Systematic and multiple studies (Ha

Systematic and multiple studies (Hackett, et all, 2010, Schnitzer, Andries, &Lebeer, 2007), have shown that learning disabilities are a complex problem and beyond the effects on the cognitive-learning sector, may adversely affect the emotional and social development of children. Students with learning difficulties feel emotional distress in accordance to particular difficulties. Generally, they tend to have more emotional problems, low self-esteem, depressive symptoms, feelings of loneliness, anxiety, aggression and present social withdrawal compared to peers who do not have learning difficulties (Casserly, 2013). The contribution of education in addressing social adjustment problems faced by children with learning disabilities is essential. The method of intervention that a child may follow (a child) in school or special education, must have the support and active participation of parents (Broomhead, 2014). In our study we intend to present evidence showing the importance of research in the teaching of social skills through a program adressed to a student with learning disabilities and behavioral problems. We will also investigate the relationship between behavioral problems and difficulties in writing. The methodology comprises quantitative and qualitative data. The tools for qualitative data collection are the observation (through informal educational assessment), the intervention (with the form of didactic interaction), the Individual Structured Integrative Program of Special Education and the semi-structured interview. The tools for quantitative data collection are the experiment, the questionnaire with close-type questions which was filled by 20 students and the questionnaire with Likert questions which was filled by 20 adults.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบบและการศึกษาหลาย (Hackett, et ทั้งหมด 2010, Schnitzer, Andries, & Lebeer, 2007), ได้แสดงว่า พิการทางการเรียนเป็นปัญหาที่ซับซ้อน และนอกเหนือจากผลกระทบในภาครับรู้เรียนรู้ อาจส่งผลกระทบการพัฒนาทางอารมณ์ และสังคมของเด็ก นักเรียนเรียนรู้ความยากลำบากรู้สึกอารมณ์ทุกข์ในปัญหาเฉพาะ ทั่วไป พวกเขามักจะมีปัญหาทางอารมณ์มากขึ้น ค่า depressive อาการ ความรู้สึกของความเหงา วิตกกังวล รุกราน และถอนสังคมปัจจุบันเปรียบเทียบกับเพื่อนที่ไม่ได้เรียนรู้ความยากลำบาก (Casserly, 2013) สัดส่วนของการศึกษาในการจัดการกับปัญหาการปรับตัวทางสังคมกับเด็กพิการทางการเรียนเป็นสิ่งจำเป็น วิธีการขัดจังหวะโดยให้เด็กตาม (เด็ก) ในโรงเรียนหรือการศึกษาพิเศษ ได้สนับสนุนและเข้าร่วมงานของพ่อแม่ (Broomhead, 2014) ในการศึกษาของเรา ที่เราตั้งใจนำเสนอหลักฐานที่แสดงความสำคัญของการวิจัยในการสอนทักษะทางสังคมผ่าน adressed โปรแกรมเพื่อนักเรียนพิการทางการเรียนและปัญหาพฤติกรรม นอกจากนี้เรายังจะตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาพฤติกรรมและปัญหาในการเขียน วิธีการประกอบด้วยข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจะสังเกต (ผ่านการประเมินอย่างไม่เป็นทางการศึกษา), แทรกแซง (มีแบบฟอร์มโต้ตอบพลวัต), ในแต่ละโครงสร้างแบบบูรณาการโปรแกรมของการศึกษาพิเศษ และการสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง เครื่องมือสำหรับเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณเป็นการทดลอง แบบสอบถาม ด้วยคำถามแบบปิดซึ่งมีการกรอกข้อมูลนักเรียน 20 และแบบสอบถาม ด้วยคำถาม Likert ซึ่งก็เต็มไป ด้วยผู้ใหญ่ 20

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระบบและการศึกษาหลาย ( แฮ็คเก็ตต์ , และ , 2010 , Schnitzer Andries , & lebeer , 2550 ) พบว่า ปัญหาทางการเรียนรู้เป็นปัญหาที่ซับซ้อนและนอกเหนือจากผลกระทบต่อภาคการเรียน การรับรู้ อาจส่งผลกระทบต่ออารมณ์และสังคมของเด็ก นักเรียนที่มีปัญหาในการเรียน รู้สึกอารมณ์ทุกข์ ตามปัญหาที่เฉพาะเจาะจง โดยทั่วไปพวกเขามักจะมีปัญหาทางอารมณ์มากกว่าต่ำความนับถือตนเอง , อาการซึมเศร้า ความรู้สึกของความเหงา ความวิตกกังวล ความก้าวร้าวและปลีกตัวจากสังคมปัจจุบัน เมื่อเทียบกับเพื่อนที่ไม่ได้มีปัญหาในการเรียน ( แคสเซอร์ลี่ , 2013 ) บทบาทของการศึกษาในการแก้ไขปัญหาการปรับตัวทางสังคม เด็ก ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้เป็นสิ่งที่จำเป็นวิธีของการแทรกแซงที่เด็กอาจทำตาม ( เด็ก ) ในโรงเรียน หรือการศึกษาพิเศษ ต้องมีการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง ( บรูมเฮด 2014 ) ในการศึกษาของเรา เราตั้งใจที่จะนำเสนอหลักฐานที่แสดงถึงความสำคัญของการวิจัยในการสอนทักษะทางสังคมผ่านโปรแกรม adressed กับนักเรียนที่มีปัญหาในการเรียนรู้และปัญหาพฤติกรรมเราก็จะศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัญหาพฤติกรรมและปัญหาในการเขียน วิธีการวิจัยประกอบด้วยข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพเป็นแบบ ( ผ่านการประเมินการศึกษานอกระบบ ) , การแทรกแซง ( กับรูปแบบของปฏิสัมพันธ์เชิงสั่งสอน )บุคคลแบบบูรณาการโปรแกรมการศึกษาพิเศษและแบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามชนิดทดลองปิดคำถามที่เต็มไปด้วยนักเรียน 20 คน และแบบสอบถาม คำถามที่ เต็ม ไป ด้วยคน ผู้ใหญ่ 20