Ayutthaya King Ramathibodi II estab

Ayutthaya King Ramathibodi II established a system of corvée in 1518 after which the lives of Siamese commoners and slaves were closely regulated by the government. All Siamese common men (phrai ไพร่) were subject to the Siamese corvée system. Each man at the time of his majority had to register with a government bureau, department or leading member of the royalty called krom (กรม) as a Phrai Luang (ไพร่หลวง) or under a nobleman's master (Moon Nai or Chao Khun Moon Nai มูลนาย หรือเจ้าขุนมูลนาย) as a Phrai Som (ไพร่สม). Phrai owed service to sovereign or master for three months of the year. Phrai Suay (ไพร่ส่วย) were those who could make payment in kind (cattle) in lieu of service. Those conscripted into military service were called Phrai Tahan (ไพร่ทหาร).

Chulalongkorn was best known for his abolition of Siamese slavery (ทาส.) He associated the abolition of slavery in the United States with the bloodshed of the American Civil War. Chulalongkorn, to prevent such a bloodbath in Siam, provided several steps towards the abolition of slavery, not an extreme turning point from servitude to total freedom. Those who found themselves unable to live on their own sold themselves into slavery by rich noblemen. Likewise, when a debt was defaulted, the borrower would become a slave of the lender. If the debt was redeemed, the slave regained freedom.

However, those whose parents were household slaves (ทาสในเรือนเบี้ย) were bound to be slaves forever because their redemption price was extremely high.

Because of economic conditions, people sold themselves into slavery in great numbers and in turn they produced a large number of household slaves. In 1867 they accounted for one-third of Siamese population. In 1874, Chulalongkorn enacted a law that lowered the redemption price of household slaves born in 1867 (his ascension year) and freed all of them when they had reached 21.

The newly freed slaves would have time to settle themselves as farmers or merchants so they would not become unemployed. In 1905, the Slave Abolition Act ended Siamese slavery in all forms. The reverse of 100-baht notes in circulation since the 2005 centennial depict Chulalongkorn in navy uniform abolishing the slave tradition.

The traditional corvée system declined after the Bowring Treaty, which gave rise to a new class of employed labourers not regulated by the government, while many noblemen continued to hold sway over large numbers of Phrai Som. Chulalongkorn needed more effective control of manpower to undo the power of nobility. After the establishment of the Monthon system, Chulalongkorn began the census to get the statistics of all men available to the government. The Employment Act of 1900 required that all workers be paid, not forced to work.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทูรามาธิบดีกษัตริย์อยุธยาก่อตั้งระบบ corvée ใน 1518 ที่ชีวิตของสยามไพร่และทาสได้อย่างใกล้ชิดควบคุม โดยรัฐบาล ทั้งหมดสยามทั่วไปชาย (ไพรไพร่) ที่ มีระบบ corvée สยาม คนแต่ละเวลาส่วนใหญ่ของเขามีการลงทะเบียนกับทบวง กรม หรือสมาชิกชั้นนำของราชวงศ์ที่เรียกว่า krom (กรม) เป็นการหลวงไพร (ไพร่หลวง) หรือภาย ใต้หลักของขุนนาง (นายจันทร์หรือเจ้าคุณจันทร์นายมูลนายหรือเจ้าขุนมูลนาย) เป็นตัวส้มไพร (ไพร่สม) ไพรเป็นหนี้บริการอธิปไตย หรือหลักสามเดือนของปี ไพรสวย (ไพร่ส่วย) มีผู้ที่สามารถทำการชำระเงินในชนิด (วัว) แทนของค่าใช้บริการ เกณฑ์เข้ารับราชการทหารผู้ถูกเรียกว่า Tahan ไพร (ไพร่ทหาร)จุฬาลงกรณ์เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับเขาการเลิกทาสในสยาม (ทาส) เขาร่วมการเลิกทาสในสหรัฐอเมริกา มีการเสียเลือดเนื้อของอเมริกันสงครามกลางเมือง จุฬาลงกรณ์ เพื่อป้องกันดังกล่าวเป็นรางวัลกันถ้วนหน้าในสยาม มีหลายขั้นตอนสู่การเลิกทาส ไม่มีมากจุดเปลี่ยนจากทาสให้เป็นอิสระ ผู้ที่พบว่าตัวเองไม่สามารถอาศัยอยู่ในตัวเองขายตัวเองไปเป็นทาสโดย noblemen รวย ในทำนองเดียวกัน เมื่อหนี้เป็นค่าเริ่มต้น ผู้กู้ก็จะเป็น ทาสของผู้ให้กู้ ถ้าไม่ใช้หนี้ ทาสที่จากเสรีภาพอย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองที่มีทาสในครัวเรือน (ทาสในเรือนเบี้ย) มีขอบเขตจะเป็นทาสตลอดเนื่องจากของราคาสูงมากเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ คนขายตัวเป็นทาสมัว และจะพวกเขาผลิตจำนวนครัวเรือนทาส ใน 1867 เขาบัญชีสำหรับหนึ่งในสามของประชากรสยาม ใน 1874 จุฬาลงกรณ์บัญญัติกฎหมายที่ลดลงราคาของเรือนทาสเกิดใน 1867 (ปีพระองค์เสด็จขึ้นสู่สวรรค์) และรอดทั้งหมดของพวกเขาเมื่อพวกเขาได้ถึง 21ทาสอิสระเพิ่งจะมีเวลาที่จะชำระตัวเองเป็นเกษตรกรหรือพ่อค้าเพื่อพวกเขาจะไม่กลายเป็นคนตกงาน ปีพ.ศ. 2448 สมัย พระราชบัญญัติเลิกทาสสิ้นสุดลงทาสในสยามในทุกรูปแบบ กลับตั๋ว 100 บาท ในการหมุนเวียนตั้งแต่ปี 2005 ที่เซนเทนเนียลพรรณนาจุฬาลงกรณ์ในรูป abolishing ทาสประเพณีกองทัพเรือระบบ corvée แบบปฏิเสธหลังจากสนธิสัญญาเบาว์ริง ซึ่งให้ขึ้นไปชั้นใหม่ของเจ้ากรรมกรไม่ควบคุม โดยรัฐบาล ในขณะที่ยังคงค้างกทางเหนือจำนวนมากจุฬาลงกรณ์ Som. ไพร noblemen มากต้องควบคุมมีประสิทธิภาพของกำลังคนเพื่อยกเลิกอำนาจของขุนนาง หลังจากการจัดตั้งระบบมณฑล จุฬาลงกรณ์เริ่มสำนึกได้สถิติของคนทั้งหมดให้รัฐบาล พระราชบัญญัติการทำงานของ 1900 จำเป็น ที่ทุกคนต้องจ่าย ไม่บังคับให้ทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อยุธยาพระรามาธิบดีที่สองสร้างระบบของcorvéeใน 1518 หลังจากที่ชีวิตของสยามไพร่และทาสที่ถูกควบคุมอย่างใกล้ชิดโดยรัฐบาล ทุกคนที่พบบ่อยสยาม (ไพรไพร่) เป็นเรื่องที่ระบบcorvéeสยาม แต่ละคนในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของเขาจะต้องลงทะเบียนกับสำนักงานรัฐบาลแผนกหรือสมาชิกชั้นนำของเจ้านายที่เรียกว่ากรม (กรม) เป็นไพรหลวง (ไพร่หลวง) หรือภายใต้หลักขุนนางของ (ดวงจันทร์นายหรือเจ้าคุณดวงจันทร์นายมูลนาย หรือเจ้าขุนมูลนาย) เป็นไพรส้ม (ไพร่สม) หนี้ที่ค้างชำระบริการไพรเพื่ออธิปไตยหรือต้นแบบเป็นเวลาสามเดือนของปี ไพรสวย (ไพร่ส่วย) เป็นผู้ที่จะทำให้การชำระเงินในชนิด (วัว) แทนในการให้บริการ ผู้ที่เกณฑ์เข้ารับราชการทหารที่ถูกเรียกว่าไพร Tahan (ไพร่ทหาร). จุฬาลงกรณ์เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการยกเลิกของเขาจากการเป็นทาสสยาม (ทาส.) เขาที่เกี่ยวข้องการเลิกทาสในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการนองเลือดของสงครามกลางเมืองอเมริกา จุฬาลงกรณ์เพื่อป้องกันการนองเลือดดังกล่าวในสยามให้หลายขั้นตอนไปสู่การยกเลิกของทาสไม่ได้เป็นจุดเปลี่ยนที่รุนแรงจากการเป็นทาสที่จะมีเสรีภาพรวม บรรดาผู้ที่พบว่าตัวเองไม่สามารถที่จะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวเองขายตัวเองเป็นทาสโดยขุนนางที่อุดมไปด้วย ในทำนองเดียวกันเมื่อมีการผิดนัดชำระหนี้ได้ผู้กู้ก็จะกลายเป็นทาสของผู้ให้กู้ที่ หากหนี้ที่ได้รับการไถ่ทาสคืนเสรีภาพ. แต่ผู้ที่มีพ่อแม่เป็นทาสของใช้ในครัวเรือน (ทาสในเรือนเบี้ย) ถูกผูกไว้เพื่อเป็นทาสตลอดไปเพราะราคาไถ่ถอนของพวกเขาอยู่ในระดับสูงมาก. เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่คนขายตัวเองเป็นทาสในที่ดี ตัวเลขและในทางกลับกันพวกเขาผลิตเป็นจำนวนมากของทาสในครัวเรือน ใน 1867 พวกเขาคิดเป็นหนึ่งในสามของประชากรไทย ใน 1874 จุฬาลงกรณ์ตรากฎหมายที่ลดราคาไถ่ถอนทาสครัวเรือนเกิดขึ้นในปี 1867 (ปีที่เสด็จขึ้นสู่สวรรค์ของเขา) และปลดปล่อยทั้งหมดของพวกเขาเมื่อพวกเขามาถึง 21 ทาสอิสระที่เพิ่งจะมีเวลาที่จะชำระตัวเองเป็นเกษตรกรหรือร้านค้าเพื่อให้พวกเขา จะไม่กลายเป็นคนว่างงาน ในปี 1905 ที่การเลิกทาสสิ้นสุดวันที่พระราชบัญญัติทาสสยามในทุกรูปแบบ ย้อนกลับของบันทึก 100 บาทในการไหลเวียนตั้งแต่ปี 2005 ครบรอบร้อยปีแสดงให้เห็นถึงจุฬาลงกรณ์ในกองทัพเรือเครื่องแบบยกเลิกประเพณีทาส. ระบบcorvéeแบบดั้งเดิมลดลงหลังจากที่ Bowring Treaty ซึ่งก่อให้เกิดความคลาสใหม่ของคนงานลูกจ้างไม่ได้ควบคุมโดยรัฐบาลในขณะที่ ขุนนางหลายคนยังคงถือแกว่งไปแกว่งมามากกว่าจำนวนมากไพรส้ม จุฬาลงกรณ์จำเป็นต้องควบคุมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของกำลังคนเพื่อยกเลิกอำนาจของขุนนาง หลังจากที่ตั้งของระบบมณฑลจุฬาลงกรณ์เริ่มการสำรวจสำมะโนประชากรที่จะได้รับสถิติของคนที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับรัฐบาล พระราชบัญญัติการจ้างงาน 1900 จำเป็นที่ทุกคนจะได้รับเงินไม่ถูกบังคับให้ทำงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อยุธยา สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างระบบของ corv é e ใน 1518 หลังจากที่ชีวิตของสามัญชนชาวสยามและทาสได้อย่างใกล้ชิด ควบคุมโดยรัฐบาล ทั้งหมดสยามผู้ชายสามัญ ( ไพรไพร่ ) เป็นเรื่องสยาม corv é e ระบบ แต่ละคน เวลาส่วนใหญ่ของเขาต้องลงทะเบียนกับรัฐบาลหน่วยงานแผนก หรือนำสมาชิกของราชวงศ์ เรียกว่า กรม ( กรม ) เป็นไพร่หลวง ( ไพร่หลวง ) หรือภายใต้ขุนนางเจ้านาย ( ดวงจันทร์ในหรือเจ้าขุนมุนนายมูลนายหรือเจ้าขุนมูลนาย ) เป็นไพรโสม ( ไพร่สม ) ไพรติดค้างบริการอธิปไตยหรืออาจารย์เป็นเวลาสามเดือนของปีไพรสวย ( ไพร่ส่วย ) เป็นผู้ที่สามารถทำให้การชำระเงินในประเภท ( โค ) ในการให้บริการ ผู้ที่ผ่านการเกณฑ์ทหารเข้ารับราชการทหารถูกเรียกว่าไพร่ทหาร ( ไพร่ทหาร )

จุฬาลงกรณ์เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับการเป็นทาสของเขา สยาม ( ทาส ) เขาเกี่ยวข้อง การเลิกทาสในสหรัฐอเมริกากับการนองเลือดของสงครามกลางเมืองอเมริกา จุฬาฯเพื่อป้องกันไม่ให้เช่นเลือดสยามให้หลายขั้นตอนไปสู่การประกาศเลิกทาส ไม่สุดโต่งจุดเปลี่ยนจากทาสเป็นอิสระทั้งหมด บรรดาผู้ที่พบตัวเองไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตของพวกเขาเองขายเองเป็นทาสโดยรวยสูงศักดิ์ อนึ่ง เมื่อหนี้ผิดนัด , ผู้กู้จะกลายเป็นทาสของผู้ให้กู้ ถ้าหนี้ถูกไถ่ถอนทาสที่ได้รับอิสระภาพ
.
แต่ผู้ที่มีพ่อแม่เป็นทาสในครัวเรือน ( ทาสในเรือนเบี้ย ) ถูกผูกไว้เป็นทาสตลอดไป เพราะราคาแลกของพวกเขาสูงมาก

เพราะเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ คนขายเองเป็นทาสในตัวเลขที่ดีและทำให้พวกเขาผลิตจำนวนมากของทาสในครัวเรือน ในพวกเขาคิดเป็นหนึ่งในสามของจำนวนประชากรไทยสมัยโบราณ ใน 1874 ,ประกาศใช้กฎหมายที่จุฬาลงกรณ์ลดลงราคาไถ่ถอนทาสครัวเรือนเกิดใน 1867 ( การขึ้นปี ) และได้ทั้งหมดของพวกเขาเมื่อพวกเขาได้ถึง 21 .

เพิ่งปลดปล่อยทาสจะได้มีเวลาจัดการตัวเองเป็นชาวนาหรือพ่อค้า ดังนั้นพวกเขาจะไม่กลายเป็นผู้ว่างงาน ใน 1905 , เลิกทาสแสดงสิ้นสุดสยามทาสทุกรูปแบบการย้อนกลับของธนบัตร 100 บาทในการไหลเวียนตั้งแต่ปี 2005 ถึงจุฬาลงกรณ์ในกองทัพเรือเครื่องแบบยกเลิกประเพณีทาส

แบบ corv é e ระบบลดลงหลังจากสนธิสัญญาบาวริ่ง ซึ่งให้ขึ้นชั้นใหม่ของใช้แรงงานไม่ได้ควบคุมโดยรัฐบาล ในขณะที่หลายขุนนางยังคงถือแกว่งมากกว่าตัวเลขขนาดใหญ่ของไพรส้มจุฬาลงกรณ์ต้องการการควบคุมที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของแรงงาน เพื่อยกเลิกอำนาจของขุนนาง หลังจากมีการจัดตั้งระบบมณฑล จุฬาลงกรณ์ เริ่มการสำรวจสำมะโนประชากรเพื่อให้ได้สถิติของผู้ชายทั้งหมดของรัฐบาล การกระทำของ 1900 ต้องการคนงานทั้งหมดต้องจ่าย ไม่ได้ถูกบังคับให้ทำงาน