Example 5.14.7 To extract substring

Example 5.14.7 To extract substrings of strings is we can use the functionsubstr. To call this function we need to use the following syntax:substr(string, integer [,integer ])A typical call such as substr(s, n,m) will return a the substring of length mof the string s that starts with the nth characater of s. If m is omitted, asin substr(s, n), then the function returns all charaters of s starting from thenth character to the end of s. If n is negative, then the characters are counted backwards from the end of s. The select phrase

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวอย่าง 5.14.7 แยก substrings ของสตริงการคือ เราสามารถใช้ functionsubstr การเรียกฟังก์ชันนี้เราจำเป็นต้องใช้การต่อไปนี้ไวยากรณ์: substr(string, integer [,integer]) A ปกติ โทรเช่น substr (s, m n ) จะกลับมาเป็นด้วยของกระทรวงความยาว s สายที่เริ่มต้น ด้วยอักขระที่ของ s ถ้าไม่ใส่ m แมน substr (s, n), แล้วฟังก์ชันคืน charaters ทั้งหมดของ s ที่เริ่มต้นจากอักขระ thenth ของ s ถ้า n เป็นค่าลบ แล้วตัวจะนับย้อนหลังจากสิ้นสุดของ s วลีเลือก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวอย่าง 5.14.7 ต้องการแยกสตริงของสตริงคือเราสามารถใช้ functionsubstr ที่จะเรียกฟังก์ชั่นนี้เราจำเป็นต้องใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้: substr (สตริงจำนวนเต็ม [จำนวนเต็ม]) โทรทั่วไปเช่น substr (s, N, M) จะกลับมาย่อยของความยาวตกสตริง s ที่เริ่มต้นด้วย characater n ของ S หากเมตรถูกละไว้มิดชิด substr (s, n) แล้วฟังก์ชันส่งกลับ charaters ทั้งหมดของ S เริ่มต้นจากตัวอักษร thenth ถึงจุดสิ้นสุดของ s ถ้า n เป็นเชิงลบจากนั้นตัวละครจะถูกนับถอยหลังจากจุดสิ้นสุดของ s วลีเลือก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่าง 5.14.7 แยกสตริงเป็นสตริงย่อยเราสามารถใช้ functionsubstr . เพื่อเรียกใช้ฟังก์ชันนี้ เราจะต้องใช้ไวยากรณ์ต่อไปนี้ : substr ( สตริง , จำนวนเต็มจำนวนเต็ม [ , ] ) โทรศัพท์ทั่วไปเช่น substr ( S , N , M ) จะส่งกลับเป็นข้อความของความยาว 9 สายที่เริ่มต้นด้วยการแลก characater S . ถ้า m เป็นละเว้น , เกลือ substr ( s , n )แล้วส่งกลับฟังก์ชันทุกลักษณะ ของเริ่มจาก thenth ตัวละครไปยังจุดสิ้นสุดของ S . ถ้า n มีค่าเป็นลบ แล้วตัวละครจะนับย้อนหลังจากจุดสิ้นสุดของ S . เลือกวลี