One of Thai’s famous Buddhas Luang

One of Thai’s famous Buddhas Luang Phor Sothorn or mostly known as Buddha Sothorn is well known in Thai. People from all walks of lives over the country, even from neighboring countries and amulets collectors are familiar with this Buddha image.

Luang Phor Sothorn is regarded as one of the most revered Buddha images in Thailand. It is said that if you pray sincerely to Buddha Sothorn, your career and wealth would have smooth progress and it will protect your health & safety. The temple Wat Sothorn Wararam Wora Wiham is located in Chachoengsao province, northern Thai.

According to legend, during the kingdom of Ayutthaya period, Myanmar invaded Thailand to loot the local temples especially Buddha statues made from gold as it could be melted.

During its second invasion, the devotees of a temple smeared mud on the whole body of the golden Buddha statues and placed them into a raft to drift away with the river flow. Three of the Buddha statues floated down Pakong river passing through Prachin Buri. Later the statues were seen in Chachoengsao by the local people and they tried to tie the 3 statues with hemp rope and pull it to shore. However their effort was in vain. They couldn't pull in the statues no matter how hard they tried.

Then the bigger statue (Luang Phor Baan Laem) then float down to Baan Laem in Samut Songkhram province. The local people there pulled it ashore and enshrined it in Wat Baan Laem. The smallest one (Luang Phor Tor) floated till Samut Prakan province and was enshrined by local people in Wat Bang Li. The other statue which was the Luang Phor Sothorn floated till Chachoengsao province and was discovered by local people. They tried to tie it with the hemp rope and pulled it ashore but they failed no matter how hard they tried. Then a monk set up an altar chanting prayer and tied a blessed cord on the hand of the Buddha image. Amazingly, the Buddha image was easily pulled ashore and then was enshrined in Wat Sothorn till now.

There was no exact record of when Luang Phor Sothorn was enshrined in Wat Sothorn. However, as the three Buddha images floated at the same period and the year people discovered Luang Phor Baan Laem was in B4 2313, therefore it was inferred that Luang Phor Sothorn was enshrined in Wat Sothorn around BE2313 too.

It was said that King Rama V had inspected to that area. Although there was no exact date of literature about the the origin name of Wat Sothorn, the prime minister in King Rama V period had said that the person who named it must be someone knowledgeable as it is not only nice but also contains deep meaning.

There are few different versions of stories about origin of Luang Phor Sothorn. There were 3 Buddhas brothers statues which floated along northern river to Bang Pakong river area in reversed drift. Local people saw them and tied ropes on the hands of statues. About 500 of them helped to pull the statues ashore but their efforts were in vain. The rope was cut off and the three statues dropped under the water and disappeared. The 3 Buddha statues then floated along Bang Pakong river until the south of Wat Sothorn but weren't pulled ashore and were kept floating in reversed drift.

The elder Buddha floated till Samut Songkhram's Baan Laem. People worshiped and enshrined it till now. And it was named as Luang Phor Baan Laem. Another statue floated to Bang Phli in Samut Prakan province, and was known as Luang Phor Tor while Luang Phor Sothorn flowed to Wat Sothorn and was enshrined over there. The original Buddha Sothorn was very beautiful and made from gold, with over 50 cm of knee distance. The image was in samadhi meditation posture, legs crossed and palms facing top. The monks in Wat Sothorn were afraid that people would become very selfish, and greedy and one would keep the Luang Phor Sothorn statue secretly if he/ she has no religious belief. To avoid these problems in the future, they covered the original statue with cement and made it into meditation posture with knees distance of 165cm.

Another folklore said that there were 5 brothers who turned out to posses supernatural power. To help all living creatures they transformed as five Buddha statues and floated along river to place where people hoped to see miracles. One of it was the Buddha Sothorn. Another four were Luang Phor Wat Raikhing in Wat Rai Khing, Nakhon Chai Si; Luang Phor To Wat Bang Phli Nai in Bang Phli; Luang Phor Wat Baan Laem in Mae Klong river’s Baan Laem village, Samut Songkhram; and Khao Takhrao in Wat Khao Takhrao, Petcha Buri.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของไทยมีชื่อเสียงพระหลวงพ่อ Sothorn อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือส่วนใหญ่เรียกว่าพระ Sothorn เป็นที่รู้จักในภาษาไทย ผู้คนจากทุกเดินชีวิตทั่วประเทศ แม้กระทั่งจากเพื่อนบ้านประเทศและพระเครื่องสะสมของความคุ้นเคยกับพระพุทธรูปนี้ได้ Sothorn พ่อหลวงถือเป็นหนึ่งของพระพุทธรูปสิ่งในประเทศไทย ว่ากันว่า ถ้าคุณอธิษฐานอย่างจริงใจเพื่อพระ Sothorn มั่งคั่งและการทำงานของคุณจะมีความคืบหน้าเรียบ และมันจะปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของคุณ วัด Sothorn รามวรส Wiham อยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ไทยเหนือ ตำนาน ช่วงอาณาจักรอยุธยา พม่าบุกไทย loot ภายในวัดโดยเฉพาะพระพุทธรูปทำจากทองสามารถหลอม ในระหว่างการบุกรุกของสอง ศาสนิกชนของวัดป้ายโคลนในร่างกายทั้งหมดของพระพุทธรูปทอง มาวางไว้เป็นแพให้ลอยหายไปกับกระแสน้ำ ของพระพุทธรูปลอยลงแม่น้ำบางปะกงผ่านปราจีนบุรี ภายหลังได้เห็นในฉะเชิงเทรารูปปั้น โดยคนในท้องถิ่น และพวกเขาพยายามผูกรูปปั้น 3 ด้วยเชือกป่าน และดึงไปฝั่ง อย่างไรก็ตาม ความพยายามของพวกเขาได้เปล่า ๆ พวกเขาไม่สามารถดึงรูปปั้นไม่ยากที่พวกเขาพยายาม แล้วใหญ่กว่ารูปปั้น (หลวงพ่อบ้านแหลม) นั้นลอยไปยังบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงคราม ประชาชนมีดึงขึ้นฝั่ง และประดิษฐานในวัดบ้านแหลม น้อยที่สุดหนึ่ง (หลวงพ่อทอร์) ลอยจนถึงจังหวัดสมุทรปราการ และที่ประดิษฐาน โดยประชาชนในวัดบางลี่ รูปปั้นอื่น ๆ ซึ่ง Sothorn พ่อหลวงลอยจนถึงจังหวัดฉะเชิงเทรา และค้นพบ โดยคนในท้องถิ่น พวกเขาพยายามผูกกับเชือกป่าน และลากขึ้นฝั่ง แต่ก็ล้มเหลวไม่ยากที่พวกเขาพยายาม แล้วพระที่ตั้งแท่นบูชาสวดอธิษฐาน และผูกสายความสุขบนมือของพระพุทธรูป น่าอัศจรรย์ พระพุทธรูปได้ง่าย ๆ ดึงขึ้นฝั่งแล้ว ประดิษฐานในวัด Sothorn จนถึงปัจจุบัน มีบันทึกไม่แน่นอนเมื่อ Sothorn หลวงพ่อมาประดิษฐานณวัด Sothorn อย่างไรก็ตาม เป็นพระพุทธรูปทั้งสามลอยในเวลาเดียวกัน และคนปีค้นพบหลวงพ่อบ้านแหลมอยู่ใน B4 2313 ดังนั้นจะถูกสรุปว่า Sothorn หลวงพ่อมาประดิษฐานณวัด Sothorn สถาน BE2313 เกินไป มันก็บอกว่า รัชกาลได้ตรวจสอบพื้นที่นั้น แม้จะไม่มีวันแน่นอนของวรรณกรรมเกี่ยวกับการกำเนิดชื่อวัด Sothorn นายกรัฐมนตรีในช่วงรัชกาลได้กล่าวว่า บุคคลที่มีชื่อว่ามันต้องเป็นคนมีความรู้มันไม่ดี แต่ยัง ประกอบด้วยความหมายลึก มีเรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดของ Sothorn หลวงพ่อน้อยรุ่นต่าง ๆ มีรูปปั้นพี่ชายเกิด 3 ที่ลอยตามแม่น้ำเหนือพื้นที่แม่น้ำบางปะกงบางในดริฟท์กลับ คนในท้องถิ่นนั้น และผูกเชือกบนมือของรูปปั้น ประมาณ 500 พวกเขาช่วยให้ดึงรูปปั้นตายแต่ความพยายามของพวกเขาสู้ได้ เป็นตัดเชือก และรูปปั้นสามลดลงใต้น้ำ และหายไป 3 พระพุทธรูปลอยตามแม่น้ำบางปะกงบางจนถึงใต้ของ Sothorn วัด แต่ไม่ได้ดึงขึ้นฝั่ง แล้วถูกลบลอยกลับดริฟท์ พระพี่ลอยจนถึงบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงคราม คนก็ และประดิษฐานจนถึงปัจจุบัน และได้ชื่อว่าเป็นหลวงพ่อบ้านแหลม รูปปั้นอีกลอยไปบางพลีจังหวัดสมุทรปราการ และถูกเรียกว่าทอร์หลวงพ่อหลวงพ่อ Sothorn ไหลไป Sothorn วัด และประดิษฐานโน่น Sothorn พระเดิมสวยงาม และทำจากทอง เข่าระยะทางกว่า 50 ซม. รูปอยู่ในท่าสมาธิซามาดฮี ไขว้ขากันและหันหน้าไปทางด้านบนปาล์ม พระสงฆ์ในวัด Sothorn กลัวว่า คนจะกลายเป็นเห็นแก่ตัวมาก และตะกละ และหนึ่งจะแอบรูปปั้นหลวงพ่อ Sothorn ถ้าเขา / เธอมีความเชื่อทางศาสนาไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ ในอนาคต พวกเขาครอบคลุมเดิมรูปปั้น ด้วยปูน และทำเป็นท่านั่งสมาธิด้วยเข่าระยะ 165cm พื้นบ้านอื่นกล่าวว่า มี 5 พี่น้องที่เปิดออกเพื่อ posses อิทธิฤทธิ์ เพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตอยู่ทั้งหมดจะแปลงเป็นห้าพระพุทธรูป และลอยไปตามแม่น้ำเพื่อหวังที่คนดูอัศจรรย์ หนึ่งของ Sothorn พระได้ หลวงพ่อวัด Raikhing ในวัดไร่ขิง นครชัยศรี ได้อีก 4 หลวงพ่อไปวัดบางพลีในบางพลี หลวงพ่อวัดบ้านแหลมในบ้านแหลมแม่กลองริเวอร์วิลเลจ สมุทรสงคราม และเขา Takhrao ในวัดเขา Takhrao, Petcha บุรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หนึ่งในพระพุทธรูปไทยที่มีชื่อเสียงของหลวงพ่อโสธรหรือส่วนใหญ่ที่รู้จักกันเป็นพระพุทธโสธรเป็นที่รู้จักกันดีในไทย ผู้คนจากทุกเดินชีวิตทั่วประเทศแม้จะมาจากประเทศเพื่อนบ้านและนักสะสมพระเครื่องมีความคุ้นเคยกับพระพุทธรูปนี้. หลวงพ่อโสธรได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในพระพุทธรูปที่เคารพมากที่สุดในประเทศไทย ว่ากันว่าถ้าคุณอธิษฐานขอแสดงความนับถือพระพุทธโสธรเพื่ออาชีพและความมั่งคั่งของคุณจะมีความคืบหน้าไปอย่างราบรื่นและจะปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของคุณ วัดตั้งอยู่ที่วัดโสธรวรารามวร Wiham ในจังหวัดฉะเชิงเทรา, ภาคเหนือของไทย. ตามตำนานในระหว่างอาณาจักรของสมัยอยุธยาพม่าบุกเข้ามาประเทศไทยเพื่อยกเค้าวัดในท้องถิ่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปปั้นพระพุทธรูปที่ทำจากทองเป็นมันอาจจะละลาย. ในช่วงที่สองของ การบุกรุกที่ชื่นชอบของวัดป้ายโคลนในร่างกายทั้งหมดของรูปปั้นพระพุทธรูปสีทองและวางไว้ให้เป็นแพลอยไปกับการไหลของแม่น้ำ สามของรูปปั้นพระพุทธรูปลอยลงแม่น้ำบางปะกงผ่านปราจีนบุรี ต่อมารูปปั้นได้เห็นในฉะเชิงเทราโดยคนท้องถิ่นและพวกเขาพยายามที่จะผูก 3 รูปปั้นด้วยเชือกป่านและดึงเข้าฝั่ง อย่างไรก็ตามความพยายามของพวกเขาในไร้สาระ พวกเขาไม่สามารถดึงรูปปั้นไม่ว่าวิธีการที่ยากที่พวกเขาพยายาม. จากนั้นรูปปั้นที่ใหญ่กว่า (หลวงพ่อบ้านแหลม) แล้วลอยลงไปบ้านแหลมในจังหวัดสมุทรสงคราม คนในท้องถิ่นมีดึงมันขึ้นฝั่งและประดิษฐานไว้ในวัดบ้านแหลม หนึ่งที่มีขนาดเล็กที่สุด (หลวงพ่อท) ลอยจนถึงจังหวัดสมุทรปราการและเป็นที่ประดิษฐานโดยคนท้องถิ่นในวัดบางลี่ รูปปั้นอื่น ๆ ซึ่งเป็นหลวงพ่อโสธรลอยจนถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและถูกค้นพบโดยคนในท้องถิ่น พวกเขาพยายามที่จะผูกด้วยเชือกป่านและดึงมันขึ้นฝั่ง แต่พวกเขาล้มเหลวไม่ว่าวิธีการที่ยากที่พวกเขาพยายาม จากนั้นพระภิกษุสงฆ์ตั้งแท่นบูชาสวดมนต์สวดมนต์และผูกสายความสุขในมือของพระพุทธรูป น่าแปลกที่พระพุทธรูปถูกดึงขึ้นฝั่งได้อย่างง่ายดายและจากนั้นเป็นที่ประดิษฐานในวัดโสธรจนถึงขณะนี้. ไม่มีบันทึกที่แน่นอนของเมื่อหลวงพ่อโสธรเป็นที่ประดิษฐานในวัดโสธร แต่ขณะที่ทั้งสามพระพุทธรูปลอยในช่วงเวลาเดียวกันและคนต่อปีพบว่าหลวงพ่อบ้านแหลมเป็นใน B4 2313 จึงถูกเหมาเอาว่าหลวงพ่อโสธรเป็นที่ประดิษฐานในวัดโสธรรอบ BE2313 เกินไป. มันบอกว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ได้ตรวจสอบไปยังพื้นที่ที่ แม้ว่าจะไม่มีวันที่แน่นอนของวรรณกรรมเกี่ยวกับชื่อที่มาของวัดโสธรนายกรัฐมนตรีในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้กล่าวว่าคนที่ตั้งชื่อมันต้องเป็นคนที่มีความรู้ในขณะที่มันไม่ได้เป็นเพียงที่ดี แต่ยังมีความหมายลึก. มี เป็นรุ่นที่แตกต่างกันไม่กี่เรื่องราวเกี่ยวกับต้นกำเนิดของโสธรหลวงพ่อ มีรูปปั้นพระพุทธรูป 3 พี่น้องซึ่งเป็นลอยไปตามแม่น้ำเหนือบางปะกงพื้นที่แม่น้ำดริฟท์กลับ ผู้คนในท้องถิ่นเห็นพวกเขาและผูกเชือกในมือของรูปปั้น ประมาณ 500 ของพวกเขาจะช่วยดึงรูปปั้นขึ้นฝั่ง แต่ความพยายามของพวกเขาอยู่ในไร้สาระ เชือกถูกตัดออกและสามรูปปั้นปรับตัวลดลงอยู่ใต้น้ำและหายไป 3 รูปปั้นพระพุทธรูปแล้วลอยไปตามแม่น้ำบางปะกงจนถึงทางทิศใต้ของวัดโสธร แต่ไม่ดึงขึ้นฝั่งและถูกเก็บไว้ที่ลอยอยู่ในดริฟท์กลับ. พี่พระพุทธรูปลอยจนสมุทรสงครามของบ้านแหลม คนที่เคารพบูชาและประดิษฐานมันจนถึงขณะนี้ และมันก็เป็นชื่อที่หลวงพ่อบ้านแหลม รูปปั้นอีกลอยบางพลีในจังหวัดสมุทรปราการและเป็นที่รู้จักหลวงพ่อทอร์ในขณะที่หลวงพ่อโสธรไหลกับวัดโสธรและได้ประดิษฐานอยู่ที่นั่น เดิมพระพุทธโสธรเป็นอย่างมากที่สวยงามและทำจากทองกว่า 50 ซม. ระยะทางที่หัวเข่า ภาพที่อยู่ในท่าสมาธิการทำสมาธิขาข้ามและหันหน้าไปทางด้านบนฝ่ามือ พระสงฆ์ในวัดโสธรกลัวว่าจะกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวมากและโลภและหนึ่งจะให้รูปปั้นหลวงพ่อโสธรแอบถ้าเขา / เธอไม่มีความเชื่อทางศาสนา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ในอนาคตพวกเขาครอบคลุมรูปปั้นเดิมที่มีปูนซีเมนต์และทำให้มันเป็นท่าการทำสมาธิกับระยะทางที่หัวเข่าของ 165 ซม. ชาวบ้านอีกคนหนึ่งพูดว่ามี 5 พี่น้องที่เปิดออกมา posses อำนาจเหนือธรรมชาติ เพื่อช่วยให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่พวกเขากลายเป็นห้ารูปปั้นพระพุทธรูปและลอยไปตามแม่น้ำไปยังสถานที่ที่ผู้คนหวังจะได้เห็นปาฏิหาริย์ หนึ่งมันเป็นพระพุทธโสธร อีกสี่หลวงพ่อวัดไร่ขิงวัดไร่ขิง, นครชัยศรี; หลวงพ่อวัดบางพลีนายในบางพลี; หลวงพ่อวัดบ้านแหลมในแม่น้ำแม่กลองหมู่บ้านบ้านแหลมสมุทรสงคราม; และเขา Takhrao ในวัดเขา Takhrao, เพชรบุรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หนึ่งในไทย ดังพระพุทธโสธร หรือหลวงพ่อพุทธโสธร ส่วนใหญ่เป็นที่รู้จักกันดีในไทย ผู้คนจากทุกเดินชีวิตเหนือประเทศ แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้าน และสะสมพระเครื่อง คุ้นเคย กับ พระพุทธรูปนี้

หลวงพ่อโสธร ถือว่าเป็นหนึ่งในสุดเคารพพระพุทธรูปในประเทศไทย มันบอกว่าถ้าคุณอธิษฐานอย่างจริงใจพุทธโสธร ,อาชีพและความมั่งคั่งของคุณจะมีความก้าวหน้าราบรื่น และจะปกป้องความปลอดภัย&สุขภาพของคุณ พระวิหารวัดโสธรวรารามการใช้งาน wiham ตั้งอยู่ในจังหวัด ฉะเชิงเทรา ภาคเหนือ .

ตามตำนานในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา พม่าบุกไทยจี้ท้องถิ่นวัดโดยเฉพาะพระพุทธรูปที่ทำจากทองมันอาจจะละลาย

ระหว่างการรุกรานครั้งที่สองของส่วนสาวกของวัดละเลงโคลนบนร่างกายของพระพุทธรูปทองคำและวางไว้ในแพให้ลอยไปกับสายน้ำไหล สามของพระพุทธรูปลอยลงแม่น้ำบางปะกง ผ่านปราจีนบุรี ต่อมารูปปั้นอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยคนท้องถิ่น และพวกเขาพยายามที่จะผูก 3 รูปปั้นด้วยเชือกป่าน และดึงเข้าฝั่งอย่างไรก็ตามความพยายามของพวกเขาไร้ผล พวกเขาไม่สามารถดึงรูปปั้นไม่ว่าหนักพวกเขาพยายาม

แล้วรูปปั้นใหญ่ ( หลวงพ่อบ้านแหลม ) แล้วลอยลงสู่บ้านแหลม จ. สมุทรสงคราม ประชาชนในท้องถิ่นมีดึงมันมา และที่ประดิษฐานอยู่ในวัดบ้านแหลม ที่เล็กที่สุด ( หลวงพ่อ TOR ) ลอยไปจนถึงสมุทรปราการ และประดิษฐานอยู่ โดยชาวบ้านในวัดบางลี่อื่น ๆซึ่งเป็นรูปปั้นหลวงพ่อโสธรลอยจนถึงจังหวัดฉะเชิงเทราและถูกค้นพบโดยคนในท้องถิ่น พวกเขาพยายามที่จะผูกด้วยเชือกป่าน และดึงมันออกมา แต่พวกเขาล้มเหลวไม่ว่าหนักพวกเขาพยายาม แล้วพระตั้งแท่นบูชาสวดมนต์สวดพร ผูกเชือกในมือของพระพุทธรูป น่าอัศจรรย์พระพุทธรูปถูกได้อย่างง่ายดายดึงขึ้นฝั่งแล้ว ได้ประดิษฐานอยู่ในวัดโสธร จนถึงตอนนี้

ไม่มีแน่นอนบันทึกเมื่อหลวงพ่อโสธร คือ ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดโสธร . แต่เป็นสามพระพุทธรูปลอยในช่วงเวลาเดียวกัน และ คน ปี พบว่าหลวงพ่อบ้านแหลมใน 2218 B4 ,จึงอนุมานเอาว่า หลวงพ่อโสธร คือ ที่ประดิษฐานอยู่ในวัดโสธร รอบ be2313 เหมือนกัน

ได้กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ตรวจสอบไปยังพื้นที่ที่ ถึงแม้ว่าไม่มีวันที่ที่แน่นอนของวรรณกรรมเรื่องที่มาของชื่อวัดโสธร ,นายกฯ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ช่วงเวลาที่ได้กล่าวไว้ว่า คนที่ชื่อ ต้องเป็นคนมีความรู้ ไม่ใช่แค่สวย แต่ยังมีความหมายลึกๆ

มีไม่กี่รุ่นที่แตกต่างกันของเรื่องราวเกี่ยวกับกำเนิดของหลวงพ่อโสธร . มีรูปปั้นพระพุทธรูป 3 พี่น้องภาคเหนือที่ลอยไปตามแม่น้ำ บางปะกง พื้นที่ในลอยกลับชาวบ้านเห็นพวกเขาและผูกเชือกในมือของรูปปั้น เกี่ยวกับ 500 ของพวกเขาช่วยดึงรูปปั้นขึ้นฝั่ง แต่ความพยายามของพวกเขาไร้ผล เชือกถูกตัดและสามรูปปั้นหล่นอยู่ใต้น้ำ และหายตัวไป 3 พระพุทธรูปแล้วลอยไปตามแม่น้ำบางปะกง จนถึงใต้วัดโสธร แต่ไม่ได้ดึงขึ้นฝั่ง และลอยอยู่ในลอยกลับ

ผู้เฒ่าพระพุทธรูปลอย จนถึงสมุทรสงคราม บ้านแหลม คนเคารพบูชา และประดิษฐานอยู่จนถึงตอนนี้ มันมีชื่อว่า หลวงพ่อบ้านแหลม รูปปั้นอื่นลอยมาบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และถูกเรียกว่าหลวงพ่อ ขณะที่หลวงพ่อโสธร ต. ไหลวัดโสธร และประดิษฐานอยู่ตรงนั้น พระโสธรพระพุทธรูปเดิมสวยงามมากและทำจากทองที่มีมากกว่า 50 เซนติเมตร ระยะห่างของเข่า ภาพเป็นสมาธิสมาธิในท่าไขว้ขา และฝ่ามือหันด้านบน พระภิกษุในวัดโสธรกลัวว่าคนอื่นจะกลายเป็นเห็นแก่ตัวและโลภและหนึ่งจะเก็บรูปปั้นหลวงพ่อโสธรแอบถ้าเขา / เธอมีความเชื่อทางศาสนา . เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ในอนาคตพวกเขาครอบคลุมรูปปั้นเดิมด้วยซีเมนต์และทำมันในท่าสมาธิกับเข่า ระยะทาง 165cm

เล่าอีกว่ามี 5 พี่น้องที่ออกมาจะมีพลังเหนือธรรมชาติ เพื่อช่วยสรรพสัตว์ พวกเขาเปลี่ยนเป็นห้าพระพุทธรูปและลอยไปตามแม่น้ำ สถานที่ที่คนหวังปาฏิหาริย์ หนึ่งในนั้นคือ พระพุทธโสธร .อีก สี่ คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง วัดไร่ขิง นครไชยศรี ; หลวงพ่อวัดบางพลีใน ใน บางพลี ; หลวงพ่อวัดบ้านแหลม ในแม่น้ำแม่กลอง บ้านแหลม หมู่บ้าน สมุทรสงคราม และเขาตะเครา วัดเขาตะเคราเผ็ดฉ่า , บุรี