Damage to forests and other aspects

Damage to forests and other aspects of nature could halve living standards for the world's poor and reduce global GDP by about 7% by 2050, a report concluded at the Convention on Biological Diversity (CBD) meeting in Bonn in 2008. Historically, utilization of forest products, including timber and fuel wood, has played a key role in human societies, comparable to the roles of water and cultivable land. Today, developed countries continue to utilize timber for building houses, and wood pulp for paper. In developing countries almost three billion people rely on wood for heating and cooking. dioxide emissions with a range from 6 to 17%.Deforestation causes carbon dioxide to linger in the atmosphere. As carbon dioxide accrues, it produces a layer in the atmosphere that traps radiation from the sun. The radiation converts to heat which causes global warming, which is better known as the greenhouse effect. Plants remove carbon in the form of carbon dioxide from the atmosphere during the process of photosynthesis, but release some carbon dioxide back into the atmosphere during normal respiration. Only when actively growing can a tree or forest remove carbon, by storing it in plant tissues. Both the decay and burning of wood releases much of this stored carbon back to the atmosphere. In order for forests to take up carbon, there must be a net accumulation of wood. One way is for the wood to be harvested and turned into long-lived products, with new young trees replacing them.Deforestation may also cause carbon stores held in soil to be released. Forests can be either sinks or sources depending upon environmental circumstances. Mature forests alternate between being net sinks and net sources of carbon dioxide (see carbon dioxide sink and carbon cycle).
The forest products industry is a large part of the economy in both developed and developing countries. Short-term economic gains made by conversion of forest to agriculture, or over-exploitation of wood products, typically leads to loss of long-term income and long-term biological productivity. West Africa, Madagascar, Southeast Asia and many other regions have experienced lower revenue because of declining timber harvests. Illegal logging causes billions of dollars of losses to national economies annually.
The new procedures to get amounts of wood are causing more harm to the economy and overpower the amount of money spent by people employed in logging. According to a study, "in most areas studied, the various ventures that prompted deforestation rarely generated more than US$5 for every ton of carbon they released and frequently returned far less than US$1". The price on the European market for an offset tied to a one-ton reduction in carbon is 23 euro (about US$35).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเสียหายของป่าไม้และด้านอื่น ๆ ของธรรมชาติสามารถลดคุณภาพชีวิตสำหรับโลกของยากจน และลด GDP โลกประมาณ 7% ภายในปี 2050 รายงานสรุปที่อนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (CBD) ประชุมในบอนน์ใน 2008 ประวัติ การใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ของป่า ไม้ยางพาราและน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในสังคมมนุษย์ เทียบได้กับบทบาทของน้ำและที่ดิน cultivable วันนี้ ประเทศที่พัฒนาแล้วยังใช้ไม้สำหรับสร้างบ้าน และไม้เยื่อกระดาษ ในประเทศกำลังพัฒนา เกือบสามล้านคนพึ่งไม้สำหรับเครื่องทำความร้อน และการปรุงอาหาร เอิร์นส์กับช่วงตั้งแต่ 6 ถึง 17% ตัดไม้ทำลายป่าทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ไปที่อิทธิพลในบรรยากาศ เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น ผลิตชั้นในบรรยากาศที่กับดักรังสีจากดวงอาทิตย์ รังสีที่แปลงเป็นความร้อนซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งรู้จักกันดีเป็นเรือนกระจก พืชเอาคาร์บอนในรูปของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศระหว่างกระบวนการสังเคราะห์แสง แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บางส่วนกลับสู่ชั้นบรรยากาศในระหว่างการหายใจปกติ เมื่อเติบโตขึ้นอย่างแข็งขันสามารถ ต้นไม้หรือป่าเอาคาร์บอน โดยเก็บในเนื้อเยื่อพืช ทั้งการสลายและเผาไหม้ของไม้ออกมากของคาร์บอนนี้เก็บไว้ไปในบรรยากาศ เพื่อให้ป่าจะใช้คาร์บอน ต้องมีการสะสมสุทธิของไม้ วิธีหนึ่งคือสำหรับไม้ที่จะเก็บเกี่ยว และกลายเป็นผลิตภัณฑ์ระยะยาว ต้นหนุ่มใหม่แทนพวกเขา ตัดไม้ทำลายป่าอาจทำให้เกิดการค้าคาร์บอนในดินที่จะออก ป่าอาจเป็นอ่างหรือแหล่งที่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ป่าผู้ใหญ่สลับระหว่างการเก็บสุทธิสุทธิแหล่งที่มาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ดูระบายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และวัฏจักรคาร์บอน)The forest products industry is a large part of the economy in both developed and developing countries. Short-term economic gains made by conversion of forest to agriculture, or over-exploitation of wood products, typically leads to loss of long-term income and long-term biological productivity. West Africa, Madagascar, Southeast Asia and many other regions have experienced lower revenue because of declining timber harvests. Illegal logging causes billions of dollars of losses to national economies annually.The new procedures to get amounts of wood are causing more harm to the economy and overpower the amount of money spent by people employed in logging. According to a study, "in most areas studied, the various ventures that prompted deforestation rarely generated more than US$5 for every ton of carbon they released and frequently returned far less than US$1". The price on the European market for an offset tied to a one-ton reduction in carbon is 23 euro (about US$35).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเสียหายให้กับป่าไม้และด้านอื่น ๆ ของธรรมชาติจะลดลงครึ่งหนึ่งมาตรฐานสำหรับ GDP ของโลกที่ยากจนและลดของโลกที่อาศัยอยู่โดยประมาณ 7% ภายในปี 2050 รายงานสรุปในการประชุมความหลากหลายทางชีวภาพ (CBD) การประชุมในกรุงบอนน์ในปี 2008 ในอดีตการใช้ประโยชน์จากป่า ผลิตภัณฑ์รวมถึงไม้และไม้เชื้อเพลิงมีบทบาทสำคัญในสังคมมนุษย์เปรียบได้กับบทบาทของน้ำและที่ดินเพาะปลูก วันนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วยังคงใช้ไม้สร้างบ้านและเยื่อไม้กระดาษ ในประเทศกำลังพัฒนาเกือบสามพันล้านคนพึ่งพาไม้เพื่อให้ความร้อนและการปรุงอาหาร การปล่อยก๊าซที่มีช่วง 6-17% .Deforestation ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่ออิทธิพลในบรรยากาศ ในฐานะที่เป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิดขึ้นจะผลิตชั้นในบรรยากาศที่ดักรังสีจากดวงอาทิตย์ รังสีจะแปลงไปเป็นความร้อนที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะภาวะเรือนกระจก พืชลบคาร์บอนในรูปแบบของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศในระหว่างขั้นตอนของการสังเคราะห์ แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บางส่วนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศในระหว่างการหายใจปกติ เฉพาะเมื่อเติบโตอย่างแข็งขันต้นไม้หรือป่าสามารถลบคาร์บอนโดยเก็บไว้ในเนื้อเยื่อพืช ทั้งการสลายตัวและการเผาไหม้ของการเผยแพร่ไม้มากของคาร์บอนที่เก็บไว้นี้กลับมาสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อให้ป่าจะใช้คาร์บอนจะต้องมีการสะสมสุทธิจากไม้ วิธีหนึ่งคือไม้ที่จะเก็บเกี่ยวและกลายเป็นผลิตภัณฑ์ระยะยาวกับต้นไม้เล็กแทน them.Deforestation ยังอาจทำให้เกิดคาร์บอนร้านค้าที่จัดขึ้นในดินที่จะได้รับการปล่อยตัว ป่าไม้สามารถเป็นได้ทั้งอ่างล้างมือหรือแหล่งที่มาขึ้นอยู่กับสถานการณ์สิ่งแวดล้อม ป่าผู้ใหญ่สลับระหว่างการเป็นอ่างล้างมือสุทธิสุทธิและแหล่งที่มาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ดูอ่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และวัฏจักรคาร์บอน)
อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์จากป่าไม้เป็นส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ระยะสั้นกำไรทางเศรษฐกิจที่ทำโดยการแปลงของป่าเพื่อการเกษตรหรือมากกว่าการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ไม้มักจะนำไปสู่การสูญเสียรายได้ในระยะยาวและผลผลิตทางชีวภาพในระยะยาว แอฟริกาตะวันตกมาดากัสการ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และภูมิภาคอื่น ๆ อีกมากมายมีประสบการณ์รายได้ลดลงเนื่องจากการลดลงของการเก็บเกี่ยวไม้ ทำให้เกิดการลักลอบตัดไม้พันล้านดอลลาร์ของสูญเสียให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นประจำทุกปี
ขั้นตอนใหม่ในการรับปริมาณของไม้จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเศรษฐกิจและเอาชนะจำนวนเงินที่ใช้โดยคนที่ใช้ในการเข้าสู่ระบบ ตามการศึกษา "ในพื้นที่ส่วนใหญ่มีการศึกษาในกิจการต่าง ๆ ที่ได้รับแจ้งการทำลายป่าไม่ค่อยสร้างมากกว่า 5 $ สหรัฐต่อตันของคาร์บอนพวกเขาก็ปล่อยทุกและบ่อยครั้งกลับน้อยกว่า US $ 1" ราคาในตลาดยุโรปเพื่อชดเชยเชื่อมโยงกับการลดลงหนึ่งตันคาร์บอน 23 ยูโร (ประมาณ US $ 35)