ประวัติ สันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในแผ่นดินสม การแปล - ประวัติ สันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในแผ่นดินสม ไทย วิธีการพูด

ประวัติ สันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่

ประวัติ
สันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในแผ่นดินสมเด็จบรมราชาธิราชที่ ๑
(ขุนหลวงพระงั่ว) แต่อาจจะยังไม่สำเร็จในรัชกาลของพระองค์ จนถึงรัชกาของสมเด็จ
พระราเมศวรจึงทรงสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จบริบูรณ์เป็นพระอาราม แล้วขนานนามว่า”วัดมหาธาตุ”

ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๕๓-๒๑๗๑)พระปรางค์เคยพังลงมา
เกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑ ต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่
โดยเสริมพระมหาธาตุให้สูงยิ่งขึ้น รวมเป็นความสูง 25 วา ดังปรากฏในพงศาวดารฉบับ
พระราชหัตถเลขาว่า“ศักราช ๙๙๕ (พ.ศ.๒๑๗๖) ปีระกา เบญจศก ทรงพระกรุณาให้สถาปนา
พระปรางค์วัดพระมหาธาตุอันทำลายลง เก่าเดิมในองค์สูง ๑๙ วายอดนภศูลสูง ๓ วาจึงดำรัสว่า
ทรงเก่าล่ำนัก ให้ก่อใหม่ไห้องค์สูงเส้น ๒ วายอดนภศูลคงไว้ เข้ากันเป็นเส้น ๕ วา (๕๐เมตร)
ก่อแล้วเห็นเพรียวอยู่ ให้เอาไว้มะค่ามาแทรก ตามอิฐเอาปูนบวก ๙ เดือนสำเร็จให้กระทำ
การฉลองเป็นอันมาก”หลังจากรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแล้ว ก็ไม่ปรากฏเรื่องราว
ของวัดมหาธาตุอีกเลย

ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่ข้าศึกครั้งหลังใน พ.ศ.๒๓๑๐ ในคราวนั้นวัดมหาธาตุถูกไฟไหม้
เสียหายมาก พระอุโบสถและวิหาร ตลอดจนกุฏิสงฆ์ถูกเผาผลาญยับเยิน คงเหลือแต่ซากผนัง
และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดมหาธาตุก็ได้กลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งพระยาไชยวิชิต (เผือก)
ผู้รักษาการกรุงศรีอยุธยา ในรัชกาลที่๓ทำการซ่อมวัดหน้าพระเมรุที่ริมครองสระบัวขึ้นใหม่หมด
ทั้งวัด จึงได้เชิญพระพุทธรูปองค์นั่งห้องพระบาทไปประดิษฐานไว้ในวิหารน้อย ซึ่งอยู่ใน
วัดหน้าพระเมรุจนบัดนี้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติ สันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในแผ่นดินสมเด็จบรมราชาธิราชที่ ๑ จนถึงรัชกาของสมเด็จแต่อาจจะยังไม่สำเร็จในรัชกาลของพระองค์ (ขุนหลวงพระงั่ว) พระราเมศวรจึงทรงสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จบริบูรณ์เป็นพระอารามแล้วขนานนามว่า "วัดมหาธาตุ" พระปรางค์เคยพังลงมาในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พ.ศ.๒๑๕๓- ๒๑๗๑) เกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่ ดังปรากฏในพงศาวดารฉบับวารวมเป็นความสูง 25 โดยเสริมพระมหาธาตุให้สูงยิ่งขึ้น พระราชหัตถเลขาว่า "ศักราช ๙๙๕ (พ.ศ.๒๑๗๖) ปีระกาเบญจศกทรงพระกรุณาให้สถาปนา พระปรางค์วัดพระมหาธาตุอันทำลายลงเก่าเดิมในองค์สูง ๑๙ วายอดนภศูลสูง ๓ วาจึงดำรัสว่า ทรงเก่าล่ำนักให้ก่อใหม่ไห้องค์สูงเส้น ๒ วายอดนภศูลคงไว้เข้ากันเป็นเส้น ๕ วา (๕๐เมตร) ก่อแล้วเห็นเพรียวอยู่ให้เอาไว้มะค่ามาแทรกตามอิฐเอาปูนบวก ๙ เดือนสำเร็จให้กระทำ การฉลองเป็นอันมาก "หลังจากรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแล้วก็ไม่ปรากฏเรื่องราว ของวัดมหาธาตุอีกเลย ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่ข้าศึกครั้งหลังในพ.ศ.๒๓๑๐ในคราวนั้นวัดมหาธาตุถูกไฟไหม้ เสียหายมากพระอุโบสถและวิหารตลอดจนกุฏิสงฆ์ถูกเผาผลาญยับเยินคงเหลือแต่ซากผนัง และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดมหาธาตุก็ได้กลายเป็นวัดร้างจนกระทั่งพระยาไชยวิชิต (เผือก) ผู้รักษาการกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลที่๓ทำการซ่อมวัดหน้าพระเมรุที่ริมครองสระบัวขึ้นใหม่หมด ทั้งวัดจึงได้เชิญพระพุทธรูปองค์นั่งห้องพระบาทไปประดิษฐานไว้ในวิหารน้อยซึ่งอยู่ใน วัดหน้าพระเมรุจนบัดนี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

1
(ขุนหลวงพระงั่ว) รวมเป็นความสูง 25 วา 995 ( พ.ศ. 2176) ปีระกาเบญจศก เก่าเดิมในองค์สูง 19 วายอดนภศูลสูง 3 วาจึงดำรัสว่าได้คุณทรงเก่าล่ำนักให้ก่อใหม่ไห้องค์สูงสุดสูงเส้น 2 วายอดนภศูลคงไว้เข้ากันเป็น เส้น 5 วา (50 เมตร) ก่อแล้วเห็นเพรียวอยู่ให้เอาไว้ มะค่ามาแทรกตามอิฐเอาปูนบวก 9 พ.ศ. 2310 พระอุโบสถและวิหารตลอดจนกุฏิสงฆ์ ถูกเผาผลาญยับเยิน วัดมหาธาตุก็ได้กลายเป็นวัดร้างจนกระทั่ง พระยาไชยวิชิต (เผือก) ผู้รักษาการกรุงศรีอยุธยา ขณะนี้ในห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งวัดหน้า: ภาพประกอบที่คุณพระเมรุจนบัดนี้


















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติสันนิษฐานว่าวัดนี้ได้ริเริ่มสร้างองค์พระมหาธาตุขึ้นในแผ่นดินสมเด็จบรมราชาธิราชที่ต่างหาก( ขุนหลวงพระงั่ว ) แต่อาจจะยังไม่สำเร็จในรัชกาลของพระองค์จนถึงรัชกาของสมเด็จพระราเมศวรจึงทรงสร้างเพิ่มเติมจนเสร็จบริบูรณ์เป็นพระอารามแล้วขนานนามว่า " วัดมหาธาตุ "ในสมัยสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม ( พ . ศ . ๒๑๕๓ - ๒๑๗๑ ) พระปรางค์เคยพังลงมาเกือบครึ่งองค์ถึงชั้นครุฑต่อมาสมเด็จพระเจ้าปราสาททองทรงบูรณะใหม่โดยเสริมพระมหาธาตุให้สูงยิ่งขึ้นรวมเป็นความสูง 25 วาดังปรากฏในพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาว่า " ศักราช๙๙๕ ( พ . ศ . ๒๑๗๖ ) ปีระกาเบญจศกทรงพระกรุณาให้สถาปนาพระปรางค์วัดพระมหาธาตุอันทำลายลงเก่าเดิมในองค์สูง๑๙วายอดนภศูลสูงวาจึงดำรัสว่ากันทรงเก่าล่ำนักให้ก่อใหม่ไห้องค์สูงเส้น๒วายอดนภศูลคงไว้เข้ากันเป็นเส้น๕วา ( ๕๐เมตร )ก่อแล้วเห็นเพรียวอยู่ให้เอาไว้มะค่ามาแทรกตามอิฐเอาปูนบวกเดือนสำเร็จให้กระทำซ้งโคยการฉลองเป็นอันมาก " หลังจากรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแล้วก็ไม่ปรากฏเรื่องราวของวัดมหาธาตุอีกเลยครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่ข้าศึกครั้งหลังในพ . ศ๒๓๑๐ในคราวนั้นวัดมหาธาตุถูกไฟไหม้ .เสียหายมากพระอุโบสถและวิหารตลอดจนกุฏิสงฆ์ถูกเผาผลาญยับเยินคงเหลือแต่ซากผนังและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาวัดมหาธาตุก็ได้กลายเป็นวัดร้างจนกระทั่งพระยาไชยวิชิต ( เผือก )ผู้รักษาการกรุงศรีอยุธยาในรัชกาลที่๓ทำการซ่อมวัดหน้าพระเมรุที่ริมครองสระบัวขึ้นใหม่หมดทั้งวัดจึงได้เชิญพระพุทธรูปองค์นั่งห้องพระบาทไปประดิษฐานไว้ในวิหารน้อยซึ่งอยู่ในวัดหน้าพระเมรุจนบัดนี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: