Fig. 14 shows the performance compa

Fig. 14 shows the performance comparison between R32 and R410A with vapor injection. As seen from Fig. 14a, the capacity improvement comparing R32 to R410A was observed to be 2e7%, and COP improvement was observed to be 1e6%. However, there was no improvement at the extreme heating condition of "18 #C and extreme cooling condition of 46 #C. At the extreme heating condition, the capacity and COP degradation were observed to be 11% and 11%, respectively. At the extreme cooling condition, the capacity and COP degradation were observed to be 3% and 4%, respectively. The power consumption increase was observed to be 2e3%. Fig. 14b shows the total refrigerant mass flow rate comparison. It can be seen that the refrigerant mass flow reduction at the extreme conditions was quite significant. "41% was observed at the extreme heating condition, and "37% was observed at the extreme cooling conditions. As seen from Fig. 14c, the compressor discharge temperature using R32 was significantly higher than that of R410A. A maximum discharge temperature increase of 39 #C was noticed at the extreme heating condition of "18 #C.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป 14 แสดงการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง R32 และ R410A มีระบบฉีดไอน้ำยา เท่าที่เห็นจากรูป 14a ปรับปรุงกำลังการผลิตเปรียบเทียบ R32 กับ R410A ที่สังเกตจะเป็น 2e7% และปรับปรุงตำรวจถูกตรวจสอบจะเป็น 1e6% อย่างไรก็ตาม มีการปรับปรุงที่สุดร้อนของ "18 #C และระบายความร้อนของ 46 #C มาก ที่สุดสภาพเครื่องทำความร้อน การผลิตและการย่อยสลายตำรวจถูกสังเกตเป็น 11% และ 11% ตามลำดับ ในสภาพที่เย็นมาก การผลิตและการย่อยสลายตำรวจถูกสังเกตได้ 3% และ 4% ตามลำดับ การเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้พลังงานถูกตรวจสอบจะเป็น 2e3% รูป 14b แสดงการเปรียบเทียบอัตราการไหลเชิงมวลของสารทำความเย็นทั้งหมด จะเห็นได้ว่า การลดการไหลเชิงมวลของสารทำความเย็นที่สภาวะเป็นค่อนข้างสำคัญ "41% ถูกสังเกตที่สุดสภาพเครื่องทำความร้อน และ"37% ที่ สังเกตที่สุดเงื่อนไขการระบายความร้อน เห็นจากรูป 14 c อุณหภูมิจำหน่ายคอมเพรสเซอร์ใช้ R32 เป็นนัยสำคัญกว่าของ R410A การเพิ่มอุณหภูมิสูงสุดปล่อยของ 39 #C ถูก noticed ที่สุดร้อนของ "18 #C

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ. 14 แสดงให้เห็นถึงการเปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง R32 และ R410A ด้วยการฉีดไอ เท่าที่เห็นจากรูป 14A, การปรับปรุงความสามารถในการเปรียบเทียบเพื่อ R32 R410A เป็นข้อสังเกตที่จะ 2e7% และการปรับปรุง COP เป็นข้อสังเกตที่จะ 1e6% แต่มีการปรับปรุงสภาพที่ร้อนสุดขีดของ "18 รุ่น C ประเภทสิทธิและเงื่อนไขการระบายความร้อนที่รุนแรงจาก 46 รุ่น C ประเภทสิทธิไม่มี. ในสภาพที่ร้อนมากกำลังการผลิตและการย่อยสลาย COP ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็น 11% และ 11% ตามลำดับ. ที่ สภาพการระบายความร้อนที่มากความสามารถและ COP ที่ย่อยสลายถูกตั้งข้อสังเกตว่าจะเป็น 3% และ 4% ตามลำดับ. การเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานเป็นข้อสังเกตที่จะ 2e3%. รูป. 14b แสดงให้เห็นถึงการเปรียบเทียบอัตราการไหลของสารทำความเย็นมวลรวม. จะเห็นได้ว่า สารทำความเย็นลดการไหลของมวลในสภาวะที่รุนแรงเป็นอย่างมากเลยทีเดียว. "41% เป็นข้อสังเกตที่สภาพความร้อนที่รุนแรงและ" 37% เป็นข้อสังเกตที่เงื่อนไขการระบายความร้อนที่รุนแรง. เท่าที่เห็นจากรูป. 14C อุณหภูมิคอมเพรสเซอร์ปล่อยใช้ R32 อย่างมีนัยสำคัญ สูงกว่าที่ R410A. เพิ่มขึ้นอุณหภูมิปล่อยสูงสุด 39 #C ก็สังเกตเห็นที่สภาพความร้อนสุดขีดของ "18 รุ่น C ประเภทสิทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 14 แสดงการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างเชื้อและ R410A ด้วยฉีดไอน้ำ เท่าที่เห็นจากรูป 14A , ความจุการเปรียบเทียบเชื้อกับ R410A จะพบเป็น 2e7 % และปรับปรุงตำรวจจะพบเป็น 1e6 % แต่ไม่มีการปรับปรุงเงื่อนไขของความร้อนที่รุนแรง " 18 # C และ Extreme เย็นสภาพ 46 # C ที่สภาวะความร้อนรุนแรง ความสามารถในการย่อยสลายตำรวจพบได้ร้อยละ 11 และ 11 ตามลำดับ ที่สภาวะเย็นมาก , และความสามารถในการย่อยสลาย พบว่ามีตำรวจอยู่ที่ 3% และ 4% ตามลำดับ การใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นจะพบเป็น 2e3 % รูปที่ 14b แสดงทั้งหมดของสารทำความเย็นอัตราการไหลของมวลเปรียบเทียบ จะเห็นได้ว่า สารลดการไหลที่สภาวะที่รุนแรงค่อนข้างสำคัญ . 41 % พบว่า ที่สภาวะความร้อนที่รุนแรง และ " 37 % พบว่า ในเงื่อนไขที่เย็นมาก เท่าที่เห็นจากรูป 14c คอมเพรสเซอร์ที่ใช้เชื้ออุณหภูมิสูงกว่าของ R410A สูงสุดอุณหภูมิเพิ่มขึ้น 39 # C ได้สังเกตเห็นในสุดโต่งเงื่อนไขของความร้อน " 18 # C