ยงของ CHDในขณะที่ทำงานร่วมกันระหว่างสาขา ดูแลสุขภาพทุกคน .
โรคหัวใจขาดเลือด ( CHD ) เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการเสียชีวิตและความพิการสำหรับผู้หญิงมากกว่า 50 ในประเทศสหรัฐอเมริกา เลฟเลอร์ , 2002 ) ทั้งๆที่สื่อให้ความสนใจและพยายามให้การศึกษาแก่ประชาชนโดยองค์กรสุขภาพต่างๆยังคงมีความเข้าใจผิดในหมู่มากที่ผู้หญิงไม่พัฒนาความสัมพันธ์ จนต่อมา อายุ และมันไม่ได้เป็นนักฆ่าอันดับหนึ่งของผู้หญิงในสหรัฐอเมริกา ( มิราเคิล , 2006 ) หลายๆคน โดยเฉพาะผู้หญิง ยังเชื่อว่า โรคหัวใจเป็นปัญหาของผู้ชาย การวิจัยยืนยันว่าปัจจัย เช่น เพศ สถานภาพทางเศรษฐกิจสังคม และทำการรับรู้อิทธิพลและความเข้าใจของการเจ็บป่วย ( กษัตริย์ , 2002 )กระดาษนี้จะตรวจสอบบางส่วนของงานวิจัยเกี่ยวกับผู้หญิงกับโรคหัวใจ , สถิติ , ป้ายต่าง ๆ และอาการของโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิง และบทบาทของพยาบาลในการให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้หญิง ตลอดบทความนี้ รายงานวิจัยหลักจะวิเคราะห์การมีส่วนร่วมของคำถามการวิจัย และผลกระทบต่อพยาบาลจะได้รับการพิจารณา