In 1815, after the final defeat of

In 1815, after the final defeat of Napoleon, the German princes and free cities established the German Confederation as a loose successor of the former Holy Roman Empire. The sovereignty remained with the individual German states. There were several attempts to create a modern nation state, most prominently in the Revolution of 1848. A major issue in the struggle was the rivalry between Austria, the traditional principal power in Germany, and the ascending Prussia. The Austro-Prussian War of 1866 demonstrated the military superiority of Prussia, led by its ingenious and energetic minister-president Otto von Bismarck.

After the war Prussia annexed most of its adversaries' territories north of the river Main, such as the Kingdom of Hanover, and with the other North German states it signed on 18 August the North German Confederation Treaty. The alliance had 15 members then, with 80 percent of the inhabitants living in Prussia. (A notable exclave of the North German Confederation was the Prussian territory of Hohenzollern in the south.) Hesse-Darmstadt was part of the new Confederation only with its northern part. A South German Confederation, as mentioned in the Peace of Prague, did not come into existence.

From the beginning the alliance was supposed to become a nation state with a federal constitution. On 15 December 1866, Bismarck presented a proposal to the representatives of the allied governments. Their complaints did not seriously alter the proposal. On 7 February 1867, the common proposal of the governments was ready. It was the intention not to impose the new constitution but to stipulate it together with a representation of the people. To this end a konstituierender North German parliament was elected on 12 February. This Norddeutscher Reichstag accepted the constitution, with relatively minor changes, on 16 April 1867. It became law on 1 July. Consequently, a new Reichstag was elected, the only one during the (following) existence of the North German Confederation. Bismarck became the first and only North German 'Bundeskanzler', the head of the executive.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1815 หลังสุดท้ายความพ่ายแพ้ของนโปเลียน princes เยอรมันและเมืองอิสระก่อตั้งสมาพันธรัฐเยอรมันเป็นสืบหลวมของจักรวรรดิโรมันศักดิ์สิทธิ์เดิม อำนาจอธิปไตยอยู่กับอเมริกาเยอรมันแต่ละ มีความพยายามหลายครั้งเพื่อสร้างรัฐประชาชาติสมัยใหม่ จึงมากที่สุดในการปฏิวัติปี 1848 แห่ง ปัญหาใหญ่ในการต่อสู้แข่งขันระหว่างออสเตรีย อำนาจหลักดั้งเดิมในประเทศเยอรมนี และปรัสเซียจากน้อยไปมากได้ สงครามออสเตรีย-Prussian ของ 1866 แสดงปมทหารปรัสเซีย นำ โดยความแยบยล และมีพลังรัฐมนตรีประธานออทโทฟอนบิสมาร์คหลังจากปรัสเซียในสงคราม annexed ส่วนใหญ่ของคู่แข่งของดินแดนทางตอนเหนือของแม่น้ำหลัก เช่นราชอาณาจักรฮาโนเวอร์ และเหนือเยอรมันอเมริกาก็ลงนามในเดือน 18 สิงหาคมสนธิสัญญาสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ พันธมิตรได้ 15 คนแล้ว มีร้อยละ 80 ของประชากรที่อาศัยอยู่ในปรัสเซีย (Exclave โดดของสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือถูก Prussian อาณาเขตของ Hohenzollern ในภาคใต้) โซฟีแห่งเฮสส์ดาร์มสเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธรัฐใหม่เท่ากับของภาคเหนือ เป็นสมาพันธ์เยอรมันใต้ ตามสันติภาพปราก ไม่ได้เข้ามาอยู่จากจุดเริ่มต้นที่ พันธมิตรถูกควรเป็น รัฐชาติกับรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลาง บน 15 1866 ธันวาคม บิสมาร์คนำเสนอข้อเสนอให้ตัวแทนของรัฐบาลฝ่ายสัมพันธมิตร ข้อร้องเรียนของพวกเขาได้ไม่เปลี่ยนข้อเสนออย่างจริงจัง บน 7 กุมภาพันธ์ค.ศ. 1867 ข้อเสนอร่วมกันของรัฐบาลถูกพร้อม มันเป็นความตั้งใจไม่ ให้กำหนดรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ stipulate ร่วมกับตัวแทนของประชาชน เพื่อการนี้ konstituierender เยอรมันเหนือ รัฐสภาได้รับเลือก 12 กุมภาพันธ์ แหล่งนี้ Norddeutscher ยอมรับรัฐธรรมนูญ มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย บน 16 เมษายนค.ศ. 1867 มันเป็นกฎหมายในเดือน 1 กรกฎาคม ดังนั้น แหล่งใหม่ได้รับเลือก หนึ่งเดียวในระหว่างการดำรงอยู่ (ต่อ) ของสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือ บิสมาร์คเป็น ที่แรก และที่เดียวเหนือเยอรมัน 'Bundeskanzler' หัวของผู้บริหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1815 หลังจากที่พ่ายแพ้ของนโปเลียน, เจ้าชายเยอรมันและเมืองฟรีจัดตั้งสมาพันธ์เยอรมันเป็นผู้สืบทอดหลวมของอดีตจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อำนาจอธิปไตยยังคงอยู่กับเยอรมันสหรัฐอเมริกาบุคคล มีความพยายามหลายครั้งที่จะสร้างรัฐชาติสมัยใหม่ได้เด่นที่สุดในการปฏิวัติ 1848 ประเด็นหลักในการต่อสู้คือการแข่งขันระหว่างออสเตรีย, พลังงานหลักดั้งเดิมในเยอรมนีและปรัสเซียน้อยไปหามาก ออสเตรียปรัสเซียนสงคราม 1866 แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าของทหารปรัสเซียนำโดยความคิดสร้างสรรค์และมีพลังมุขมนตรีของอ็อตโตฟอนบิสมาร์ก. หลังจากที่สงครามปรัสเซียยึดดินแดนส่วนใหญ่ของฝ่ายตรงข้าม 'ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของแม่น้ำสายหลักเช่นราชอาณาจักรฮันโนเวอร์ และมีรัฐเยอรมันเหนือมันลงนามเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมสหภาพเยอรมันตอนเหนือสนธิสัญญา พันธมิตรมีสมาชิก 15 คนแล้วมีร้อยละ 80 ของคนที่อาศัยอยู่ที่อาศัยอยู่ในปรัสเซีย (exclave เด่นของสหภาพเยอรมันตอนเหนือเป็นดินแดนปรัสเซียน Hohenzollern ในภาคใต้.) เฮสส์ดาร์มสตัดเป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์ใหม่เฉพาะกับทางตอนเหนือของ เซาท์เยอรมันสมาพันธ์ดังกล่าวอยู่ในความสงบปรากไม่ได้เข้ามาในชีวิต. จากจุดเริ่มต้นการเป็นพันธมิตรที่ควรจะกลายเป็นรัฐชาติกับรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลาง วันที่ 15 ธันวาคม 1866 สมาร์คยื่นข้อเสนอให้กับตัวแทนของรัฐบาลที่มีลักษณะคล้ายกัน ข้อร้องเรียนของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังข้อเสนอ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1867, ข้อเสนอร่วมกันของรัฐบาลก็พร้อม มันเป็นความตั้งใจที่จะไม่กำหนด แต่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะกำหนดมันเข้าด้วยกันด้วยการเป็นตัวแทนของประชาชน ด้วยเหตุนี้รัฐสภาเยอรมัน konstituierender นอร์ทได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 นี้ Norddeutscher รัฐสภาของเยอรมนีได้รับการยอมรับรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในวันที่ 16 เมษายน 1867 มันกลายเป็นกฎหมายวันที่ 1 กรกฎาคม ดังนั้นใหม่รัฐสภาของเยอรมนีได้รับเลือกตั้งเพียงคนเดียวในช่วง (ต่อไป) การดำรงอยู่ของสหภาพเยอรมันตอนเหนือ สมาร์คกลายเป็นคนแรกและคนเดียวที่เหนือเยอรมัน Bundeskanzler ', หัวของผู้บริหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน ค.ศ. 1815 หลังจากความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายของนโปเลียน , เจ้าชายเยอรมันและเมืองอิสระก่อตั้งสหภาพเยอรมันเป็นผู้สืบทอดหลวมของอดีตจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ อำนาจอธิปไตยยังคงอยู่กับคนเยอรมันสหรัฐอเมริกา มีความพยายามหลายครั้งที่จะสร้างชาติรัฐสมัยใหม่เด่นที่สุดในการปฏิวัติของ 1848 . ปัญหาใหญ่ในการต่อสู้ คือ การแข่งขันระหว่าง ออสเตรียพลังหลักดั้งเดิมในเยอรมัน และจากแคว้นปรัสเซีย การ austro ปรัสเซียสงคราม 1866 แสดงความเหนือกว่ากองทัพปรัสเซีย นำโดยรัฐมนตรีของความคิดสร้างสรรค์และแข็งขัน ประธานโต ฟอนบิสมาร์ค .

หลังจากสงครามปรัสเซียยึดครองมากที่สุดของคู่แข่งของดินแดนทางตอนเหนือของแม่น้ำหลัก เช่นราชอาณาจักรฮันโนเวอร์และกับอื่น ๆเยอรมันเหนือรัฐได้ลงนามเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม สนธิสัญญาสหภาพเยอรมันตอนเหนือ กลุ่มมีสมาชิก 15 แล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่อาศัยอยู่ในแคว้นปรัสเซีย ( ดินแดนส่วนแยกเด่นของสหภาพเยอรมันตอนเหนือเป็นดินแดนของราชวงศ์โฮเฮนโซลแลร์นปรัสเซียในภาคใต้เฮสส์ดาร์มชตัท ) เป็นส่วนหนึ่งของสมาพันธ์ใหม่กับทางตอนเหนือของเป็นสมาพันธ์เยอรมันใต้ กล่าวว่า ในความสงบของปราก ไม่ได้มาเป็นชาติ

ตั้งแต่พันธมิตรจะกลายเป็นรัฐชาติกับรัฐธรรมนูญของรัฐบาลกลาง ในวันที่ 15 ธันวาคม 1866 บิสมาร์ค , นําเสนอข้อเสนอให้กับตัวแทนของพันธมิตรรัฐบาล ข้อร้องเรียนของพวกเขาไม่ได้จริงๆเปลี่ยนข้อเสนอ ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1867 ,ข้อเสนอทั่วไปของรัฐบาลก็พร้อม มันคือความตั้งใจ ไม่กำหนด รัฐธรรมนูญใหม่ แต่การกำหนดด้วยกันกับการเป็นตัวแทนของประชาชน จบแบบนี้ konstituierender เยอรมันเหนือรัฐสภาได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ norddeutscher แต่ยอมรับรัฐธรรมนูญ มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย ในวันที่ 16 เมษายน 1867 . มันเป็นกฎหมายเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม จากนั้นแต่แบบใหม่ถูกเลือก คนเดียวตลอด ( ต่อไปนี้ ) การดำรงอยู่ของสหพันธ์เยอรมันเหนือ บิสมาร์คเป็นครั้งแรกและเพียงเหนือเยอรมัน ' ' bundeskanzler หัวหน้าผู้บริหาร