Islam has clearly and categorically

Islam has clearly and categorically forbidden the primitive practice of capturing a free man,
to make him a slave or to sell him into slavery. On this point the clear and unequivocal words
of the Prophet (S) are as follows: "There are three categories of people against whom I shall
myself be a plaintiff on the Day of Judgement. Of these three, one is he who enslaves a free
man, then sells him and eats this money" (al-Bukhari and Ibn Majjah). The words of this
Tradition of the Prophet are also general, they have not been qualified or made applicable to
a particular nation, race, country or followers of a particular religion. The Europeans take
great pride in claiming that they abolished slavery from the world, though they had the
decency to do so only in the middle of the last century. Before this, these Western powers had
been raiding Africa on a very large scale, capturing their free men, putting them in bondage
and transporting them to their new colonies. The treatment which they have meted out to
these unfortunate people has been worse than the treatment given to animals. The books
written by the Western people themselves bear testimony to this fact.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อิสลามได้อย่างชัดเจน และ categorically ห้ามปฏิบัติดั้งเดิมของจับชายฟรี เพื่อให้เขาเป็นทาส หรือขายเป็นทาส นี้ชี้ชัดเจน และ unequivocal คำ ของผู้เผยพระวจนะ (S) จะเป็นดังนี้: "มี 3 ประเภทคือคนกับใครฉันจะ ตัวเองได้เป็นโจทก์ในวันตัดสิน ของทั้งสาม หนึ่งคือผู้ที่ enslaves ฟรี คน ขายเขา แล้วกินเงินนี้" (อัล-บุคอรีย์และ Majjah บิน) คำนี้ ประเพณีของผู้เผยพระวจนะมีทั่วไป จะได้ไม่มีคุณภาพ หรือทำการ เฉพาะประเทศ แข่งขัน ประเทศ หรือลูกศิษย์ของศาสนาใด มีชาวยุโรป ภูมิใจในอ้างว่า พวกเขายกเลิกทาสจากโลก แม้ว่าพวกเขามีการ แม้จะทำให้เฉพาะกลางศตวรรษสุดท้าย ก่อนนี้ อำนาจตะวันตกเหล่านี้ได้ การค้นแอฟริกาบนมาตราส่วนขนาดใหญ่ จับคนของพวกเขาฟรี วางพวกเขาในชาย และขนส่งให้กับอาณานิคมของตนใหม่ การรักษาที่จะได้ออกไป คนโชคร้ายเหล่านี้ได้แย่กว่าการรักษาที่ให้แก่สัตว์ หนังสือ เขียน โดยคนตะวันตกเองพยานหมีความจริง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศาสนาอิสลามได้อย่างชัดเจนและเด็ดขาดห้ามการปฏิบัติดั้งเดิมของการจับคนฟรี
ที่จะทำให้เขาเป็นทาสหรือขายไปเป็นทาส ในประเด็นนี้คำพูดที่ชัดเจนและชัดเจน
ของท่านศาสดา (S) มีดังนี้: "มีสามประเภทของผู้คนกับผู้ที่ฉันจะมี
ตัวเองเป็นโจทก์ในวันแห่งการพิพากษาของทั้งสามคนหนึ่งเขาเป็นที่ enslaves ฟรี.
ชายคนนั้นขายเขาและกินเงินนี้ "(อัลบุคอรีและอิบัน Majjah) คำนี้
ประเพณีของท่านศาสดานอกจากนี้ยังมีโดยทั่วไปพวกเขายังไม่ได้รับการรับรองหรือทำผลบังคับใช้กับ
ประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันของประเทศหรือสาวกของศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวยุโรปนำ
ความภาคภูมิใจในอ้างว่าพวกเขายกเลิกการเป็นทาสจากโลกแม้ว่าพวกเขาจะมี
ความเหมาะสมที่จะทำเฉพาะในช่วงกลางของศตวรรษที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้มหาอำนาจตะวันตกเหล่านี้ได้
รับการจู่โจมแอฟริกาในขนาดใหญ่มากจับผู้ชายฟรีของพวกเขาวางไว้ในความเป็นทาส
และการขนส่งไปยังอาณานิคมใหม่ของพวกเขา การรักษาที่พวกเขาได้กระจายออกไปยัง
คนที่โชคร้ายเหล่านี้ได้รับเลวร้ายยิ่งกว่าการรักษาให้กับสัตว์ หนังสือ
ที่เขียนโดยคนตะวันตกเองเป็นพยานถึงความจริงนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อิสลามได้ห้ามอย่างเด็ดขาดและการปฏิบัติดั้งเดิมของการจับผู้ชายฟรี
เพื่อให้เขาเป็นทาส หรือจะขายเขาเป็นทาส ในจุดนี้ชัดเจนและชัดเจนคำ
ของพระศาสดา ( S ) มีดังนี้ : " มี สามประเภทของคน กับผู้ที่ฉันจะ
ตัวเองเป็นโจทก์ในวันแห่งการพิพากษา ของทั้งสาม คือ ผู้ที่ enslaves อิสระ
,แล้วขายมันและกินเงิน " ( อัลบุคอรี และบน majjah ) คำพูดนี้
ประเพณีของศาสดายังทั่วไป พวกเขายังไม่ได้รับที่เหมาะสม หรือทำให้สามารถใช้ได้กับ
ชาติ โดยเฉพาะการแข่งขัน ประเทศ หรือผู้ติดตามของศาสนาโดยเฉพาะ ชาวยุโรปใช้
ภูมิใจมากในการอ้างว่า พวกเขา ประกาศเลิกทาส จากโลก แม้ว่าพวกเขามี
ช่วยทำ ดังนั้นในช่วงกลางของศตวรรษที่ ก่อนนี้ มหาอำนาจตะวันตกเหล่านี้ได้
ถูกจู่โจมแอฟริกาในขนาดใหญ่มาก จับคนฟรี , ใส่ไว้ในความเป็นทาส
และการขนส่งพวกเขาอาณานิคมใหม่ของพวกเขา การรักษาที่พวกเขามี meted ออก

ผู้ที่โชคร้ายเหล่านี้ได้รับมากกว่าการรักษาสัตว์
หนังสือเขียนโดยชาวตะวันตกเอง แบกเป็นพยานถึงความจริงนี้