A slum is a heavily populated urban

A slum is a heavily populated urban informal settlement characterized by substandard housing and squalor.[1] While slums differ in size and other characteristics from country to country, most lack reliable sanitation services, supply of clean water, reliable electricity, timely law enforcement and other basic services. Slum residences vary from shanty houses to professionally-built dwellings that because of poor-quality design or construction have deteriorated into slums.[2]

Slums were common in the 19th and early 20th centuries in the United States and Europe.[3][4] More recently slums have been predominantly found in urban regions of developing and undeveloped parts of the world, but are also found in developed economies.[5][6]

According to UN-HABITAT, around 33% of the urban population in the developing world in 2012, or about 863 million people, lived in slums.[7] The proportion of urban population living in slums was highest in Sub-Saharan Africa (61.7%), followed by South Asia (35%), Southeast Asia (31%), East Asia (28.2%), West Asia (24.6%), Oceania (24.1%), Latin America and the Caribbean (23.5%), and North Africa (13.3%). Among individual countries, the proportion of urban residents living in slum areas in 2009 was highest in the Central African Republic (95.9%). Between 1990 and 2010 the percentage of people living in slums dropped, even as the total urban population increased.[7] The world's largest slum city is in Mexico City.[8][9][10]

Slums form and grow in many different parts of the world for many different reasons. Some causes include rapid rural-to-urban migration, economic stagnation and depression, high unemployment, poverty, informal economy, poor planning, politics, natural disasters and social conflicts.[1][11][12] Strategies tried to reduce and transform slums in different countries, with varying degrees of success, include a combination of slum removal, slum relocation, slum upgrading, urban planning with city wide infrastructure development, and public housing projects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สลัมเป็นทางการตั้งถิ่นฐานในเมืองที่มีประชากรมากลักษณะที่อยู่อาศัยต่ำกว่ามาตรฐานและความสกปรก. [1] ในขณะที่ชุมชนแออัดแตกต่างกันในขนาดและลักษณะอื่น ๆ จากประเทศส่วนใหญ่ขาดการบริการสุขอนามัยที่เชื่อถือได้, การจัดหาน้ำสะอาดไฟฟ้าที่เชื่อถือได้, การบังคับใช้กฎหมายและทันเวลา บริการพื้นฐานอื่น ๆ ที่อยู่อาศัยในสลัมแตกต่างกันไปจากบ้านกระท่อมเพื่อที่อยู่อาศัยมืออาชีพที่สร้างขึ้นเพราะการออกแบบที่มีคุณภาพต่ำหรือการก่อสร้างมีการเสื่อมสภาพเป็นชุมชนแออัด. [2] สลัมทั่วไปในที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป. [3] [4 ] เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการสลัมพบส่วนใหญ่ในภูมิภาคในเมืองของการพัฒนาและชิ้นส่วนได้รับการพัฒนาของโลก แต่ยังพบในการพัฒนาเศรษฐกิจ. [5] [6] ตามที่สหประชาชาติ-HABITAT ประมาณ 33% ของประชากรในเมืองในการพัฒนา โลกในปี 2012 หรือประมาณ 863,000,000 คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด. [7] สัดส่วนของประชากรในเมืองที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดเป็นที่สูงที่สุดในทะเลทรายซาฮารา (61.7%) ตามด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (35%), เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (31 %) เอเชียตะวันออก (28.2%), เอเชียตะวันตก (24.6%), โอเชียเนีย (24.1%), ละตินอเมริกาและแคริบเบียน (23.5%), และแอฟริกาเหนือ (13.3%) ในแต่ละประเทศสัดส่วนของชาวเมืองที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดในปี 2009 ได้สูงที่สุดในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง (95.9%) ระหว่างปี 1990 และ 2010 ร้อยละของผู้คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดลดลงแม้ในขณะที่ประชากรในเมืองรวมเพิ่มขึ้น. [7] สลัมเมืองที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่อยู่ในเม็กซิโกซิตี้. [8] [9] [10] รูปแบบสลัมและเติบโตในหลาย ๆ ที่แตกต่างกัน ส่วนของโลกด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน อาจมีสาเหตุอย่างรวดเร็วชนบทไปในเมืองอพยพซบเซาทางเศรษฐกิจและภาวะซึมเศร้า, การว่างงานสูงความยากจนเศรษฐกิจนอกระบบการวางแผนที่ไม่ดี, การเมือง, ภัยพิบัติทางธรรมชาติและความขัดแย้งทางสังคม. [1] [11] [12] กลยุทธ์การพยายามที่จะลดและเปลี่ยน ชุมชนแออัดในประเทศที่แตกต่างกันกับองศาที่แตกต่างของความสำเร็จรวมถึงการรวมกันของการกำจัดสลัมย้ายสลัมอัพเกรดสลัมผังเมืองกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองกว้างและโครงการที่อยู่อาศัยของประชาชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชุมชนแออัด เป็นเมืองที่ประชากรมากอย่างไม่เป็นทางการลักษณะโดยมาตรฐานที่อยู่อาศัย และความสกปรก [ 1 ] ในขณะที่ชุมชนแออัดที่แตกต่างกันในขนาดและลักษณะอื่น ๆจากประเทศส่วนใหญ่ขาดความเชื่อถือได้บริการจัดหาน้ำ ไฟฟ้าที่สะอาดเชื่อถือได้ การบังคับใช้กฎหมายทันเวลาและบริการพื้นฐานอื่น ๆชุมชนแออัดที่อยู่อาศัยแตกต่างจากบ้านกระท่อมอย่างมืออาชีพสร้างอาคารบ้านเรือน เพราะคุณภาพการออกแบบหรือการก่อสร้างต่างๆในชุมชนแออัด [ 2 ]

ชุมชนแออัดอยู่ทั่วไปในศตวรรษที่ 19 และต้น 20 ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป . [ 3 ] [ 4 ] ชุมชนแออัดได้มากขึ้นเมื่อเร็ว ๆนี้ส่วนใหญ่พบในเมืองและภูมิภาคของการพัฒนา ส่วนแกนของโลกแต่ยังพบในประเทศพัฒนา . [ 5 ] [ 6 ]

ตามโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติประมาณ 33% ของประชากรเมืองในประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลกในปี 2012 หรือประมาณ 863 ล้านคน อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด [ 7 ] สัดส่วนของประชากรเมืองที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดสูงสุดในซับซาฮาแอฟริกา ( 61.7 % ) รองลงมา ได้แก่ เอเชียใต้ ( 35% ) , เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( 31% ) , เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( 28.2 ) , West Asia ( 24.6 % ) , โอเชียเนีย ( ร้อยละ 24.1 )ละตินอเมริกาและแคริบเบียน ( 23.5 % ) และแอฟริกาเหนือ ( 13.3% ) ของแต่ละประเทศ มีชุมชนอาศัยอยู่ในชุมชนแออัดในไทยสูงสุดในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ( 95.9 % ) ระหว่างปี 1990 และ 2010 ร้อยละของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัดลดลง แม้ว่าประชากรเมืองรวมเพิ่มขึ้น [ 7 ] ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นเมืองที่แออัดในเมืองเม็กซิโก [ 8 ] [ 9 ] [ 10 ]

3 รูปแบบและเติบโตในหลายส่วนอื่นของโลก ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันมาก บางสาเหตุรวมอย่างรวดเร็วในการย้ายถิ่นฐานเมืองเศรษฐกิจซบเซาและภาวะซึมเศร้าสูง การว่างงาน ความยากจน เศรษฐกิจนอกระบบ ผู้วางแผน การเมือง ภัยธรรมชาติ และความขัดแย้งทางสังคม [ 1 ] [ 11 ] [ 12 ] กลยุทธ์พยายามลด และชุมชนแออัด แปลง ในประเทศที่แตกต่างกันมีองศาที่แตกต่างของความสำเร็จรวมถึงการรวมกันของการย้ายสลัม , ชุมชนแออัด , ปรับปรุงชุมชนแออัด , การวางผังเมืองกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งเมือง และโครงการที่อยู่อาศัยสาธารณะ .