Green tea has been hailed for many

Green tea has been hailed for many health benefits, including its effects against cancer, heart disease and type 2 diabetes. Now, new research suggests the beverage can enhance our brain's cognitive functions, particularly the working memory.
The research team - including Prof. Christoph Beglinger and Prof. Stefan Borgwardt of the University Hospital of Basel in Switzerland - says their findings suggest that green tea could be promising in the treatment of cognitive impairments associated with neuropsychiatric disorders, such as dementia.
They recently published their findings in the journal Psychopharmacology.
Green tea, native to China and India, is produced from the leaves of the Camellia sinensis bush. Unlike other teas, green tea is made from unoxidized leaves. This minimal processing means it is rich in antioxidants.
Past research has associated the beverage with many health benefits. Last year, for example, Medical News Today reported on a study suggesting that green tea may reduce stroke risk, while another study found that it could help fight prostate cancer.
Previous studies have also suggested that green tea may have a beneficial impact on the brain's cognitive functions. However, according to the researchers of this most recent study, the exact mechanisms behind this claim have been unclear.
Green tea 'boosts connectivity between parietal and frontal cortex of the brain'

Researchers say green tea may be useful in the treatment of disorders involving cognitive impairments, such as dementia.
To further investigate, the team conducted a study using 12 healthy male volunteers with a mean age of 24.1 years.
Participants were given a milk whey-based soft drink containing 27.5 g of green tea extract, while others were given a soft drink without the green tea extract. Volunteers were unaware of which drink they had been given.
The participants were then required to carry out a series of working memory tasks. During these tasks, their brain activity was measured using magnetic resonance imaging (MRI).
The researchers found that the participants who consumed the soft drink with the green tea extract showed increased connectivity between the right superior parietal lobule and the frontal cortex of the brain. This activity correlated with improved performance on the working memory tasks.
Commenting on the findings, the researchers say:
"The present study shows that green tea extract enhances functional connectivity from the parietal to the frontal cortex during working memory processing in healthy controls.
Interestingly, this effect on effective connectivity was related to the green tea induced improvement in cognitive performance. Our findings provide first insights into the neural effect of green tea on working memory processing at the neural network level, suggesting a mechanism on short-term plasticity of interregional brain connections."
Green tea may help in treatment of dementia
According to the research team, since green tea appears to increase connectivity between frontal and parietal brain regions during working memory processing, it is worth testing the efficacy of green tea for the treatment of disorders involving cognitive impairments, such as dementia.
But they note there are some limitations in their study that need to be considered. They point out that, in contrast to the imaging results, there was no significant effect found between green tea consumption and task performance.
"However, we found a strong trend toward improved performance," they add, "suggesting that our study sample was too small to achieve differences on behavioral parameters."
In addition, the researchers note that the participants drank a soft drink containing green tea extract, not a pure green tea extract. They point out that if the participants drank a pure green tea extract, this would have avoided effects of other components, such as caffeine, which may have had some impact on participants' cognitive performance.
Our article on the health benefits of green tea reveals some other ways in which the beverage may be good for you, as well as potential risks from drinking green tea.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาเขียวได้รับคำยกย่องสำหรับประโยชน์ต่อสุขภาพหลาย รวมทั้งมีผลกระทบกับโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ตอนนี้ วิจัยใหม่แนะนำเครื่องดื่มสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของสมองของเรารับรู้ฟังก์ชัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำงานหน่วยความจำทีมวิจัย -รวมถึงศาสตราจารย์ Christoph Beglinger และศาสตราจารย์ Stefan Borgwardt ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยของบาเซิลสวิตเซอร์แลนด์ - กล่าวแนะนำค้นพบว่า ชาเขียวอาจจะสัญญาในการบำบัดรักษาของไหวสามารถรับรู้เกี่ยวข้องกับโรค neuropsychiatric เช่นสมองเสื่อมพวกเขาเพิ่งประกาศเปิดเผยในราย Psychopharmacologyชาเขียว ภาษาจีนและอินเดีย ผลิตจากใบไม้ Camellia sinensis บุช ซึ่งแตกต่างจากชาอื่น ๆ ชาเขียวที่ทำจากใบ unoxidized ประมวลผลน้อยที่สุดนี้จึง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระวิจัยได้เชื่อมโยงเครื่องดื่มที่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาก ปี เช่น แพทย์ข่าววันนี้รายงานในแนะนำการศึกษาว่า ชาเขียวอาจลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง ในขณะที่อีกการศึกษาพบว่า มันสามารถช่วยต่อสู้โรคมะเร็งต่อมลูกหมากการศึกษาก่อนหน้านี้ยังได้แนะนำว่า ชาเขียวอาจมีผลประโยชน์กับฟังก์ชันการรับรู้ของสมอง อย่างไรก็ตาม ตามนักวิจัยการศึกษาล่าสุดนี้ กลไกแน่นอนเบื้องหลังข้อเรียกร้องนี้ได้ชัดเจนชาเขียว 'ผลิตผลเชื่อมต่อระหว่างหน้าผาก และข้างขม่อม cortex ของสมอง'นักวิจัยบอกว่า ชาเขียวอาจจะเป็นประโยชน์ในการบำบัดรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับไหวสามารถรับรู้ เช่นสมองเสื่อมการตรวจสอบเพิ่มเติม ทีมดำเนินการศึกษาโดยใช้อาสาสมัครชายสุขภาพ 12 อายุเฉลี่ยปี 24.1ผู้เรียนได้รับการนมเวย์ที่ใช้ดื่มประกอบด้วย 27.5 g ของสารสกัดจากชาเขียว ในขณะที่ผู้อื่นได้รับเครื่องดื่มน้ำอัดลมไม่ มีสารสกัดจากชาเขียว ไม่รู้เครื่องดื่มที่มีการรับอาสาสมัครได้ผู้เข้าร่วมแล้วจำเป็นต้องดำเนินการชุดของการทำงานหน่วยความจำ ในระหว่างงานเหล่านี้ กิจกรรมของสมองถูกวัดโดยใช้การสั่นพ้องไฟฟ้าสนามแม่เหล็ก (mri)นักวิจัยพบว่า ผู้เรียนที่ใช้ดื่มสกัดจากชาเขียว แสดงให้เห็นว่าการเชื่อมต่อระหว่าง lobule ข้างขม่อมห้องขวาและ cortex หน้าผากของสมองเพิ่มขึ้น กิจกรรมนี้ correlated กับปรับปรุงประสิทธิภาพงานทำงานหน่วยความจำแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัย นักวิจัยบอกว่า:"การศึกษาปัจจุบันแสดงว่า สารสกัดจากชาเขียวช่วยเชื่อมต่อทำงานจากขม่อม cortex หน้าผากระหว่างหน่วยความจำทำงานประมวลผลในการควบคุมสุขภาพอยู่เป็นเรื่องน่าสนใจ ลักษณะพิเศษนี้ในการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพถูกที่เกี่ยวข้องกับชาเขียวเกิดปรับปรุงประสิทธิภาพการรับรู้ ผลการวิจัยของเราให้ลึกผลประสาทของชาเขียวแรกหน่วยความจำทำงานประมวลผลระดับเครือข่ายประสาท การแนะนำกลไกบน plasticity ระยะสั้นฟิตสมองเชื่อมต่อ"ชาเขียวอาจช่วยในการรักษาโรคสมองเสื่อมตามทีมงานวิจัย เนื่องจากชาเขียวปรากฏขึ้นเพื่อ เพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างหน้าผาก และข้างขม่อมสมองภูมิภาคในระหว่างการประมวลผล หน่วยความจำทำงานได้คุ้มค่าการทดสอบประสิทธิภาพของชาเขียวในการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับไหวสามารถรับรู้ เช่นสมองเสื่อมแต่ที่หมายเหตุมีข้อจำกัดบางประการในการเรียนที่จำเป็นต้องพิจารณา พวกเขาชี้ให้เห็นว่า ตรงข้ามผลการถ่ายภาพ มีผลสำคัญไม่พบระหว่างการบริโภคชาเขียวและประสิทธิภาพของงาน"อย่างไรก็ตาม เราพบแนวโน้มแข็งแกร่งต่อประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น เพิ่ม "แนะนำว่า ตัวอย่างการศึกษาของเราเล็กเกินไปเพื่อให้เกิดความแตกต่างในพฤติกรรมพารามิเตอร์ "นอกจากนี้ นักวิจัยทราบว่า ผู้เข้าร่วมได้ดื่มน้ำอัดลมที่ประกอบด้วยชาเขียวสกัด สารสกัดจากชาเขียวบริสุทธิ์ไม่เป็น พวกเขาชี้ให้เห็นว่า ถ้าผู้เข้าร่วมดื่มสารสกัดชาเขียวบริสุทธิ์ นี้จะได้หลีกเลี่ยงผลกระทบขององค์ประกอบอื่น ๆ เช่นคาเฟอีน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบบางคนรับรู้ประสิทธิภาพบทความของเราเกี่ยวกับสุขภาพของชาเขียวพบว่า บางวิธีอื่น ๆ ซึ่งเครื่องดื่มอาจจะดีสำหรับคุณ รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มชาเขียว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชาเขียวที่ได้รับการยกย่องว่าสำหรับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึงผลกระทบที่มีต่อโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และเบาหวานชนิดที่ 2 ตอนนี้งานวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นเครื่องดื่มที่สามารถเพิ่มฟังก์ชันการรับรู้ของสมองของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานหน่วยความจำ .
ทีมวิจัยรวมทั้ง ดร. คริสตอฟ beglinger และ ศ.สเตฟาน borgwardt ของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบาเซิล ในสวิตเซอร์แลนด์ - กล่าวว่าผลการวิจัยของพวกเขาแนะนำให้ชาเขียวอาจจะมีแนวโน้มในการรักษาความบกพร่องทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับ neuropsychiatric ผิดปกติ เช่น โรคสมองเสื่อม
พวกเขาเพิ่งเผยแพร่ผลการวิจัยของพวกเขาในวารสาร Psychopharmacology .
ชาเขียว ชาว จีน และอินเดียผลิตจากใบของต้นชา บุช ซึ่งแตกต่างจากชาอื่น ๆ , ชาเขียวทำจากใบ unoxidized . การประมวลผลน้อยที่สุดซึ่งหมายความว่ามันเป็นมั่งมีใน antioxidants
การวิจัยที่ผ่านมาได้มีเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ปีก่อน , เช่น ข่าวการแพทย์วันนี้รายงานการศึกษาชี้ให้เห็นว่า ชาเขียวอาจช่วยลดเสี่ยงสโตรคในขณะที่การศึกษาอื่นพบว่ามันสามารถช่วยต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก .
การศึกษาก่อนหน้านี้ได้พบว่าชาเขียวอาจมีผลกระทบที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานการคิดของสมอง แต่ตามที่นักวิจัยของการศึกษาล่าสุดนี้แน่นอนกลไกเบื้องหลังข้อเรียกร้องนี้ได้รับการชัดเจน
ชาเขียวช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างหน้าผากและต้นคอ ' สมอง '

นักวิจัยกล่าวว่าชาเขียวอาจจะมีประโยชน์ในการรักษาของโรคที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องทางด้านสติปัญญา เช่น โรคสมองเสื่อม
เพิ่มเติม ตรวจสอบ ทีมงานศึกษาการใช้อาสาสมัครชาย 12 สุขภาพดีด้วยอายุเฉลี่ย 24.1 ปี .
ผู้เข้าร่วมได้รับนมเวย์เครื่องดื่มที่มี 27.5 กรัม สารสกัดจากชาเขียว ใช้ ในขณะที่คนอื่นๆ ได้รับน้ำอัดลมไม่มีสารสกัดจากชาเขียว .อาสาสมัครที่ดื่มโดยไม่รู้ตัวของพวกเขาได้รับ .
ผู้เข้าร่วมจึงต้องดำเนินการชุดของงานทำงานหน่วยความจำ . ในระหว่างงานนี้ กิจกรรมสมองของพวกเขาถูกวัดโดยใช้การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก ( MRI )
.นักวิจัยพบว่าผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มนุ่มด้วยสารสกัดจากชาเขียวที่พบเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างสิทธิที่เหนือกว่าและกระโหลก lobule คอร์เท็กซ์ส่วนหน้าของสมอง กิจกรรมนี้มีความสัมพันธ์กับการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในหน่วยงาน
ความเห็นเกี่ยวกับผลการวิจัย , นักวิจัยกล่าวว่า :
" การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า สารสกัดจากชาเขียว ช่วยเพิ่มการทำงานการเชื่อมต่อจากกระโหลกถึงคอร์เท็กซ์ส่วนหน้าในการประมวลผลหน่วยความจำทำงานในการควบคุมสุขภาพ .
ที่น่าสนใจนี้มีผลต่อการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพที่เกี่ยวข้องกับชาเขียวและการปรับปรุงประสิทธิภาพการรับรู้ .การค้นพบของเราให้ข้อมูลเชิงลึกเป็นครั้งแรกผลประสาทของชาเขียวในการประมวลผลหน่วยความจำทำงานที่ระดับเครือข่ายประสาทแนะนำกลไกบนพลาสติกระยะสั้นของการเชื่อมต่อสมองความเชื่อมโยง "
ชาเขียวอาจช่วยในการรักษาภาวะสมองเสื่อม
ตามที่ทีมวิจัยเนื่องจากชาเขียวจะปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างหน้าผากและต้นคอพื้นที่สมองในการประมวลผลหน่วยความจำทำงาน มันคือการทดสอบประสิทธิภาพของชาเขียวสำหรับการรักษาของโรคที่เกี่ยวข้องกับความบกพร่องในการรับรู้มูลค่า เช่น โรคสมองเสื่อม
แต่พวกเขาทราบว่ามีบางข้อ จำกัด ในการศึกษาของพวกเขาที่ต้องพิจารณา พวกเขาชี้ให้เห็นว่าในทางตรงกันข้ามกับภาพผลลัพธ์ไม่มีผลที่พบระหว่างการบริโภคชาเขียวและการปฏิบัติงาน .
" อย่างไรก็ตาม เราพบว่าแนวโน้มที่แข็งแกร่งต่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ , " เขาเพิ่ม , " แนะนำว่า ตัวอย่างการศึกษาของเราเล็กเกินไปที่จะบรรลุความแตกต่างในตัวแปรพฤติกรรม "
นอกจากนี้ นักวิจัยทราบว่า ผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มที่ประกอบด้วยสารสกัด ชาเขียว , สารสกัดจากชาเขียวบริสุทธิ์ ไม่ใช่สีเขียวพวกเขาชี้ให้เห็นว่าถ้าผู้ดื่มชาเขียวบริสุทธิ์สารสกัดนี้จะหลีกเลี่ยงผลของส่วนประกอบอื่น ๆเช่น คาเฟอีน ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อผู้เข้าร่วมบางความรู้ความเข้าใจ การปฏิบัติ
บทความของเราเกี่ยวกับประโยชน์ต่อสุขภาพของชาเขียวที่พบบางวิธีอื่น ๆซึ่งในเครื่องดื่ม อาจจะดีสำหรับคุณ รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการดื่มชาเขียว