Part II of RIPA provides a regulato

Part II of RIPA provides a regulatory framework for the use of three types of covert
surveillance, namely, directed surveillance, intrusive surveillance and the use [PAGE 82
Crim LR] and conduct of covert human intelligence sources. It was imperative that
legislation was provided in these areas to coincide with the increasing use and importance
of surveillance as an evidence and intelligence gathering tool, and the commencement of
the Human Rights Act.64 However, even under RIPA there is no requirement on the part
of a public authority to obtain an authorisation for covert surveillance, and the decision
not to obtain such authorisation does not mean that the action is automatically unlawful.
The lack of authorisation would render such actions more vulnerable to challenge under
the Human Rights Act, but the nature of surveillance means that it is often unlikely that
such operations are uncovered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

II ส่วนริป้าราคาให้กรอบกฎระเบียบในการใช้งานของการแปลงเฝ้าระวัง ได้แก่ กำกับเฝ้าระวัง เฝ้าระวังการบุก และการใช้ [82 หน้าCrim LR] และการปฏิบัติของแหล่งข่าวบุคคลแอบแฝง มันเป็นความจำเป็นที่ให้บังคับใช้กฎหมายในพื้นที่เหล่านี้จะสอดคล้องกับการใช้งานและความสำคัญเพิ่มขึ้นของการรักษาความปลอดภัยเป็นหลักฐานและปัญญารวบรวมเครื่องมือ และเริ่มดำเนินการเป็นข้อกำหนดในส่วนสิทธิมนุษยชน Act.64 อย่างไรก็ตาม แม้ภายใต้ริป้าราคามีของหน่วยงานราชการรับ authorisation การเฝ้าระวังแอบแฝง และการตัดสินใจไม่ให้รับ authorisation ดังกล่าวไม่ได้หมายความ ว่า การกระทำที่ผิดกฎหมายโดยอัตโนมัติขาด authorisation จะแสดงการดำเนินการดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการท้าทายภายใต้พระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน แต่ลักษณะของการเฝ้าระวังหมายความ ว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าที่การดำเนินงานดังกล่าวจะเถ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ส่วนที่สองของ RIPA ให้กรอบกฎระเบียบสำหรับการใช้งานของสามประเภทของการแอบแฝง
การเฝ้าระวังคือการเฝ้าระวังกำกับการเฝ้าระวังและการใช้ล่วงล้ำ [หน้า 82
Crim LR] และการดำเนินการของหน่วยสืบราชการลับของมนุษย์แอบแฝงแหล่งที่มา มันเป็นความจำเป็นที่
กฎหมายถูกจัดให้ในพื้นที่เหล่านี้ให้ตรงกับการใช้ที่เพิ่มขึ้นและความสำคัญ
ของการเฝ้าระวังเป็นหลักฐานและเครื่องมือในการรวบรวมข่าวกรองและเริ่มต้นของ
สิทธิมนุษยชน Act.64 อย่างไรก็ตามแม้ภายใต้ RIPA มีความต้องการในส่วน
ของผู้มีอำนาจของประชาชนที่จะได้รับการอนุมัติสำหรับการเฝ้าระวังแอบแฝงและการตัดสินใจ
ที่จะไม่ได้รับการอนุญาตดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยอัตโนมัติ.
ขาดการอนุมัติจะทำให้การกระทำดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะท้าทายภายใต้
กฎหมายสิทธิมนุษยชน แต่ ลักษณะของการเฝ้าระวังหมายความว่ามันมักจะไม่น่าที่
ดำเนินการดังกล่าวจะเปิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ส่วนที่ 2 ของ RIPA มีกฎระเบียบ กรอบการใช้สามชนิดของการเฝ้าระวังแอบแฝง
) กำกับการเฝ้าระวัง การเฝ้าระวังและใช้ล่วงหน้า 82
crim [ LR ] และความประพฤติของแอบแฝงแหล่งปัญญาของมนุษย์ มันขวาง
กฎหมายให้ในพื้นที่เหล่านี้เพื่อให้ตรงกับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นและความสำคัญ
การเฝ้าระวังเป็นหลักฐานและการรวบรวมข่าวกรองเครื่องมือและการ
act.64 สิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม แม้ภายใต้ RIPA ไม่มีความต้องการในส่วน
ของประชาชนที่จะได้รับการอนุมัติสำหรับการเฝ้าระวังแอบแฝง และการตัดสินใจดังกล่าวได้รับการอนุญาต
ไม่ไม่ได้หมายความว่าการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยอัตโนมัติ
ขาดอำนาจที่จะแสดงการกระทำดังกล่าวเสี่ยงต่อความท้าทายภายใต้
พระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน แต่ลักษณะของการเฝ้าระวัง หมายความว่ามันมักจะยากที่
ปฏิบัติการดังกล่าวเปิดเผย