What are parabens?Parabens are amon

What are parabens?
Parabens are among the most commonly used preservatives in cosmetic products. Chemically, parabens are esters of p-hydroxybenzoic acid. The most common parabens used in cosmetic products are methylparaben, propylparaben, and butylparaben. Typically, more than one paraben is used in a product, and they are often used in combination with other types of preservatives to provide preservation against a broad range of microorganisms. The use of mixtures of parabens allows the use of lower levels while increasing preservative activity.

Why are preservatives used in cosmetics?

Preservatives may be used in cosmetics to protect them against microbial growth, both to protect consumers and to maintain product integrity.

What kinds of products contain parabens?

They are used in a wide variety of cosmetics, as well as foods and drugs. Cosmetics that may contain parabens include makeup, moisturizers, hair care products, and shaving products, among others. Most major brands of deodorants and antiperspirants do not currently contain parabens.

Cosmetics sold on a retail basis to consumers are required by law to declare ingredients on the label. This is important information for consumers who want to determine whether a product contains an ingredient they wish to avoid. Parabens are usually easy to identify by name, such as methylparaben, propylparaben, butylparaben, or benzylparaben.

Does FDA regulate the use of preservatives in cosmetics?

The Federal Food, Drug, and Cosmetic Act (FD&C Act) does not authorize FDA to approve cosmetic ingredients, with the exception of color additives that are not coal-tar hair dyes. In general, cosmetic manufacturers may use any ingredient they choose, except for a few ingredients that are prohibited by regulation. However, it is against the law to market a cosmetic in interstate commerce if it is adulterated. Under the FD&C Act, a cosmetic is adulterated if, among other reasons, it bears or contains any poisonous or deleterious substance which may render it injurious under the labeled conditions of use, or under customary or usual conditions of use. For more on this subject, see FDA Authority Over Cosmetics and Key Legal Concepts: "Interstate Commerce," "Adulterated," and "Misbranded.

back to top

Are there health risks associated with the use of parabens in cosmetics?

The Cosmetic Ingredient Review (CIR) reviewed the safety of methylparaben, propylparaben, and butylparaben in 1984 and concluded they were safe for use in cosmetic products at levels up to 25%. Typically parabens are used at levels ranging from 0.01 to 0.3%.

On November 14, 2003, the CIR began the process to reopen the safety assessments of methylparaben, ethylparaben, propylparaben, and butylparaben in order to offer interested parties an opportunity to submit new data for consideration. In September 2005, the CIR decided to re-open the safety assessment for parabens to request exposure estimates and a risk assessment for cosmetic uses. In December 2005, after considering the margins of safety for exposure to women and infants, the Panel determined that there was no need to change its original conclusion that parabens are safe as used in cosmetics. (The CIR is an industry-sponsored organization that reviews cosmetic ingredient safety and publishes its results in open, peer-reviewed literature. FDA participates in the CIR in a non-voting capacity.)

A study published in 2004 (Darbre, in the Journal of Applied Toxicology) detected parabens in breast tumors. The study also discussed this information in the context of the weak estrogen-like properties of parabens and the influence of estrogen on breast cancer. However, the study left several questions unanswered. For example, the study did not show that parabens cause cancer, or that they are harmful in any way, and the study did not look at possible paraben levels in normal tissue.

FDA is aware that estrogenic activity in the body is associated with certain forms of breast cancer. Although parabens can act similarly to estrogen, they have been shown to have much less estrogenic activity than the body’s naturally occurring estrogen. For example, a 1998 study (Routledge et al., in Toxicology and Applied Pharmacology) found that the most potent paraben tested in the study, butylparaben, showed from 10,000- to 100,000-fold less activity than naturally occurring estradiol (a form of estrogen). Further, parabens are used at very low levels in cosmetics. In a review of the estrogenic activity of parabens, (Golden et al., in Critical Reviews in Toxicology, 2005) the author concluded that based on maximum daily exposure estimates, it was implausible that parabens could increase the risk associated with exposure to estrogenic chemicals.

FDA believes that at the present time there is no reason for consumers to be concerned about the use of cosmetics containing parabens. However, the agency will continue to evaluate new data in this area. If FDA determines that a health hazard exists, the agency will advise the industry and the public, and will consider its legal options under the authority of the FD&C Act in protecting the health and welfare of consumers.

March 24, 2006; Updated October 31, 2007

back to top

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิ่งที่พาราเบนคืออะไร
Parabens อยู่ในหมู่สารกันบูดที่นิยมใช้มากที่สุดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สารเคมี, พาราเบนเป็นเอสเทอกรด P-hydroxybenzoic พาราเบนที่พบมากที่สุดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Methylparaben, Propylparaben และ Butylparaben โดยปกติมากกว่าหนึ่ง paraben ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์และพวกเขามักจะใช้ในการรวมกันกับประเภทอื่น ๆ ของสารกันบูดที่จะให้การรักษากับความหลากหลายของเชื้อจุลินทรีย์ การใช้ส่วนผสมของพาราเบนช่วยให้การใช้ระดับที่ต่ำกว่าในขณะที่การเพิ่มกิจกรรมสารกันบูด. ทำไมสารกันบูดที่ใช้ในเครื่องสำอาง? สารกันบูดอาจจะถูกใช้ในเครื่องสำอางเพื่อปกป้องพวกเขากับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ทั้งเพื่อปกป้องผู้บริโภคและเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์. ประเภทใด ผลิตภัณฑ์ที่มีพาราเบน? พวกเขาจะใช้ในความหลากหลายของเครื่องสำอางเช่นเดียวกับอาหารและยาเสพติด เครื่องสำอางที่อาจมี parabens รวมถึงการแต่งหน้า moisturizers ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์โกนหนวด, หมู่คนอื่น ๆ มากที่สุดแบรนด์ที่สำคัญของการดับกลิ่นเหงื่อและยังไม่มี parabens. ขายเครื่องสำอางบนพื้นฐานค้าปลีกให้กับผู้บริโภคต้องตามกฎหมายที่จะประกาศส่วนผสมบนฉลาก นี่เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่พวกเขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยง Parabens มักจะง่ายต่อการระบุชื่อเช่น Methylparaben, Propylparaben, Butylparaben หรือ benzylparaben. ไม่องค์การอาหารและยาควบคุมการใช้สารกันบูดในเครื่องสำอาง? ชาติอาหารยาเครื่องสำอางและวางตัว (FD & C พระราชบัญญัติ) ไม่อนุญาตให้องค์การอาหารและยาจะอนุมัติเครื่องสำอาง ส่วนผสมที่มีข้อยกเว้นของสารเติมแต่งสีที่ไม่ได้เป็นสีย้อมผมถ่านหินน้ำมันดิน โดยทั่วไปผู้ผลิตเครื่องสำอางอาจจะใช้ส่วนผสมใด ๆ ที่พวกเขาเลือกยกเว้นส่วนผสมไม่กี่ที่ต้องห้ามตามกฎระเบียบ แต่ก็เป็นสิ่งผิดกฎหมายในการทำตลาดเครื่องสำอางในรัฐพาณิชย์หากมีการปลอมปน ภายใต้พระราชบัญญัติ FD & C, เครื่องสำอางถูกปลอมปนถ้าด้วยเหตุผลอื่น ๆ ก็หมีหรือมีสารพิษหรืออันตรายที่อาจทำให้มันเกิดความเสียหายภายใต้เงื่อนไขการใช้งานที่มีข้อความหรือภายใต้เงื่อนไขจารีตประเพณีหรือตามปกติของการใช้งาน สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูมีอำนาจกว่าองค์การอาหารและยาเครื่องสำอางและแนวคิดในทางที่สำคัญ:. "พาณิชย์รัฐ", "ปลอมปน" และ "misbranded กลับไปที่ด้านบนหรือไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของ parabens ในเครื่องสำอางเครื่องสำอางรีวิวส่วนผสม ( CIR) การตรวจสอบความปลอดภัยของ methylparaben, Propylparaben และ Butylparaben ในปี 1984 และได้ข้อสรุปว่าพวกเขามีความปลอดภัยสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในระดับถึง 25%. โดยปกติพาราเบนจะใช้ในระดับตั้งแต่ 0.01-0.3%. เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2003, CIR เริ่มกระบวนการที่จะเปิดการประเมินความปลอดภัยของ methylparaben, ethylparaben, Propylparaben และ Butylparaben เพื่อให้ผู้ที่สนใจมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา. ในเดือนกันยายนปี 2005 CIR ตัดสินใจอีกครั้งเปิดการประเมินความปลอดภัยสำหรับพาราเบน เพื่อขอประมาณการการสัมผัสและการประเมินความเสี่ยงสำหรับการใช้เครื่องสำอาง. ในเดือนธันวาคมปี 2005 หลังจากพิจารณาอัตรากำไรขั้นต้นของความปลอดภัยสำหรับการเปิดรับให้กับผู้หญิงและทารก, แผงระบุว่าไม่มีความจำเป็นที่จะเปลี่ยนข้อสรุปเดิมที่พาราเบนมีความปลอดภัยที่ใช้ในเครื่องสำอาง . (CIR เป็นองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ความคิดเห็นความปลอดภัยส่วนผสมเครื่องสำอางและเผยแพร่ผลการดำเนินงานในการเปิดวรรณกรรม peer-reviewed. องค์การอาหารและยามีส่วนร่วมใน CIR ในฐานะที่ไม่ออกเสียง.) ศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2004 (Darbre ในวารสาร ประยุกต์พิษวิทยา) ตรวจพบ parabens ในเนื้องอกเต้านม การศึกษายังกล่าวถึงข้อมูลนี้ในบริบทของสโตรเจนคุณสมบัติเหมือนอ่อนแอของพาราเบนและอิทธิพลของสโตรเจนในการเป็นมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตามการศึกษาที่เหลือยังไม่ได้ตอบหลายคำถาม ยกตัวอย่างเช่นการศึกษาไม่ได้แสดงให้เห็นว่า parabens ก่อให้เกิดมะเร็งหรือว่าพวกเขาจะเป็นอันตราย แต่อย่างใดและการศึกษาไม่ได้มองในระดับ paraben เป็นไปได้ในเนื้อเยื่อปกติ. องค์การอาหารและยาจะทราบว่ากิจกรรม estrogenic ในร่างกายมีความเกี่ยวข้องกับรูปแบบบางอย่าง โรคมะเร็งเต้านม แม้ว่า parabens สามารถทำหน้าที่คล้าย ๆ กับสโตรเจนที่พวกเขาได้รับการแสดงที่จะมีกิจกรรม estrogenic มากน้อยกว่าสโตรเจนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของร่างกาย ยกตัวอย่างเช่นการศึกษา 1998 (เลดจ์ et al., ในพิษวิทยาและประยุกต์เภสัชวิทยา) พบว่ามีศักยภาพมากที่สุด paraben การทดสอบในการศึกษา Butylparaben แสดงให้เห็นจาก 10,000 ถึง 100,000 เท่ากิจกรรมน้อยกว่าธรรมชาติที่เกิดขึ้น estradiol (รูปแบบของสโตรเจน ) นอกจากพาราเบนจะใช้ในระดับที่ต่ำมากในเครื่องสำอาง ในการทบทวนกิจกรรม estrogenic พาราเบน (. โกลเด้น, et al, ในความคิดเห็นที่สำคัญในพิษวิทยา, 2005) ผู้เขียนได้ข้อสรุปว่าขึ้นอยู่กับการประมาณการผลสูงสุดในชีวิตประจำวันมันก็ไม่น่าเชื่อว่าพาราเบนอาจเพิ่มความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับสารเคมี estrogenic . องค์การอาหารและยาเชื่อว่าในช่วงเวลาปัจจุบันมีเหตุผลที่ผู้บริโภคจะกังวลเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของพาราเบนไม่มี อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่จะดำเนินต่อไปในการประเมินข้อมูลใหม่ในพื้นที่นี้ หากองค์การอาหารและยากำหนดว่าอันตรายต่อสุขภาพที่มีอยู่หน่วยงานที่จะให้คำแนะนำอุตสาหกรรมและประชาชนและจะพิจารณาตัวเลือกตามกฎหมายภายใต้อำนาจของ FD & C พระราชบัญญัติในการปกป้องสุขภาพและสวัสดิภาพของผู้บริโภค. 24 มีนาคม 2006; การปรับปรุง 31 ตุลาคม 2007 กลับไปด้านบน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พวกพาราเบน ?
parabens อยู่ในหมู่ที่ส่วนใหญ่นิยมใช้สารกันบูดในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เคมี , parabens มี p-hydroxybenzoic เอสเทอร์ของกรด ที่พบมากที่สุดที่ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมี parabens เมทิลพาราเบนโพรพิลพาราเบนและบูทิลพาราเบน , . โดยปกติ มากกว่าหนึ่ง paraben ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์และพวกเขามักจะใช้ในการรวมกันกับประเภทอื่น ๆของการเจือให้กับความหลากหลายของจุลินทรีย์ การใช้สารผสมของ parabens อนุญาตให้ใช้ระดับล่าง ขณะที่การเพิ่มกิจกรรมสารกันบูด .

ทำไมสารกันบูดที่ใช้ในเครื่องสำอาง

สารกันบูดอาจใช้ในเครื่องสำอางเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ทั้งเพื่อปกป้องผู้บริโภคและเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของผลิตภัณฑ์

สิ่งที่ชนิดของผลิตภัณฑ์ที่มี parabens ?

จะใช้ในหลากหลายของเครื่องสำอาง รวมทั้งอาหาร และยา เครื่องสำอางที่อาจประกอบด้วย parabens รวมแต่งหน้า moisturizers , ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์โกนหนวด , หมู่คนอื่น ๆ . แบรนด์รายใหญ่ที่สุดของ deodorants และ antiperspirants ไม่ได้ในขณะนี้ประกอบด้วย parabens .

เครื่องสำอางที่ขายบนพื้นฐานของการค้าปลีกของผู้บริโภคจะถูกบังคับใช้โดยกฎหมายที่จะประกาศส่วนผสมบนฉลาก นี้เป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่พวกเขาต้องการที่จะหลีกเลี่ยง parabens มักจะง่ายต่อการระบุด้วยชื่อ เช่น เมทิลพาราเบนโพรพิลพาราเบนหรือบูทิลพาราเบน , , ,

benzylparaben .มี อย. ควบคุมการใช้สารกันบูดในเครื่องสำอาง

ของอาหาร ยา เครื่องสำอางและการกระทำ ( FD & C ทำ ) ไม่อนุญาต FDA อนุมัติ ส่วนผสมของเครื่องสำอางที่มีข้อยกเว้นของสีวัตถุเจือปนที่ไม่ใช่ถ่านหินน้ำมันดินผมสีย้อม โดยทั่วไปผู้ผลิตเครื่องสำอางอาจใช้ส่วนผสมใด ๆที่พวกเขาเลือก ยกเว้นส่วนผสมบางอย่างที่ถูกห้ามโดยกฎ อย่างไรก็ตามมันเป็นกฎหมายที่จะตลาดเครื่องสำอางในการพาณิชย์รัฐถ้ามันปลอมปน ภายใต้พระราชบัญญัติ FD & C , เครื่องสําอาง ปลอมปน ถ้าระหว่างเหตุผลอื่น ๆ หมี หรือมีอะไรที่เป็นพิษหรือสารซึ่งอาจทำให้มันคงเปลืองภายใต้ข้อความเงื่อนไขของการใช้ หรือจารีตประเพณี หรือปกติภายใต้เงื่อนไขของการใช้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็น FDA อำนาจเครื่องสำอางและแนวความคิดทางกฎหมายที่สำคัญ : " ปุ่มคำสั่ง " ปลอมปน " และ " misbranded

กลับไปด้านบน

มีความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการใช้ parabens ในเครื่องสำอาง

รีวิวส่วนผสมเครื่องสำอาง ( cir ) ตรวจสอบความปลอดภัยของเมทิลพาราเบนโพรพิลพาราเบนและบูทิลพาราเบน , ในปี 1984 และได้ข้อสรุปที่พวกเขามีความปลอดภัยสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ระดับถึง 25 %โดยปกติ parabens ใช้ที่ระดับตั้งแต่ 0.01 ถึง 0.3 %

เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2003 , cir เริ่มกระบวนการเพื่อเปิดตู้การประเมินของเมทิลพาราเบนธิลพาราเบนโพรพิลพาราเบนและบูทิลพาราเบน , , เพื่อให้ผู้ที่สนใจมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลใหม่เพื่อประกอบการพิจารณา ในเดือนกันยายน 2005การ cir ตัดสินใจอีกครั้งเปิดการประเมินความปลอดภัย parabens เพื่อขอประเมินและการประเมินความเสี่ยงของการใช้เครื่องสำอาง ในเดือนธันวาคมปี 2005 หลังจากพิจารณาขอบของความปลอดภัยสำหรับการเปิดรับผู้หญิงและทารก , แผงระบุว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเดิมสรุปว่า parabens มีความปลอดภัยที่ใช้ในเครื่องสำอาง( cir เป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนองค์กรที่วิจารณ์ตู้ส่วนผสมเครื่องสำอางและเผยแพร่ผลเปิด วรรณคดี peer-reviewed . หรือมีส่วนร่วมใน cir ในไม่ลงคะแนนความจุ )

การศึกษาที่เผยแพร่ในปี 2004 ( darbre ในวารสารพิษวิทยาประยุกต์ ) ตรวจพบ parabens เนื้องอกในเต้านมการศึกษายังได้กล่าวถึงข้อมูลนี้ในบริบทของโลกอ่อนแอเหมือนคุณสมบัติของ parabens และอิทธิพลของเอสโตรเจนในมะเร็งเต้านม อย่างไรก็ตาม การทิ้งคำถามหลายคำตอบ ตัวอย่างเช่น การศึกษาไม่ได้แสดงให้เห็นว่า parabens ก่อให้เกิดมะเร็ง หรือจะเป็นอันตรายในทางใด ๆและการศึกษาไม่ได้ดูที่ระดับ paraben เป็นไปในเนื้อเยื่อปกติ

FDA จะทราบว่ากิจกรรม estrogenic ในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบบางอย่างของมะเร็งเต้านม แม้ว่า parabens สามารถทำหน้าที่คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน พวกเขาได้รับการแสดงที่จะมีกิจกรรมมากน้อย estrogenic กว่าของร่างกายตามธรรมชาติเอสโตรเจน ตัวอย่างเช่น , 1998 การศึกษา ( เราท์เลดจ์ et al . , ในเภสัชวิทยาและพิษวิทยา ) พบว่า มีศักยภาพมากที่สุด paraben ผ่านการทดสอบในการศึกษาบูทิลพาราเบน , พบจาก 10 , 000 - 100000 พับน้อยกิจกรรมกว่าธรรมชาติที่เกิดขึ้นก่อน ( รูปแบบของ estrogen ) ต่อไป , parabens มีการใช้ในระดับต่ำมากในเครื่องสำอาง ในการทบทวนกิจกรรม estrogenic ของ parabens , ทอง ( et al . , ในการวิพากษ์วิจารณ์ ในทางพิษวิทยา , 2005 ) ผู้เขียนสรุปได้ว่า ตามการประมาณการสูงสุดรายวันมันไม่น่าเชื่อว่า parabens อาจเพิ่มความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับสารเคมี estrogenic .

FDA เชื่อว่า ณเวลาปัจจุบัน มันไม่มีเหตุผลที่ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางที่มี parabens . อย่างไรก็ตาม บริษัทจะยังคงประเมินข้อมูลใหม่ในพื้นที่นี้ ถ้า FDA กำหนดว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่หน่วยงานจะแนะนำอุตสาหกรรมและประชาชนและจะพิจารณาตัวเลือกของกฎหมายภายใต้อำนาจของ FD & C ทำหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพและสวัสดิการของผู้บริโภค

มีนาคม 24 , 2006 ; การปรับปรุง 31 ตุลาคม 2550


กลับไปด้านบน