AbstractThe opacity of dry films ca

Abstract
The opacity of dry films cast from mixed dispersions of styrene-acrylic latex and amorphous aluminum phosphate particles changes widely, depending on particle concentration and on particle previous drying history. SEM and TEM micrographs from film trimmed surfaces or thin cuts show that particle-latex adhesion is very good, even though the film contains closed voids. Measured values of scattering coefficient calculated from films reflectance using Kubelka–Munk's model were compared to the void numbers and sizes, showing that the observed voids account for film opacity. The most opaque films show contrast ratio equal to 88% and a broad distribution of void sizes, peaking at ca. 650 nm diameter. Film scattering coefficient of the observed voids was calculated using Mie's theory to evaluate their contribution to film opacity showing that the measured and estimated values are in fair agreement. Calculations show that scattering efficiency for 650 nm—diameter air voids trapped within the phosphate particles or resin, that have the same refractive index, is only 20% lower than the calculated values for optimum size rutile particles dispersed in the same resin. Mechanisms for void formation in this system are discussed..

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นามธรรม
ความทึบของฟิล์มแห้งโยนจากฟอสเฟตเปลี่ยนอนุภาคอย่างกว้างขวาง ขึ้นอยู่ กับความเข้มข้นของอนุภาค และอนุภาคแห้งประวัติก่อนหน้า dispersions ของยางอะคริลิสไตรีนอและอลูมิเนียมไปผสม SEM และยการ micrographs จากฟิล์มตัดพื้นผิว หรือตัดบางแสดงว่า ยึดเกาะอนุภาคยางจะดีมาก แม้ว่าฟิล์มประกอบด้วย voids ปิด วัดค่าของสัมประสิทธิ์ scattering ที่คำนวณจากแบบสะท้อนแสงฟิล์มโดยใช้แบบจำลอง Kubelka-Munk ถูกเปรียบเทียบกับหมายเลขยกเลิกและขนาด การแสดงที่บัญชี voids สังเกตสำหรับความทึบของฟิล์ม ภาพยนตร์สุดทึบแสดงอัตราส่วนความคมชัดเท่ากับ 88% และกระจายกว้างขนาดโมฆะ จุดที่ ca. 650 nm เส้นผ่าศูนย์กลาง ฟิล์ม scattering สัมประสิทธิ์ของ voids สังเกตถูกคำนวณโดยใช้ทฤษฎีของมิเอะเพื่อประเมินเงินสมทบของฟิล์มทึบแสดงว่า การวัด และประเมินค่าอยู่ในข้อตกลงที่เป็นธรรม คำนวณแสดงประสิทธิภาพ scattering ที่สำหรับ 650 nm — เส้นผ่านศูนย์กลางอากาศ voids ติดอยู่ภายในอนุภาคฟอสเฟตหรือเรซิน ที่มีดรรชนีหักเหเดียว มีเพียง 20% ที่ต่ำกว่าค่าคำนวณได้สำหรับอนุภาค rutile ขนาดเหมาะสมกระจายในยางเดียวกัน กลไกการก่อตัวที่ยกเลิกในระบบนี้จะกล่าวถึง...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ความทึบของฟิล์มแห้งโยนจากกระจายผสมน้ำยางสไตรีลิคและอลูมิเนียมฟอสเฟตเปลี่ยนแปลงอนุภาคสัณฐานอย่างกว้างขวางขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของอนุภาคและอนุภาคในประวัติศาสตร์การอบแห้งแล้ว SEM และ TEM micrographs จากพื้นผิวฟิล์มตัดหรือตัดบางแสดงให้เห็นว่าอนุภาคน้ำยางยึดเกาะเป็นสิ่งที่ดีมากถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีช่องว่างที่ปิด ค่าที่วัดค่าสัมประสิทธิ์การกระจายของการคำนวณจากภาพยนตร์สะท้อนการใช้รูปแบบ Kubelka-มังค์ถูกเมื่อเทียบกับตัวเลขที่เป็นโมฆะและขนาดแสดงให้เห็นว่าช่องว่างที่สังเกตบัญชีสำหรับฟิล์มทึบ ฟิล์มทึบแสงมากที่สุดแสดงให้เห็นอัตราความคมชัดเท่ากับ 88% และการกระจายในวงกว้างของขนาดโมฆะจุดที่แคลิฟอร์เนีย 650 นาโนเมตรเส้นผ่าศูนย์กลาง ฟิล์มสัมประสิทธิ์การกระเจิงของช่องว่างที่สังเกตที่คำนวณได้โดยใช้ทฤษฎีมิเอะของการประเมินผลงานของพวกเขาที่จะทำทึบแสดงให้เห็นว่าค่าที่วัดและประเมินอยู่ในข้อตกลงที่เป็นธรรม การคำนวณแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการกระจาย 650 นาโนเมตรเส้นผ่าศูนย์กลางช่องว่างอากาศที่ติดอยู่ภายในอนุภาคฟอสเฟตหรือเรซินที่มีดัชนีหักเหเดียวกันเพียง 20% ต่ำกว่าค่าที่คำนวณสำหรับอนุภาคที่เหมาะสม rutile ขนาดแยกย้ายกันไปในเรซินเดียวกัน กลไกสำหรับการสร้างช่องว่างในระบบนี้จะกล่าวถึง ..

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ความทึบของฟิล์มแห้งเสียจากการกระจายของน้ำยางอะคริลิผสมสไตรีนและอะลูมินัมฟอสเฟต amorphous อนุภาคการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวาง ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของอนุภาคและอนุภาคแห้งก่อนประวัติศาสตร์ SEM และกล้องจุลทรรศน์แบบส่องผ่านจากภาพยนตร์ตัดพื้นผิวหรือตัดบางแสดงให้เห็นว่าอนุภาคยางยึดเกาะดีมาก ถึงแม้ว่าภาพยนตร์ที่มีการปิดช่องว่าง .วัดค่าของสัมประสิทธิ์การ คำนวณจากค่าฟิล์มใช้ kubelka –มั๊ง แบบเปรียบเทียบกับความว่างเปล่าจำนวนและขนาดแสดงที่พบช่องว่างบัญชีสำหรับความทึบแสงฟิล์ม ฟิล์มทึบแสงที่สุดแสดงอัตราส่วนความคมชัดเท่ากับ 88% และการแพร่กระจายกว้างของขนาดช่องว่างจุดที่ประมาณ 650 nm เส้นผ่าศูนย์กลางภาพยนตร์ของสัมประสิทธิ์ของสังเกตช่องว่างถูกคำนวณโดยใช้ทฤษฎีของมายด์ เพื่อประเมินผลการมีส่วนร่วมของฟิล์มทึบแสดงว่าการวัดและประมาณค่าจะอยู่ในข้อตกลงที่ยุติธรรม การคำนวณแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของ 650 nm ขนาดช่องว่างอากาศติดอยู่ภายในอนุภาคฟอสเฟต หรือ เรซิน ที่มีดัชนีการหักเหของแสงแบบเดียวกันแค่ 20% ต่ำกว่าที่คำนวณค่าขนาดรูไทล์ อนุภาคกระจายในเม็ดเดียวกัน กลไกการเกิดช่องว่างในระบบนี้มีการกล่าวถึง . . . . . . .