on the diet of the dodo are based m

on the diet of the dodo are based mainly on speculation. Some sailors' accounts talk of watching dodos wade into water-pools to catch fish. They have been described as "strong and greedy" hunters. What really fascinated the visitors to Mauritius, however, was the fact that dodos seemed to eat stones and iron frequently and with no trouble. It is now surmised that the rocks eased digestion. The dodo did eat seeds and fruits.
Stanley Temple, a University of Wisconsin ornithologist, hypothesized that the extinction of the dodo was responsible for the near extinction of the tambalacoque or calvaria tree (Sideroxylon grandiflorum, formerly Calvaria major). He proposed that dodo and tambalacoque represented an obligation animal-plant mutualism in which the tambalacoque seeds had to pass through the dodo digestive system before they could germinate. Temple assumed the tambalacoque's fruit, with its thick and hard endocarp, would mechanically prevent germination unless worn down by the dodo digestive system. He drafted a flock of turkeys to serve in a germination experiment. Of the seventeen tambalacoque pits he force-fed to the turkeys, his dodo-substitute, only three germinated. Temple also claimed that no tambalacoque trees were less than 300 years old, but had no data to support that other than second-hand estimates. Tambalacoque trees have no annual rings so their age is not easy to determine. Temple published in a very prestigious journal that gave his appealing hypothesis added credibility and widespread attention. The hypothesis has been widely adopted as fact by many biology books and webpages as an example of an obligate animal-plant mutualism. If his hypothesis was true, it would be a good example of the consequences of the extinction of a species in an ecosystem.
After his publication several scientists have rebutted Temple's hypothesis. There exist tambalacoque trees in the wild on Mauritius that are less than 300 years old. There were also not 13 trees left in 1973 as he claimed, but several hundred. The decline in the tambalacoque population has been caused by other factors such as large-scare deforestation, destruction of seeds by fungal diseases, and introduced plants and animals. Temple also overlooked reports on tambalacoque seed germination by Hill (1941) and King (1946), who found the seeds germinated without abrading. Tambalacoque is analogous to Peach. Both have a hard endocarp, surrounding the seed but the endocarp naturally splits along a fracture line during germination. Temple made a fundamental error by not having a control treatment of uneaten pits in his germination experiment with turkeys. It is now also known that tambalacoque seeds do germinate naturally without the dodo and without artificially abrading the endocarp. While dodos may have eaten tambalacoque fruits, there is no solid evidence they did. Nor is there solid evidence that the dodo was absolutely required for seed germination. This was a great story when it was first reported in the early 1970's, but it was proven to be false.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในอาหารของโดโด้ที่งานหลักในการเก็งกำไร บัญชีเรือบางพูดอย่างดู dodos ลุยเข้าไปในสระน้ำเพื่อจับปลา พวกเขาได้ถูกอธิบายไว้เป็นนายพราน "แข็งแกร่ง และตะกละ" อย่างไรก็ตาม สิ่งหลงเยือนสาธารณรัฐมอริเชียส เป็นความจริงที่ประจักษ์ dodos กินหินและเหล็กบ่อย ๆ และ มีปัญหาไม่ ตอนนี้มันมี surmised ว่า หินบรรเทาได้ย่อยอาหาร เซลได้กินเมล็ดพืชและผลไม้สแตนลีย์วัด ornithologist ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ตั้งสมมติฐานว่าว่า การสูญพันธุ์ของโดโด้ไม่รับผิดชอบการดับใกล้ tambalacoque หรือ calvaria ต้นไม้ (Sideroxylon grandiflorum, Calvaria หลักเดิม) เขาเสนอว่า โดโด้และ tambalacoque แสดง mutualism สัตว์พืชมีข้อผูกมัดที่เมล็ด tambalacoque ได้ผ่านระบบการย่อยอาหารเซลก่อนที่พวกเขาสามารถ germinate สันนิษฐานของ tambalacoque ผลไม้ มี endocarp หนา และหนัก วัดจะกลไกป้องกันการงอกถ้าสวมใส่ลง โดยระบบย่อยอาหารของโดโด้ เขาร่างฝูงไก่งวงเพื่อทดลองการงอก ของหลุม tambalacoque 17 ที่เขา force-fed กับไก่งวง เขาอาร์ทดแทน สามเฉพาะเปลือกงอก วัดอ้างว่า ต้นไม้ไม่ tambalacoque ไม่น้อยกว่า 300 ปี แต่ก็ไม่มีข้อมูลสนับสนุนที่ไม่ใช่มือสองประเมิน Tambalacoque ต้นไม้มีแหวนไม่ประจำปีเพื่อให้อายุของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายในการกำหนด วัดที่ตีพิมพ์ในสมุดรายวันอันทรงเกียรติมากที่ให้สมมติฐานของเขาน่าสนใจที่เพิ่มความน่าเชื่อถือและความสนใจอย่างแพร่หลาย ทฤษฏีได้รับอย่างกว้างขวางเป็นความจริง โดยในหนังสือชีววิทยาและเว็บเพจเป็นตัวอย่างของ mutualism เป็นสัตว์พืช obligate ถึง ถ้าสมมติฐานของเขาเป็นจริง มันจะเป็นตัวอย่างที่ดีของผลกระทบของการสูญพันธุ์ของชนิดในระบบนิเวศการ หลังจากประกาศของ นักวิทยาศาสตร์หลายมี rebutted สมมติฐานของวัด มีต้นไม้ tambalacoque พิศวงในมอริเชียสที่น้อยกว่า 300 ปี มียังไม่ 13 ต้นไม้ซ้ายใน 1973 อ้างว่า แต่หลายร้อย การลดลงของประชากร tambalacoque ได้รับเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่นการทำลายป่าขนาดใหญ่แผล ทำลายเมล็ด โรคเชื้อรา และนำพืช และสัตว์ วัดยังข้ามรายงานในการงอกเมล็ด tambalacoque ฮิลล์ (1941) และกษัตริย์ (1946) ที่ได้พบเมล็ดพืชเปลือกงอก โดย abrading Tambalacoque จะคล้ายคลึงกับพีช ทั้งสองมี endocarp ยาก รอบเมล็ด แต่ endocarp ธรรมชาติแยกตามรายการหักในระหว่างการงอก วัดทำความผิดพลาดพื้นฐาน โดยไม่มีการรักษาควบคุมของหลุม uneaten ทดลองการงอกของเขากับไก่งวง เป็นตอนนี้ที่รู้จักว่า tambalacoque เมล็ด germinate ธรรมชาติเซล และ ไม่เหือด abrading endocarp ในขณะที่ dodos อาจกินผลไม้ tambalacoque ไม่แข็งไม่ ไม่มีหลักฐานมั่นคงว่า เซลที่ไม่จำเป็นจริง ๆ สำหรับการงอกของเมล็ดพืช นี่คือเรื่องราวที่ดีเมื่อมันเป็นรายงานแรกในสมุย แต่มันถูกพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในอาหารของนกโดโดจะขึ้นอยู่ส่วนใหญ่ในการเก็งกำไร บางคนลูกเรือ 'พูดคุยของการดู Dodos ลุยลงไปในน้ำสระว่ายน้ำที่จะจับปลา พวกเขาได้รับการอธิบายว่า "ที่แข็งแกร่งและความโลภ" นักล่า สิ่งที่หลงใหลจริงๆผู้เข้าชมในมอริเชียส แต่เป็นความจริงที่ว่า Dodos ดูเหมือนจะกินหินและเหล็กบ่อยครั้งและมีปัญหาไม่ คือตอนนี้สันนิษฐานว่าก้อนหินปลดเปลื้องการย่อยอาหาร โดโด้ไม่กินเมล็ดพืชและผลไม้.
สแตนลี่ย์วัดมหาวิทยาลัยวิสคอนซินวิหค, การตั้งสมมติฐานว่าการสูญพันธุ์ของนกโดโดเป็นผู้รับผิดชอบการใกล้สูญพันธุ์ของต้นไม้ tambalacoque หรือ Calvaria (sideroxylon grandiflorum ก่อน Calvaria หลัก) เขาเสนอว่านกโดโดและ tambalacoque แสดง mutualism ภาระผูกพันสัตว์พืชซึ่งในเมล็ด tambalacoque ต้องผ่านระบบการย่อยอาหารนกโดโดก่อนที่พวกเขาจะได้งอก วัดสันนิษฐานว่าผลไม้ของ tambalacoque กับเอนโดหนาและแข็งของกลไกจะป้องกันไม่ให้งอกเว้นแต่หมดลงระบบย่อยอาหารของนกโดโด เขาร่างฝูงไก่งวงที่จะให้บริการในการทดลองการงอก ของเจ็ดหลุม tambalacoque เขาบังคับเลี้ยงไก่งวง, นกโดโดทดแทนของเขาเพียงสามงอก วัดยังอ้างว่าไม่มีต้นไม้ tambalacoque น้อยกว่า 300 ปี แต่มีข้อมูลที่จะสนับสนุนที่อื่น ๆ กว่าคาดการณ์ของมือสอง ต้นไม้ Tambalacoque ไม่มีแหวนประจำปีเพื่อให้อายุของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตรวจสอบ วัดการตีพิมพ์ในวารสารที่มีชื่อเสียงมากที่ให้สมมติฐานที่น่าสนใจของเขาเพิ่มความน่าเชื่อถือและความสนใจอย่างกว้างขวาง สมมติฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นความจริงโดยหนังสือชีววิทยาจำนวนมากและหน้าเว็บเป็นตัวอย่างของ mutualism สัตว์พืชภาระ ถ้าสมมติฐานของเขาเป็นจริงมันจะเป็นตัวอย่างที่ดีของผลกระทบจากการสูญพันธุ์ของสายพันธุ์ในระบบนิเวศ.
หลังจากการประกาศของเขานักวิทยาศาสตร์หลายคนได้ rebutted สมมติฐานของวัด มีต้นไม้ tambalacoque ในป่าในมอริเชียสอยู่ที่น้อยกว่า 300 ปี นอกจากนั้นยังมีไม่ได้ 13 ต้นที่เหลือในปี 1973 ในขณะที่เขาอ้าง แต่หลายร้อย การลดลงของประชากร tambalacoque ได้รับเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่นการตัดไม้ทำลายป่าขนาดใหญ่ที่ทำให้ตกใจทำลายเมล็ดโดยโรคเชื้อราและแนะนำพืชและสัตว์ วัดยังมองข้ามรายงานเกี่ยวกับการงอกของเมล็ด tambalacoque โดยฮิลล์ (1941) และพระมหากษัตริย์ (1946) ซึ่งพบว่าเมล็ดงอกได้โดยไม่ต้องขูดขีด Tambalacoque จะคล้ายคลึงกับพีช ทั้งสองมี endocarp หนักรอบเมล็ด แต่ endocarp ธรรมชาติแยกตามแนวแตกหักในระหว่างการงอก วัดทำข้อผิดพลาดพื้นฐานโดยไม่ต้องรักษาการควบคุมของหลุมกะหรี่ในการทดลองการงอกของเขากับไก่งวง ตอนนี้มันเป็นที่รู้จักกันว่าเมล็ดไม่งอก tambalacoque ธรรมชาติโดยไม่ต้องนกโดโดและไม่มีเทียม abrading endocarp ในขณะที่ Dodos อาจจะกินผลไม้ tambalacoque ไม่มีหลักฐานที่มั่นคงที่พวกเขาทำ หรือมีหลักฐานที่มั่นคงว่านกโดโดได้รับการจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการงอกของเมล็ด นี่เป็นเรื่องที่ดีเมื่อมีรายงานครั้งแรกในช่วงต้นปี 1970 แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอาหารของโดโด้เป็นตามหลักในการคาดการณ์ บางบัญชีลูกเรือพูดชมโดโด้ลุยลงไปในน้ำสระว่ายน้ำเพื่อจับปลา พวกเขาได้รับการอธิบายว่า " แข็งแรงและโลภ " นักล่า จริงๆสิ่งที่ทำให้ผู้เยี่ยมชมมอริเชียส , อย่างไรก็ตาม , เป็นความจริงที่ว่าโดโด้ดูเหมือนจะกินหินและเหล็กที่พบบ่อยและมีปัญหาไม่มี คือตอนนี้สันนิษฐานว่าหินบรรเทาการย่อยอาหารโดโดทำกินเมล็ดพืชและผลไม้
สแตนลี่ย์ วัด มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน นักนักปักษาวิทยา ตั้งสมมติฐานว่า การสูญพันธุ์ของโดโด้เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการสูญเสียของ tambalacoque ใกล้หรือ calvaria ต้นไม้ ( sideroxylon Grandiflorum เดิม calvaria สาขา )เขาเสนอว่าโดโด้ tambalacoque แทนและพืชสัตว์ผูกพันซึ่งกันและกันซึ่งใน tambalacoque เมล็ดต้องผ่านโดโด้ ระบบย่อยอาหาร ก่อนที่พวกเขาจะงอก วัดถือว่าเป็น tambalacoque ผลไม้มีความหนาและแข็งและเนื้อติด endocarp , กลไกป้องกันการงอก ถ้าทรุดลงโดยไม่มีปัญหาระบบขับถ่ายเค้าร่างฝูงไก่งวงที่ให้บริการในการทดลอง ของ 17 tambalacoque หลุมเขาบังคับเลี้ยงไก่งวงของเขา โดโด้แทนเพียงสามงอก . วัดยังอ้างว่าไม่มีต้นไม้ tambalacoque กว่า 300 ปี แต่ไม่มีข้อมูลสนับสนุนที่มากกว่าประมาณการ มือสอง tambalacoque ต้นไม้ไม่มีวงปี ดังนั้นอายุของพวกเขาไม่ง่ายที่จะกำหนดวัดที่ตีพิมพ์ในวารสารที่มีชื่อเสียงมากที่ให้เขาดูด สมมติฐาน เพิ่มเงิน มีความสนใจ สมมติฐานที่ได้รับการใช้อย่างกว้างขวางเป็นข้อเท็จจริงจากหนังสือชีววิทยาหลายเว็บเพจตามตัวอย่างของผูกมัดซึ่งกันและกัน พืช สัตว์ ถ้าสมมติฐานของเขาเป็นจริง มันก็จะเป็นตัวอย่างที่ดีของผลของการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ในระบบนิเวศ
หลังจากเขาประกาศนักวิทยาศาสตร์หลายท่านได้ rebutted สมมติฐานวัด . มี tambalacoque ต้นไม้ในป่าในมอริเชียสที่น้อยกว่า 300 ปี มียังไม่ 13 ต้นไม้ซ้ายใน 1973 ตามที่เขาอ้าง แต่หลายร้อย ลดลงใน tambalacoque ประชากรได้รับจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การตัดไม้ทำลายป่า ตกใจใหญ่ การทำลายของเมล็ดโดยเชื้อราโรคและแนะนำพืชและสัตว์ วัดยังมองข้ามรายงานเกี่ยวกับการงอกของเมล็ด tambalacoque โดยฮิลล์ ( 1941 ) และพระมหากษัตริย์ ( 1946 ) , ที่พบว่าเมล็ดงอกโดย abrading . tambalacoque เทียบกับพีช ทั้งมีเมล็ดและเนื้อติด endocarp แข็ง โดยแต่และเนื้อติด endocarp ธรรมชาติแยกตามสายการแตกหักระหว่างการงอกวัดสร้างข้อผิดพลาดพื้นฐานโดยไม่มีการควบคุมการรักษาหลุม uneaten ในการทดลองการงอกของเขากับไก่งวง คือตอนนี้ยังเรียกว่า เมล็ด tambalacoque ทำงอกตามธรรมชาติโดยไม่ต้องสูญสิ้นและโดยไม่ตั้งใจ abrading และเนื้อติด endocarp . ในขณะที่โดโด้อาจกินผลไม้ tambalacoque ไม่มีหลักฐาน พวกเขาทำหรือมีหลักฐานว่าโดโด้เป็นอย่างที่จำเป็นสำหรับการงอกของเมล็ด นี้เป็นข่าวที่ดีเมื่อมันถูกรายงานครั้งแรกในช่วงต้นปี 1970 , แต่มันก็พิสูจน์แล้วว่าเป็นเท็จ