Fossil fuel combustion also consume

Fossil fuel combustion also consumes oxygen and as a result of fossil fuel use, the oxygen content of the atmosphere is slowly declining. Between 1989 and 1994, the oxygen content of the atmosphere dropped at an annual rate of 2 ppm out of 210,000 ppm (Broecker 1996). Thus, reducing fossil fuel use in the management of urban forests not only reduces emission of carbon dioxide, but also the consumption of oxygen. If fossil fuels are consistently used to maintain an urban forest, the net effect of the forest and its management will be carbon dioxide production and oxygen consumption. The point in the future when carbon emissions from maintenance exceed carbon sequestration by the forest varies by tree species and intensity of fossil fuel-based management (Nowak et al. 2002b).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังกินออกซิเจน และเป็นผลมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล ปริมาณออกซิเจนของบรรยากาศจะค่อย ๆ ลดลง ระหว่างปี 1989 และปี 1994 ปริมาณออกซิเจนในบรรยากาศลดลงเป็นอัตรา 2 ppm จาก 210,000 ppm (Broecker 1996) ประจำปี ดังนั้น ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการจัดการของป่าเมืองไม่เพียงแต่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ปริมาณการใช้ออกซิเจน ถ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างสม่ำเสมอใช้ในการรักษาป่าการเมือง ผลสุทธิของป่าและการบริหารจัดการจะมีปริมาณการผลิตและออกซิเจนคาร์บอนไดออกไซด์ จุดในอนาคตเมื่อปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการบำรุงรักษาเกินคาร์บอนอายัด โดยป่าแตกต่างกันตามชนิดของต้นไม้และความรุนแรงของเชื้อเพลิงฟอสซิลการบริหารจัดการ (โนวัก et al. 2002b)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังกินออกซิเจนและเป็นผลมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในปริมาณออกซิเจนในชั้นบรรยากาศจะค่อยๆลดลง ระหว่างปี 1989 และปี 1994 ปริมาณออกซิเจนในชั้นบรรยากาศลดลงในอัตราประจำปีของ 2 ppm จาก 210,000 ppm (Broecker 1996) ดังนั้นการลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการบริหารจัดการป่าไม้ในเมืองไม่เพียง แต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังบริโภคของออกซิเจน หากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีการใช้อย่างต่อเนื่องในการรักษาป่าเมืองผลสุทธิของป่าและการจัดการของมันจะถูกผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และการใช้ออกซิเจน จุดในอนาคตเมื่อมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการบำรุงรักษาเกินกักเก็บคาร์บอนจากป่าแตกต่างกันตามชนิดของต้นไม้และความรุนแรงของการจัดการเชื้อเพลิงฟอสซิล (โนวัก et al. 2002b)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังสิ้นเปลืองออกซิเจน และผลของการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล , ปริมาณออกซิเจนในชั้นบรรยากาศ จะค่อยๆ ลดลง ระหว่างปี 1989 และปี 1994 , ปริมาณออกซิเจนในบรรยากาศลดลงในอัตราปีละ 2 , 000 ส่วนในล้านส่วน ( ppm จาก broecker 1996 ) ดังนั้น การลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการจัดการป่าไม้ในเมืองไม่เพียง แต่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังมีปริมาณการใช้ออกซิเจน ถ้าใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาป่าเมือง ผลสุทธิของป่าไม้และการจัดการของมันจะถูกผลิต และการใช้ออกซิเจนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ . จุดในอนาคตเมื่อการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกินปริมาณการรักษาโดยป่าแตกต่างกันไปตามชนิดของต้นไม้และความเข้มของเชื้อเพลิงฟอสซิลการจัดการตาม ( โนวัค et al . 2002b )