Van Krevelen diagrams are graphical

Van Krevelen diagrams are graphical plots developed by Dirk Willem van Krevelen (chemist and professor of fuel technology at the TU Delft) and used to assess the origin and maturity of kerogen and petroleum. The diagram cross-plots the hydrogen:carbon (hydrogen index) as a function of the oxygen:carbon (oxygen index) atomic ratios of carbon compounds.
Different kinds of organic matter are more likely to produce oil during thermocatalytic maturation than other types: Algae, type 1, H-rich, O-poor, tend to make good oils. Trees and other woody vegetation are made of type 3 organic matter, O-rich, H-poor, and are sources of coal and gas. This diagram is mostly used for differentiating different types of kerogen.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รถตู้ Krevelen ไดอะแกรมมีกราฟิกแปลงพัฒนา โดยเดิร์ Willem van Krevelen (เภสัชกรและอาจารย์ของเทคโนโลยีน้ำมันเชื้อเพลิงที่ TU Delft) และใช้ในการประเมินต้นกำเนิดและอายุของเคโรเจนและปิโตรเลียม แผนภาพข้ามแปลงไฮโดรเจน: คาร์บอน (ดัชนีไฮโดรเจน) เป็นฟังก์ชันของอัตราอะตอม (ดัชนีออกซิเจน) ออกซิเจน: คาร์บอนของสารประกอบคาร์บอนชนิดอินทรีย์มีแนวโน้มในการผลิตน้ำมันในระหว่างการเจริญเติบโต thermocatalytic กว่าชนิดอื่น ๆ: สาหร่าย พิมพ์ 1 อุดม ด้วย H, O-ยากจน มีแนวโน้มจะ ทำให้น้ำมันที่ดี ต้นไม้และพืชอื่น ๆ วู๊ดดี้ทำชนิด อินทรีย์ 3 สสาร อุดม ด้วย O, H-ยากจน และเป็นแหล่งถ่านหินและก๊าซ แผนภาพนี้ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับแตกต่างชนิดของเคโรเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผนภาพแวน Krevelen เป็นแปลงกราฟิกที่พัฒนาโดยเดิร์ควิลเล็มรถตู้ Krevelen (นักเคมีและอาจารย์ของเทคโนโลยีเชื้อเพลิงที่ TU Delft) และใช้ในการประเมินที่มาและครบกำหนดของเคโรเจนและปิโตรเลียม แผนภาพแปลงข้ามไฮโดรเจนคาร์บอน (ดัชนีไฮโดรเจน) เป็นหน้าที่ของออกซิเจน. คาร์บอนมอนอกไซด์ (ดัชนีออกซิเจน) อัตราส่วนอะตอมของสารประกอบคาร์บอน
ชนิดที่แตกต่างกันของสารอินทรีย์มีแนวโน้มที่จะผลิตน้ำมันในช่วงการเจริญเติบโต thermocatalytic กว่าชนิดอื่น ๆ : สาหร่าย ชนิด 1 H-ที่อุดมไปด้วย O-ยากจนมีแนวโน้มที่จะทำให้น้ำมันที่ดี ต้นไม้ยืนต้นและพืชผักอื่น ๆ ที่ทำจาก 3 ประเภทสารอินทรีย์ O-ที่อุดมไปด้วย H-ยากจนและเป็นที่มาของถ่านหินและก๊าซ แผนภาพนี้ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับความแตกต่างของความแตกต่างของเคโรเจน