Seat belts are highly effective in

Seat belts are highly effective in protecting vehicle occupants and significantly reducing their risk of being fatally or seriously injuries in a crash. They are designed to work as a key part of a wider occupant restraint system that includes airbags, head restraints, vehicle seats and structure.

The latest seat belts are designed to work as part of the vehicles smart restraint system.

Three point seat belts are most effective, but lap belts nevertheless provide significant levels of protection.

Seat belt laws increase seat belt use, and so reduce death and injury.

Although seatbelt wearing rates are high, not everyone wears a seatbelt all of the time. Seatbelt use in the rear of a vehicle is consistently lower than in the front.

Seatbelt wearing can be improved by increasing positive attitudes towards seatbelt use, rather than relying on fear appeals. The benefits of wearing seatbelts need to be promoted, and the perceived reasons for not wearing seatbelts reduced.

Enhancing positive normative views of seatbelt wearing behaviour may have more impact on an individual’s seatbelt use than increasing their perception of the risk of injury. However, some people intent on taking risks may actively seek to behave in ways that are considered socially undesirable. The normative views of their immediate peers would, therefore, need specific targeting.

As intentions predict behaviour, studies recommended that planning and coping strategies be promoted to help people adhere to their good intentions. Planning and coping strategies may help to embed seatbelt wearing behaviour and thereby form resilient seatbelt wearing habits.

Although an increase in perceived risk of injury or accident seems to have little direct impact on seatbelt wearing behaviour, individuals who reported always wearing their seatbelt also reported significantly higher perceived risk of legal penalty than those who do not always wear a seatbelt.

Visible police enforcement appears to increase both perceived risk of legal penalty and actual seatbelt use. Enhanced enforcement programmes consisting of highly visible and publicised periods of seatbelt law enforcement have been found to increase seatbelt wearing rates and reduce injuries.

It is unclear, however, whether it is the risk of being stopped by the police, or the threat of legal penalties that has the greatest impact. This distinction is important if seatbelt diversion schemes are to be promoted whereby offenders are offered an educational intervention in lieu of a fixed penalty

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เข็มขัดนิรภัยที่มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องผู้ขับขี่และช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นอันตรายถึงชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บสาหัสในความผิดพลาด พวกเขาได้รับการออกแบบให้ทำงานเป็นส่วนสำคัญของระบบความยับยั้งชั่งใจครอบครองกว้างที่มีถุงลมนิรภัย, หมอนรองศีรษะที่นั่งยานพาหนะและโครงสร้าง. ล่าสุดเข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อการทำงานเป็นส่วนหนึ่งของระบบความยับยั้งชั่งใจยานพาหนะสมาร์ท. สามจุดเข็มขัดนิรภัยเป็นส่วนใหญ่ มีประสิทธิภาพ แต่เข็มขัดตักยังคงให้มีระดับที่มีนัยสำคัญของการป้องกัน. กฎหมายเข็มขัดนิรภัยเพิ่มการใช้เข็มขัดนิรภัยและเพื่อลดการเสียชีวิตและการบาดเจ็บ. แม้ว่าอัตราการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยอยู่ในระดับสูงทุกคนไม่สวมเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา การใช้เข็มขัดนิรภัยในด้านหลังของรถคืออย่างต่อเนื่องต่ำกว่าในด้านหน้า. เข็มขัดนิรภัยสวมใส่ได้ดีขึ้นโดยการเพิ่มทัศนคติที่ดีต่อการใช้เข็มขัดนิรภัยแทนที่จะอาศัยความกลัวเกี่ยวกับการอุทธรณ์ ประโยชน์ของการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยจะต้องได้รับการส่งเสริมการรับรู้และเหตุผลในการไม่สวมเข็มขัดนิรภัยที่ลดลง. เพิ่มมุมมองในเชิงบวกเชิงบรรทัดฐานของพฤติกรรมการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยอาจมีผลกระทบมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้เข็มขัดนิรภัยของแต่ละบุคคลมากกว่าการเพิ่มการรับรู้ของความเสี่ยงของการบาดเจ็บ แต่บางคนตั้งใจในการรับความเสี่ยงอย่างแข็งขันอาจต้องการที่จะทำงานในลักษณะที่มีการพิจารณาที่ไม่พึงประสงค์ต่อสังคม มุมมองเชิงบรรทัดฐานของเพื่อนร่วมงานของพวกเขาทันทีจะจึงต้องกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง. ในฐานะที่เป็นความตั้งใจทำนายพฤติกรรมการศึกษาแนะนำว่าการวางแผนและกลวิธีการเผชิญปัญหาได้รับการส่งเสริมที่จะช่วยให้ผู้คนยึดมั่นในความตั้งใจที่ดีของพวกเขา การวางแผนและกลยุทธ์การรับมืออาจช่วยในการฝังพฤติกรรมการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยและด้วยเหตุนั้นในรูปแบบเข็มขัดนิรภัยยืดหยุ่นสวมใส่นิสัย. แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นในการรับรู้ความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุดูเหมือนว่าจะมีผลกระทบโดยตรงเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยบุคคลที่รายงานมักจะสวมใส่เข็มขัดนิรภัยของพวกเขายังมีรายงานอย่างมีนัยสำคัญ ความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการรับรู้โทษทางกฎหมายมากกว่าคนที่ไม่เคยสวมใส่เข็มขัดนิรภัย. การบังคับใช้ตำรวจที่มองเห็นได้ดูเหมือนจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทั้งการรับรู้ของการลงโทษทางกฎหมายและการใช้เข็มขัดนิรภัยที่เกิดขึ้นจริง โปรแกรมการบังคับใช้ที่เพิ่มขึ้นประกอบด้วยระยะเวลาสูงที่มองเห็นและประชาสัมพันธ์การบังคับใช้กฎหมายเข็มขัดนิรภัยได้รับพบว่าเพิ่มอัตราการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยและลดการบาดเจ็บ. มันยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงของการถูกตำรวจหรือภัยคุกคามของการลงโทษตามกฎหมาย ที่มีผลกระทบมากที่สุด ความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญหากแผนการผันเข็มขัดนิรภัยมีการที่จะส่งเสริมโดยผู้กระทำผิดที่มีการเสนอการแทรกแซงการศึกษาแทนการลงโทษคงที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เข็มขัดนิรภัย มีประสิทธิภาพสูงในการปกป้องผู้ครอบครองรถ และลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรือสาหัสจริงๆในความผิดพลาด พวกเขาถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเป็นส่วนหนึ่งของคีย์กว้างขึ้นหรือความยับยั้งชั่งใจระบบที่มีถุงลมนิรภัย หัวเดียวกัน ที่นั่งรถและโครงสร้าง

ล่าสุดเข็มขัดนิรภัยถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเป็นส่วนหนึ่งของยานพาหนะได้

สมาร์ทระบบเข็มขัดนิรภัย 3 จุดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่สายพานตักแต่ให้ความรู้การป้องกัน

เข็มขัดนิรภัยกฎหมายเพิ่มการใช้เข็มขัดนิรภัยและเพื่อลดการเสียชีวิตและบาดเจ็บ

ถึงแม้ว่าคาดเข็มขัดใส่ราคาสูง ทุกคนไม่สวมเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลา เข็มขัดนิรภัยใช้ในด้านหลังของรถอย่างต่อเนื่องกว่า

ในด้านหน้าเข็มขัดนิรภัยสวมใส่สามารถปรับปรุงโดยการเพิ่มทัศนคติที่ดีต่อการใช้เข็มขัดนิรภัย แทนที่จะอาศัยใจกลัว ประโยชน์ของการสวมใส่เข็มขัดนิรภัยจะต้องได้รับการส่งเสริม และการรับรู้เหตุผลที่ไม่สวมเข็มขัดนิรภัยลด

เพิ่มบวกเกี่ยวกับมุมมองของเข็มขัดนิรภัยสวมใส่อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละบุคคล มากกว่าการใช้เข็มขัดนิรภัยมีการรับรู้ความเสี่ยงของการบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม เจตนาบางคนเกี่ยวกับความเสี่ยงอาจจะกระตือรือร้นแสวงหาที่จะประพฤติในทางที่ถือว่าเป็นคนที่สังคมรังเกียจ มุมมองเชิงบรรทัดฐานของเพื่อนของพวกเขาทันทีจึงต้องเจาะจงเป้าหมาย

เจตนาทำนายพฤติกรรม การศึกษาแนะนำว่า การวางแผนและการ เผชิญความเครียด จะส่งเสริมให้คนยึดมั่นในความตั้งใจดีของพวกเขา การวางแผนและกลยุทธ์การรับมืออาจช่วยฝังเข็มขัดนิรภัยสวมเข็มขัดนิรภัยและพฤติกรรมแบบยืดหยุ่นจึงใส่นิสัย

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นในการรับรู้ความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุที่ดูเหมือนจะมีผลกระทบโดยตรงน้อย คาดเข็มขัดใส่พฤติกรรมบุคคลที่รายงานมักจะสวมใส่เข็มขัดนิรภัยของพวกเขายังมีรายงานสูงกว่าการรับรู้ความเสี่ยงของการลงโทษทางกฎหมายมากกว่าผู้ที่ไม่สวมเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง

เห็นตำรวจบังคับใช้จะปรากฏขึ้นเพื่อเพิ่มการรับรู้ความเสี่ยงของการลงโทษทางกฎหมายทั้งจริงและเข็มขัดนิรภัยใช้ . ปรับปรุงโปรแกรมการบังคับใช้ประกอบด้วยปรากฏสูงแจกระยะเวลาของการบังคับใช้กฎหมายเข็มขัดนิรภัยได้พบเพื่อเพิ่มราคาและลดการบาดเจ็บ คาดเข็มขัดใส่

มันไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะมีความเสี่ยงที่จะถูกหยุดโดยตำรวจหรือการคุกคามทางกฎหมายการลงโทษที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ความแตกต่างนี้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคาดเข็มขัดผันแบบแผนการเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งผู้กระทำความผิดจะได้รับการแทรกแซงการศึกษาแทนการแก้ไขบทลงโทษ