จากการที่ฉันได้อ่านบทความจากหลายๆๆแหล่งที่มา ทำให้ได้รู้ว่าคำว่า ผู้นำ กับ ผู้จักการ นั้นไม่ได้แบ่งแยกตามหน้าที่เหมือนที่เข้าใจตั้งแต่ต้น แต่คำสองคำนี้เป็นที่แสดงถึงคนที่เป็น ผู้นำนั้นย่อมต้องมี สองคำนี้อยู่ในตัวเสมอถึงจะเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพได้ แต่การจะทำให้สองคำนี้อยู่ในตัวเรานั้นยากแน่นอน เพราะ“หัวหน้า” คือ คำหรือตำแหน่งที่ใช้เรียกคนที่เราต้องทำงานภายใต้การควบคุมของเขา ถ้าเป็นคำไทยๆ
ก็คือ “เจ้านาย” นั่นเอง แต่ในคำว่าหัวหน้าหรือเจ้านาย ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกัน ครั้งนี้เราจะพูดถึงหัวหน้า 2 ประเภท
ประเภทแรก เรียกว่า Manager ซึ่งก็คือ ผู้จัดการ หัวหน้าแบบนี้คือ ผู้ที่ทำหน้าที่จัดการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามจุดหมายของงานที่ตั้งไว้ แมเนเจอร์จะเน้นที่ตัวงานเป็นสำคัญ อะไรจะเกิดขึ้นไม่เป็นไร ขอให้งานลุล่วงสำเร็จเรียบร้อยตามเป้าหมายเป็นพอ ไม่ยอมให้งานผิดพลาดเด็ดขาด คือ มุ่งพัฒนาตัวเนื้องาน เป็นหลัก
ประเภทที่สอง เรียกว่า Leadership คือ หัวหน้าที่มีภาวะความเป็นผู้นำอยู่ในตัวสูง ให้ความสำคัญกับการทำงานระหว่างผู้คน ช่วยดึงศักยภาพของผู้อื่นให้ออกมาใช้อย่างเต็มที่ ให้โอกาสในการตัดสินใจ ไม่ออกคำสั่งเพื่อให้ทำตาม จนมีคำกล่าวว่า ผู้นำก็คือคนที่พยายามทำให้ผู้ตามกลายมาเป็นผู้นำคนต่อไป ยินยอมให้งานผิดพลาดได้ ในขณะที่คนทำงานได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น คือ มุ่งพัฒนาขีดความสามารถของคน เป็นหลัก
ฉะนั้นแล้ว หัวหน้าบางคนอาจทำงานเก่งเรื่องจัดการงานต่างๆ ได้ดี แต่ไม่มีความเป็นผู้นำอยู่ในตัว ไม่มีคนเคารพเชื่อฟัง ไม่ได้ใจลูกน้องหรือทีมงาน ซึ่งตรงข้ามกับคนทำงานบางคนที่อาจไม่ใช่ระดับหัวหน้างาน แต่มีภาวะผู้นำอยู่ในตัว จะพูดหรือ จะทำอะไรก็มักจะมีคนเชื่อฟังสนับสนุนพร้อมทำตามอย่างเต็มใจ แม้จะทำงานระดับเท่ากัน แต่อาจให้ความเคารพเชื่อฟังมากกว่าหัวหน้าของตนเองเสียอีก
พูดอีกแบบให้ง่ายขึ้นก็คือ คนที่เป็นระดับ Manager ทุกคนไม่ได้หมายความว่าจะเป็น Leader ที่ดีได้เสมอไป แต่คนระดับต่ำกว่า Manager บางคนสามารถเป็น Leader ที่ดีได้ ความเป็น ผู้นำ กับ ผู้จัดการหัวหน้างาน จึงเป็นคนละเรื่องนั่นเอง ลองสำรวจตัวเองว่าคุณมีความเป็น Manager หรือ Leader มากกว่ากัน ถ้ามีทั้งสองอย่างต้องฉันคิดว่าตัวเรานั้นจะประสิทธิภาพที่ดีมากเลยค่ะ