3.2. SamplesParticipants of this re

3.2. Samples
Participants of this research are 103 employees from different organizations in Bandung & Jakarta within different industries. To be able to understand the nature of the organization, the standard of 1 year minimum working tenure in the company has been set as one of the criteria to become participants in this research
3.3. Data Analysis and Procedure
To test H1-H4, series of linear regression used to confirm the hypothesized relationship. In the other hands, MRA (moderated regression analysis) also used to test the moderating role of emotional intelligence between perception of organizational politic and organizational commitment (H5).
4. Results
4.1. Respondents Profile
Total numbers of respondents are 103 persons. The gender compositions of respondent in this research are 45% male and 55% female. The education level are mostly bachelor degree (77%), and 23% are holds master degree. Mostly respondents in this research has 2 - 4 years participation in the company (44%), and then followed by those who has around 1-2 years participation in the company (32%), and last those who has more than 4 years participation (24%).
4.2. Validity and Reliability
From all the tests, it was found that all items in the measurements are considered as valid & reliable (all scales’ corrected item-total correlation more than r table = 0.1937).
Perception of Organizational Politic Scale (POPs) by Kacmar & Ferris (1991) was found reliable to use with reliability scale (cronbach alpha) 0.986. Organizational Commitment Questionnaire (OCQ) by Allen & Meyer 1990 also assumed reliable to use with reliability scale (cronbach alpha) 0.992. The Trust scale developed by Podsakoff in
1990 also found reliable to use with reliability scale (cronbach alpha) 0.980. Likewise, Wong and Law Emotional Intelligence Scale (WLEIS) developed by Wong and Law, 2002 also was found as reliable with scale (cronbach alpha) 0.987.
4.3. Hypotheses Testing
Hypothesis 1 – Hypothesis 3 From all the results, it may be inferred that H1 was supported which means the higher the employee’s perception of organizational politic the lower the organizational commitment (sig =0.000 means significant < 0.05, with beta
score = -.338). H2 is also supported, which shows the higher the employee’s perception of organizational politic the lower the employee’s trust to the organization and the leader (sig =0.002 means significant < 0.05, with beta score = -.300). The third hypothesis (H3) was shown as supported which also means that the higher the employee’s trust to the organization, the higher their organizational commitment (sig =0.000 means significant < 0.05, with beta score = -.712).
Hypothesis 4
To see the mediating effect of trust as the predicted mediator variable a regression analysis which included perception of organizational politic and trust was tested to the organizational commitment. From the result it was found that, when the trust variable included in the regression the relation between perception of organizational politic and organizational commitment become insignificant (sig > 0.05 scored at 0.063). This is proved that the
trust variable is able to mediate the relationship between perception of organizational politic and organizational commitment. Thus, it can be inferred that H4 is supported.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.2. ตัวอย่างผู้เข้าร่วมงานวิจัยนี้คือ พนักงาน 103 จากองค์กรต่าง ๆ ในบันดุงและจาการ์ตาภายในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน สามารถเข้าใจธรรมชาติขององค์กร มาตรฐานของ 1 ปีขั้นต่ำทำงานอายุงานในบริษัทได้ถูกตั้งเป็นเงื่อนไขอย่างใดอย่างหนึ่งจะเป็น ผู้เข้าร่วมในงานวิจัยนี้3.3 วิเคราะห์ข้อมูลและกระบวนการทดสอบ H1-H4 ชุดของการถดถอยเชิงเส้นที่ใช้ในการยืนยันความสัมพันธ์ค่า ในอื่น ๆ มือ MRA (วิเคราะห์การถดถอยมีการควบคุม) ยัง ใช้ในการทดสอบบทบาทของความฉลาดทางอารมณ์ระหว่างการรับรู้ของ politic และองค์กรผูกพัน (H5) moderating4. ผลลัพธ์4.1. ผู้ตอบโพรไฟล์จำนวนผู้ตอบทั้งหมดมี 103 คน องค์เพศของผู้ตอบในงานวิจัยนี้มี 45% เพศชายและเพศหญิง 55% ระดับการศึกษามีปริญญาตรีเป็นส่วนใหญ่ (77%), และ 23% ถือหลักปริญญา ส่วนใหญ่ผู้ตอบในงานวิจัยนี้มี 2-4 ปีมีส่วนร่วมในบริษัท (44%), แล้วตาม ด้วยผู้ที่มีรอบการเข้าร่วม 1-2 ปีในบริษัท (32%), และล่าสุดที่มีมากกว่าการมีส่วนร่วม 4 ปี (24%)4.2 การมีผลบังคับใช้และความน่าเชื่อถือจากทั้งหมดการทดสอบ พบว่า สินค้าทั้งหมดในวัดถือว่าเป็นถูกต้อง และเชื่อถือได้ (ทั้งหมดสมดุลแก้ไขรวมสินค้าความสัมพันธ์มากขึ้นกว่าตาราง r = 0.1937)รับรู้ขององค์กร Politic สเกล (POPs) โดย Kacmar & ชิง (1991) พบเชื่อถือได้จะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (cronbach alpha) 0.986 องค์กรมั่นแบบสอบถาม (OCQ) โดยอัลเลนและ Meyer 1990 ยังถือว่าเชื่อถือได้จะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (cronbach alpha) 0.992 ระดับความน่าเชื่อถือที่พัฒนา โดย Podsakoff ในปี 1990 นอกจากนี้ยังพบความน่าเชื่อถือจะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (cronbach alpha) 0.980 ในทำนองเดียวกัน วงและกฎหมายอารมณ์ปัญญาสเกล (WLEIS) พัฒนา โดยวงศ์และกฎหมาย 2002 นอกจากนี้ยังพบที่เชื่อถือได้มาตราส่วน (cronbach alpha) 0.9874.3 การทดสอบสมมุติฐานสมมติฐาน 1 – สมมติฐาน 3 จากทั้งหมดผลลัพธ์ อาจสรุปว่า H1 ได้รับการสนับสนุนซึ่งหมายถึง การสูงกว่าการรับรู้ของพนักงานขององค์กร politic ที่ต่ำกว่าที่ผูกพัน (sig = 0.000 หมายสำคัญ < 0.05 กับเบต้าคะแนน = - 338) H2 ยังสนับสนุน ที่แสดงการรับรู้ของพนักงานสูงกว่าของความน่าเชื่อถือองค์กร politic ที่ต่ำกว่าพนักงานขององค์กรและผู้นำ (sig = 0.002 หมายสำคัญ < 0.05 มีเบต้าคะแนน = - 300) ทฤษฏีสาม (H3) ถูกแสดงตามที่ได้รับการสนับสนุนซึ่งยัง หมายความ ว่า ความน่าเชื่อถือสูงของพนักงานกับองค์กร สูงความมุ่งมั่นขององค์กร (sig = 0.000 หมายสำคัญ < 0.05 มีเบต้าคะแนน =-. 712)สมมติฐาน 4เห็นผล mediating ความไว้วางใจเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่คาดการณ์ตัวแปรวิเคราะห์การถดถอยซึ่งรวมการรับรู้ขององค์กร politic และเชื่อถือได้ทดสอบเพื่อความมุ่งมั่นขององค์กร จากผล พบว่า เมื่อรวมตัวแปรความเชื่อถือในการถดถอยความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ของ politic และองค์กรผูกพันเป็นสำคัญ (sig > 0.05 คะแนนที่ 0.063) นี้เป็นเครื่องพิสูจน์ที่การแทนตัวแปรจะสามารถบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ของ politic และองค์กรผูกพัน ดังนั้น มันสามารถสรุปว่า H4 ได้รับการสนับสนุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.2 ตัวอย่าง
ผู้เข้าร่วมการวิจัยครั้งนี้มี 103 คนจากองค์กรที่แตกต่างกันในบันดุงและจาการ์ตาในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถที่จะเข้าใจธรรมชาติขององค์กรมาตรฐาน 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าการทำงานใน บริษัท ที่ได้รับการกำหนดให้เป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่จะกลายเป็นผู้เข้าร่วมในการวิจัยครั้งนี้
3.3 การวิเคราะห์ข้อมูลและขั้นตอน
ในการทดสอบ H1-H4 ชุดของการถดถอยเชิงเส้นที่ใช้ในการยืนยันความสัมพันธ์ของการตั้งสมมติฐาน ในมืออื่น ๆ ที่ MRA (การวิเคราะห์การถดถอยการตรวจสอบ) นอกจากนี้ยังใช้ในการทดสอบบทบาทดูแลของความฉลาดทางอารมณ์ระหว่างการรับรู้ทางการเมืองขององค์กรและความผูกพันต่อองค์การ (H5)
4 ผลการค้นหา
4.1 ผู้ตอบแบบสอบถามข้อมูล
ตัวเลขรวมของผู้ตอบแบบสอบถามมี 103 คน องค์ประกอบเพศของผู้ตอบแบบสอบถามในการวิจัยครั้งนี้เป็นเพศชายและ 55% 45% หญิง ระดับการศึกษาที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่ (77%) และ 23% จะจบการศึกษาระดับปริญญาโท ผู้ตอบแบบสอบถามในการวิจัยครั้งนี้ส่วนใหญ่มี 2 - การมีส่วนร่วม 4 ปีใน บริษัท (44%) และจากนั้นตามด้วยผู้ที่มีส่วนร่วมในรอบ 1-2 ปีใน บริษัท (32%) และสุดท้ายผู้ที่มีส่วนร่วมมากขึ้นกว่า 4 ปี (24%)
4.2 ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ
จากการทดสอบทั้งหมดมันก็พบว่ารายการทั้งหมดในวัดที่ได้รับการพิจารณาเป็นที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ (แก้ไขความสัมพันธ์ของรายการรวมเครื่องชั่งทุกมากกว่าตาราง r = 0.1937)
การรับรู้ของการเมืองระดับองค์กร (POPs) โดย Kacmar และชิงช้าสวรรค์ (1991) พบว่ามีความน่าเชื่อถือที่จะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (Cronbach alpha) 0.986 ความผูกพันองค์การแบบสอบถาม (OCQ) โดยอัลเลนและเมเยอร์ 1990 ยังถือว่ามีความน่าเชื่อถือที่จะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (Cronbach alpha) 0.992 ระดับความน่าเชื่อถือที่พัฒนาโดย Podsakoff ใน
1990 และยังพบว่ามีความน่าเชื่อถือที่จะใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ (Cronbach alpha) 0.980 ในทำนองเดียวกันวงศ์และระดับความฉลาดทางอารมณ์กฎหมาย (WLEIS) พัฒนาโดยวงศ์กฎหมายและ 2002 นอกจากนี้ยังพบว่าเป็นที่น่าเชื่อถือที่มีขนาด (Cronbach alpha) 0.987
4.3 สมมติฐานการทดสอบ
สมมติฐานที่ 1 - 3 จากสมมติฐานผลลัพธ์ทั้งหมดมันอาจจะเหมาเอาว่า H1 ได้รับการสนับสนุนซึ่งหมายถึงการรับรู้ของพนักงานที่สูงขึ้นของการเมืองขององค์กรความมุ่งมั่นขององค์กร (sig ต่ำ = 0.000 หมายความว่าอย่างมีนัยสำคัญ <0.05 ด้วยเบต้า
คะแนน = - 338) H2 ยังสนับสนุนซึ่งแสดงให้เห็นการรับรู้ของพนักงานที่สูงขึ้นของความไว้วางใจทางการเมืองขององค์กรของพนักงานที่ลดลงกับองค์กรและผู้นำ (sig = 0.002 หมายความว่าอย่างมีนัยสำคัญ <0.05 ด้วยคะแนนเบต้า = -.300) สมมติฐานที่สาม (H3) ก็แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนซึ่งก็หมายความว่าความไว้วางใจการทำงานของพนักงานที่สูงกว่าให้กับองค์กรที่มุ่งมั่นขององค์กรที่สูงขึ้นของพวกเขา (sig = 0.000 หมายความว่าอย่างมีนัยสำคัญ <0.05 ด้วยคะแนนเบต้า = -.712)
สมมติฐาน 4
ในการดู ผล mediating ของความไว้วางใจเป็นตัวแปรสื่อกลางคาดการณ์การวิเคราะห์การถดถอยซึ่งรวมถึงการรับรู้ทางการเมืองขององค์กรและความไว้วางใจที่ได้รับการทดสอบเพื่อความผูกพันต่อองค์การ จากผลการทดลองพบว่าเมื่อตัวแปรความไว้วางใจที่รวมอยู่ในการถดถอยความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ทางการเมืองขององค์กรและความมุ่งมั่นขององค์กรเป็นสำคัญ (sig> 0.05 คะแนนที่ 0.063) นี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่า
ตัวแปรความไว้วางใจสามารถที่จะไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ทางการเมืองขององค์กรและความผูกพันต่อองค์การ ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า H4 ได้รับการสนับสนุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . ตัวอย่าง
ผู้เข้าร่วมของงานวิจัยนี้คือพนักงานจากองค์กรต่าง ๆ& 103 ในบันดุงจาการ์ตา ในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถเข้าใจธรรมชาติขององค์กรมาตรฐานของอย่างน้อย 1 ปีอายุงานในบริษัทได้ถูกตั้งเป็นหนึ่งในเกณฑ์ที่จะเป็นผู้เข้าร่วมในการวิจัย
3.3 . การวิเคราะห์ข้อมูล และขั้นตอนการทดสอบ h1-h4
,ชุดของสมการถดถอยที่ใช้เพื่อยืนยันสมมติฐานความสัมพันธ์ ในมืออื่น ๆ , MRA ( มีการวิเคราะห์การถดถอย ) ยังใช้ในการทดสอบควบคุมบทบาทของเชาวน์อารมณ์ระหว่างการรับรู้องค์การทางการเมืองและความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ ( h5 )
4 ผลลัพธ์
4.1 . ตัวอย่างโปรไฟล์
รวมผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 103 คน- องค์ประกอบของผู้ตอบในการวิจัย คือ ร้อยละ 45 เพศชายและเพศหญิงร้อยละ 55 ระดับการศึกษาส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ( ร้อยละ 77 ) และ 23% จะจบปริญญาโท ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ในงานวิจัยนี้มี 2 - 4 ปี ในการมีส่วนร่วม บริษัท ( ร้อยละ 44 ) และตามด้วยผู้ที่มีการ 1-2 ปี ในบริษัท ( ร้อยละ 32 )และสุดท้าย คนที่ได้มากกว่า 4 ปีมีส่วนร่วม ( 24% ) .
4.2 . ความเที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือ
จากการทดสอบทั้งหมด พบว่า รายการทั้งหมดในวัดถือว่าใช้ได้&ที่เชื่อถือได้ ( เครื่องชั่ง ' แก้ไขรายการทั้งหมด ( r = ตารางมากกว่า
0.1937 )การรับรู้ขององค์การการเมืองแบบ ( ผุด ) โดย kacmar &ชิงช้าสวรรค์ ( 1991 ) พบที่เชื่อถือได้เพื่อใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ ( ความเที่ยง ) 0.986 . แบบสอบถามความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ ( 3 ) ) โดยอัลเลน&เมเยอร์ 1990 ยังถือว่าเชื่อถือได้ เพื่อใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ ( ความเที่ยง ) 0.992 . ความไว้วางใจในระดับที่พัฒนาโดย podsakoff
1990 ยังพบที่เชื่อถือได้เพื่อใช้กับระดับความน่าเชื่อถือ ( ความเที่ยง ) 0.980 . อนึ่ง วอง และ กฎหมายแบบวัดความฉลาดทางอารมณ์ ( wleis ) ที่พัฒนาโดย หว่อง และ กฎหมาย ปี 2002 ก็พบว่าเป็นที่เชื่อถือได้ ด้วยมาตราส่วน ( ความเที่ยง ) 0.987 .
4.3 . สมมติฐานการทดสอบสมมติฐานและสมมติฐาน 1
3 จากผลทั้งหมดมันอาจจะบอกได้ว่า H1 ได้รับการสนับสนุน ซึ่งหมายถึงการรับรู้ของพนักงานที่สูงขึ้นขององค์การการเมืองลดความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การ ( Sig = 0.000 หมายถึงสำคัญ < 0.05 กับเบต้า
คะแนน = . 338 ) แต่ยังได้รับการสนับสนุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการรับรู้ของพนักงานที่สูงขึ้นขององค์การการเมืองลดพนักงานเชื่อถือองค์กรและผู้นำ ( sig = 0002 วิธี ) < 0.05 กับเบต้าคะแนน = . 300 ) สมมุติฐานที่ 3 ( H3 ) คือ แสดง เป็น สนับสนุน ซึ่งก็หมายความว่า ความไว้วางใจของพนักงานที่สูงขึ้นให้กับองค์กร ยิ่งความยึดมั่นผูกพันต่อองค์การของตน ( Sig = 0.000 หมายถึงสำคัญ < 0.05 กับเบต้าคะแนน = . 712 )
4
สมมติฐานเห็นการส่งผ่านผลเชื่อถือและทำนายตัวแปรตัวกลางที่เป็นสมการถดถอยซึ่งรวมถึงการรับรู้ขององค์กรการเมือง เชื่อถูกทดสอบกับความผูกพันต่อองค์การ จากผลการวิจัยพบว่าเมื่อเชื่อตัวแปรที่รวมอยู่ในสมการความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ขององค์กรทางการเมืองและความผูกพันกลายเป็นไม่สำคัญ ( Sig > 0.05 คะแนนที่ 0.063 ) นี้พิสูจน์ให้เห็นว่า
เชื่อตัวแปรสามารถไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้องค์การทางการเมืองและความผูกพัน ดังนั้น จึงสามารถบอกได้ว่า H4
สนับสนุน