Benini (1907), the Italian statisti

Benini (1907), the Italian statistician was the first to make use of the method of
multiple regression in economics. But Henry Moore (1914, 1917) was the first to place
the statistical estimation of economic relations at the centre of quantitative analysis in
economics. Through his relentless efforts, and those of his disciples and followers Paul
Douglas, Henry Schultz, Holbrook Working, Fred Waugh and others, Moore in effect laid
the foundations of ‘statistical economics’, the precursor of econometrics. The monumental
work of Schultz, The Theory and the Measurement of Demand (1938), in the United
States and that of Allen and Bowley, Family Expenditure (1935), in the United Kingdom,
and the pioneering works of Lenoir (1913), Wright (1915, 1928), Working (1927), Tinbergen
(1929-30) and Frisch (1933) on the problem of ‘identification’ represented major
steps towards this objective. The work of Schultz was exemplary in the way it attempted
a unification of theory and measurement in demand analysis; whilst the work on identification
highlighted the importance of ‘structural estimation’ in econometrics and was a
crucial factor in the subsequent developments of econometric methods under the auspices
of the Cowles Commission for Research in Economics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

(8 ธันวาคมพ.ศ. 2450) Benini, statistician อิตาลีคนแรกต้องใช้วิธีการถดถอยที่หลายในเศรษฐศาสตร์ แต่สมเด็จพระเจ้าเฮนรีมัวร์ (1914, 1917) เป็นคนแรกที่ทำการประเมินทางสถิติของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ศูนย์การวิเคราะห์เชิงปริมาณในเศรษฐศาสตร์ ผ่านความพยายามของเขา relentless และบรรดาสาวกของเขาและลูกศิษย์ Paulดักลาส Henry Schultz ทำ งาน Holbrook, Fred Waugh และอื่น ๆ มัวร์ผลวางรากฐาน 'สถิติเศรษฐศาสตร์' สารตั้งต้นของ econometrics ที่อนุสาวรีย์งานของ Schultz ทฤษฎี และวัดของความต้องการ (1938), ในสหรัฐอเมริกาและของอัลเลนและ Bowley รายจ่ายของครอบครัว (1935), สหราชอาณาจักรและงานบุกเบิกของ Lenoir (ค.ศ. 1913), ไรท์ (1915, 1928), ทำงาน (1927) Tinbergen(1929-30) และ Frisch (1933) ในปัญหาของ 'รหัส' แสดงหลักขั้นตอนสู่วัตถุประสงค์นี้ การทำงานของ Schultz ได้เตรียมวิธีที่จะพยายามการรวมกันของทฤษฎีและการวัดในการวิเคราะห์ความต้องการ ในขณะที่ทำงานระบุเน้นความสำคัญของ "โครงสร้างการประเมิน' ใน econometrics และเป็นการปัจจัยสำคัญในการพัฒนาต่อ ๆ ไปวิธี econometric อุปถัมภ์ค่าคอมมิชชัน Cowles เพื่อการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Benini (1907) สถิติอิตาลีเป็นครั้งแรกที่จะทำให้การใช้วิธีการ
หลายถดถอยในทางเศรษฐศาสตร์ แต่เฮนรี่มัวร์ (1914, 1917) เป็นครั้งแรกที่จะวาง
ประมาณค่าทางสถิติของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่เป็นศูนย์กลางของการวิเคราะห์เชิงปริมาณใน
ทางเศรษฐศาสตร์ ผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของเขาและบรรดาสาวกของพระองค์และสาวกพอล
ดักลาสเฮนรี่ชูลทซ์ฮอลบรูทำงาน, เฟร็ด Waugh และคนอื่น ๆ มัวร์ในผลการวาง
รากฐานของ 'เศรษฐศาสตร์สถิติ', สารตั้งต้นของเศรษฐ อนุสาวรีย์
ทำงานของชูลท์ซ, ทฤษฎีและการวัด Demand (1938) ในประเทศ
สหรัฐอเมริกาและของอัลเลนและ Bowley, ค่าใช้จ่ายในครอบครัว (1935) ในสหราชอาณาจักร
และการทำงานที่เป็นผู้บุกเบิกของเลอนัวร์ (1913) ไรท์ (1915, 1928), การทำงาน (1927), เบอร์เกน
(1929-1930) และ Frisch (1933) เกี่ยวกับปัญหาของการระบุ 'เป็นตัวแทนที่สำคัญ
ขั้นตอนต่อวัตถุประสงค์นี้ การทำงานของชูลทซ์เป็นแบบอย่างในทางที่มันพยายาม
ผสมผสานของทฤษฎีและการวัดในการวิเคราะห์ความต้องการ; ในขณะที่การทำงานในการระบุ
เน้นความสำคัญของการประมาณค่าโครงสร้าง 'ในเศรษฐและเป็น
ปัจจัยสำคัญในการพัฒนาต่อมาของวิธีการทางเศรษฐมิติภายใต้การอุปถัมภ์
ของโคว์คณะกรรมการเพื่อการวิจัยในสาขาเศรษฐศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เบ็นนินิ ( 1907 ) , นักสถิติอิตาลีเป็นครั้งแรกเพื่อใช้ประโยชน์จากวิธีการของ
ถดถอยในเศรษฐศาสตร์ แต่เฮนรี่มัวร์ ( 1914 1917 ) เป็นครั้งแรกที่
การประเมินสถิติของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ศูนย์การวิเคราะห์เชิงปริมาณใน
เศรษฐศาสตร์ ผ่านความพยายามอย่างไม่หยุดยั้ง และพวกสาวกของพระองค์และผู้ติดตามพอล
ดักลาสเฮนรี่ Schultz Holbrook , ทำงานเฟรด วอ และ อื่นๆ มัวร์ในผลวาง
รากฐานของ ' เศรษฐศาสตร์ ' สถิติ สารตั้งต้นของเศรษฐมิติ . งานอนุสาวรีย์
ของชูลท์ซ , ทฤษฎีและการวัดความต้องการ ( 1938 ) ในสหรัฐอเมริกาและของ Allen และ
โบลี่ , ค่าใช้จ่ายในครอบครัว ( 1935 ) , ในสหราชอาณาจักร ,
และผลงานของผู้บุกเบิกเลอนัวร์ ( 1913 ) , ไรท์ ( ค.ศ. 1928 ) , ทำงาน ( 1927 ) ทินเบอร์เกน
( 1929-30 ) และฟริสช์ ( 1933 ) ในปัญหาของ ' ระบุ ' แสดงหลัก
ขั้นตอนต่อวัตถุประสงค์นี้ การทำงานของชูลท์ซเป็นเป็นแบบอย่างในทางพยายาม
รวมกันของทฤษฎีและการวัดการวิเคราะห์อุปสงค์ ; ในขณะที่ทำงานในการเน้นความสำคัญของโครงสร้าง
' ประมาณ ' เศรษฐมิติและเป็น
ปัจจัยสําคัญในการพัฒนาที่ตามมาของวิธีทางเศรษฐมิติภายใต้การอุปถัมภ์
ของ cowles คณะกรรมการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์