AimsEnhancing adherence in research

Aims

Enhancing adherence in research trials is fundamental to the proper testing of treatment hypotheses.

Methods

Regimen and follow-up adherence as well as factors associated with adherence in the Renin Angiotensin-System Study (RASS) diabetic nephropathy primary prevention trial were evaluated. Adherence to medication (i.e., pill count), follow-up visits, and follow-up renal biopsies was evaluated.

Results

89.8% of subjects completed the second renal biopsy. 96% of follow-up visits were attended within prescribed time windows. Mean medication adherence was 85.6%. Subgroup analyses revealed greater declines in the least adherent participants over time. Factors associated with greater adherence levels included older age, type 1 diabetes (TIDM) duration, lower HbA1c and blood pressure, GFR, ethnicity, and participants’, principal investigators’ (PI), and trial coordinators’ (TC) baseline predictions of adherence.

Conclusions

T1DM patients without nephropathy were willing to take experimental medications and undergo repeat renal biopsies. Although overall adherence was excellent, patterns of adherence varied among participants, suggesting the need to better track adherence and to develop customized and targeted approaches for promoting adherence to clinical research regimens. Staff subjective predictions of adherence were imprecise, supporting need for further development of adherence predictors.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายยึดมั่นเสริมสร้างในการทดลองวิจัยเป็นพื้นฐานของการทดสอบที่เหมาะสมของสมมติฐานการรักษาวิธียึดมั่นระบบการปกครองและติดตามผลรวมทั้งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยึดมั่นในการศึกษาระบบ Angiotensin กิจกรรม (RASS) โรคไตเบาหวานหลักป้องกันทดลองถูกประเมิน รับการประเมินการใช้ยา (เช่น จำนวนยา), เยี่ยมชมติดตามผล และประสาทการตรวจชิ้นเนื้อไตที่ติดตามผลผลลัพธ์89.8% วิชาเสร็จสิ้นการตรวจชิ้นเนื้อไตสอง 96% ของคนติดตามเข้าร่วมภายในหน้าต่างกำหนดเวลา ยาหมายถึงยึดมั่นเป็น 85.6% การวิเคราะห์กลุ่มย่อยเปิดเผยภาวะร่วมสาวกน้อยมากตลอดเวลา ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความยึดมั่นระดับรวมอายุเก่า พิมพ์ 1 ระยะเวลาของโรคเบาหวาน (TIDM) ลด HbA1c และความดันโลหิต GFR เชื้อ ชาติ และของผู้เข้าร่วม หลักของผู้สืบสวน (PI), และผู้ประสานงานในการทดลองคาดการณ์พื้นฐาน (TC) ยึดมั่นบทสรุปT1DM ผู้ป่วย โดยโรคไตก็ยินดีที่จะใช้ทดลองยา และผ่านการทำซ้ำประสาทการตรวจชิ้นเนื้อไต แม้ว่าโดยรวมยึดมั่นดี รูปแบบของการยึดมั่นความหลากหลายผู้เรียน การแนะนำต้องติดตามยึดได้ดีขึ้น และ การพัฒนาที่กำหนดเอง และกำหนดเป้าหมายแนวทางการส่งเสริมการวิจัยทางคลินิกยา คาดการณ์อัตนัยพนักงานยึดมั่นสนับสนุนต้องทำนายยึดมั่นพัฒนา ไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มการยึดมั่นในการทดลองวิจัยเป็นพื้นฐานในการทดสอบสมมติฐานที่เหมาะสมของการรักษา. วิธีการระบบการปกครองและการติดตามการยึดมั่นเช่นเดียวกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการยึดมั่นในการศึกษา Angiotensin-System (RASS) โรคเบาหวานทดลองการป้องกันโรคไต Renin หลักได้รับการประเมิน ยึดมั่นในการใช้ยา (เช่นการนับเม็ด) ติดตามการเยี่ยมชมและติดตามผลการตรวจชิ้นเนื้อไตถูกประเมิน. ผลลัพธ์89.8% ของอาสาสมัครเสร็จสิ้นการตรวจชิ้นเนื้อไตที่สอง 96% ของผู้เข้าชมติดตามมีผู้เข้าร่วมภายในหน้าต่างเวลาที่กำหนด รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ย 85.6% กลุ่มย่อยวิเคราะห์เผยให้เห็นการลดลงมากขึ้นในการเข้าร่วมสานุศิษย์น้อยเมื่อเวลาผ่านไป ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับการยึดมั่นมากขึ้นรวมอายุกว่าระยะเวลาที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 1 (TIDM) HbA1c ต่ำและความดันโลหิต, GFR เชื้อชาติและผู้เข้าร่วม 'ตรวจสอบหลัก' (PI) และผู้ประสานงานการทดลอง (TC) การคาดการณ์พื้นฐานของการยึดมั่น . สรุปผู้ป่วยโรคไต T1DM โดยไม่เต็มใจที่จะใช้ยาทดลองและได้รับการตรวจชิ้นเนื้อไตซ้ำ แม้ว่าการยึดมั่นโดยรวมที่ดีเยี่ยมรูปแบบของการยึดมั่นในความแตกต่างกันระหว่างผู้เข้าร่วมบอกความต้องการที่จะยึดมั่นในการติดตามที่ดีขึ้นและการพัฒนาวิธีการที่กำหนดเองและการกำหนดเป้าหมายในการส่งเสริมการปฏิบัติตามสูตรการวิจัยทางคลินิก พนักงานการคาดการณ์ทัศนะของการยึดมั่นอยู่ไม่แน่ชัดสนับสนุนความจำเป็นในการพัฒนาต่อไปของการยึดมั่นในการพยากรณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายการเสริมสร้างความร่วมมือในการทดลองการวิจัยเป็นพื้นฐานในการทดสอบสมมติฐานที่เหมาะสมของการรักษาวิธีการและในการติดตาม รวมทั้งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือในการศึกษาระบบแองจิโอเทนซินเรนิน ( เรส ) โรคไตโรคเบาหวานการป้องกันเบื้องต้น การทดลอง ทดลองพบว่า การใช้ยา เช่น ยานับ ) เยี่ยมชม ติดตาม และ ติดตามผล ไตจึงถูกประเมินผลลัพธ์89.8 % ของวิชาเสร็จตรวจชิ้นเนื้อไต 2 96 % ของการติดตามผลการเข้าชมภายในกรอบเวลาที่กำหนด . หมายถึงการใช้ยาตามเกณฑ์การรักษาคือการทดลอง ) กลุ่มย่อยที่พบมากขึ้นในผู้เข้าร่วมพลพรรคลดลงอย่างน้อยในช่วงเวลา ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับการยึดมั่นมากขึ้น ได้แก่ อายุ โรคเบาหวานชนิดที่ 1 ( tidm ) ระยะเวลา ลดตาลและความดันเลือดลดลง ชาติพันธุ์ และผู้สอบสวนหลัก " " ( PI ) และผู้ประสานงานคดี " ( TC ) พื้นฐานของการคาดการณ์ของการยึดมั่นสรุปผู้ป่วยโรคไต t1dm โดยไม่เต็มใจที่จะใช้ยาทดลอง และทำการย้ำเซลล์ไต . แม้ว่าการรวมเป็นเลิศ รูปแบบของการเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้เข้าร่วม จะต้องดีกว่าการติดตามและพัฒนาเอง และเป้าหมาย แนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือในการวิจัยทางคลินิกอาการ พนักงานกลุ่มดังกล่าวยังคลุมเครือ คำทำนายที่สนับสนุนความต้องการการพัฒนาต่อไปของการพยากรณ์