Research has demonstrated that adul

Research has demonstrated that adults spend 40-50% of communication time
listening (Gilman & Moody 1984), but the importance of listening in language
learning has only been recognized relatively recently (Oxford 1993). Although
listening played an important role in classes where English is used as a medium,
students have only chances to listen to repeat and develop a better pronunciation (for
speaking). Beginning in the early 70's, work by Asher, Postovsky, Winitz and, later,
Krashen, brought attention to the role of listening as a tool for understanding and a
key factor in facilitating language learning. Listening has emerged as an important
component in the process of second language acquisition (Feyten, 1991).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่า ผู้ใหญ่ใช้ 40-50% ของเวลาการสื่อสารฟัง (กิลและมูดดี้ 1984), แต่ความสำคัญของการฟังภาษาการเรียนรู้มีเพียงรับรู้ค่อนข้างเร็ว ๆ นี้ (Oxford 1993) ถึงแม้ว่าฟังมีบทบาทสำคัญในชั้นเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางนักเรียนมีโอกาสเพียงเพื่อฟังซ้ำ และการออกเสียงที่ดีกว่า (สำหรับพัฒนาพูด) เริ่มต้นในช่วง 70 ของ ทำงาน โดย Winitz Asher, Postovsky และ ภาย หลังKrashen มาให้ความสำคัญกับบทบาทของการฟังเป็นเครื่องมือสำหรับความเข้าใจและปัจจัยสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการเรียนภาษา ฟังได้กลายเป็นสำคัญส่วนประกอบในกระบวนการซื้อสองภาษา (Feyten, 1991)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ใช้จ่าย 40-50% ของเวลาการสื่อสาร
ฟัง (กิลแมนและ Moody 1984) แต่ความสำคัญของการฟังเพลงในภาษาที่
เรียนรู้ได้รับการยอมรับเพียงค่อนข้างเร็ว ๆ นี้ (ฟอร์ด 1993) แม้ว่า
ฟังมีบทบาทสำคัญในการเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางให้
นักเรียนมีโอกาสเดียวที่จะฟังซ้ำและพัฒนาการออกเสียงที่ดีขึ้น (สำหรับการ
พูด) เริ่มต้นในช่วงต้นยุค 70, การทำงานโดยแอช Postovsky, Winitz และภายหลัง
ครานำความสนใจที่จะมีบทบาทในการฟังเป็นเครื่องมือสำหรับการทำความเข้าใจและการให้
ปัจจัยสำคัญในการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ภาษา ฟังได้กลายเป็นสิ่งสำคัญ
องค์ประกอบในกระบวนการของการเรียนรู้ภาษาที่สอง (Feyten, 1991)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่ใช้เวลา 40-50 % ของเวลาสื่อสารฟังเพลง ( Gilman & Moody 1984 ) แต่ความสำคัญของการฟังภาษาการเรียนรู้มีเพียงได้รับการยอมรับค่อนข้างเร็ว ๆนี้ ( Oxford 1993 ) ถึงแม้ว่าฟังเพลงมีบทบาทสำคัญในการเรียนภาษาอังกฤษที่ใช้เป็นตัวกลางนักเรียนมีโอกาสเดียวที่จะฟังซ้ำ และพัฒนาการออกเสียงที่ดีกว่า ( สำหรับการพูด ) จุดเริ่มต้นในช่วงต้น 70 , ทำงานโดยอาเชอร์ postovsky winitz , และต่อมาkrashen นำความสนใจไปที่บทบาทของการฟังเป็นเครื่องมือสำหรับความเข้าใจและปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษา ฟังแล้วได้เกิดเป็นสำคัญส่วนประกอบในกระบวนการสองภาษา ( feyten , 1991 )