After 17 years restoration Prasat P

After 17 years restoration Prasat Phanom Rung was finally re-built from ruins in 1988. The name was changed to Phanom Rung Historical Park and the traditional annual lunar festival was changed to a solar and fixed to a date in the beginning of April, when the rays of the rising sun penetrates the 15 doorways of the sanctuary. The old festival followed the full moon in April which falls on different dates in succeeding years, but the solar event fall on the same date in the beginning of April – some years differing 1 day.

The reason for this change was probably due to that an archaeologist observed the sun rise through the doors of the temple during the restoration of the temple. This should not have surprised anybody: With a few exceptions all Khmer temples are orientated so that the rays of the rising sun enter the eastern doors on two occasions a’ year. Prasat Phanom Rung only differs from other temples in Isan on two matters: 1: The sanctuary has western doors as well, thus allowing the rays of the sun to penetrate the construction when the (not re-constructed) wooden doors were opened. 2: The temple is beautifully located of a mountain top.

Until 2004 only one solar event was taken into consideration: The sunrise in April. Actually there are four solar events; the other three are a sunrise in September and two sunsets in March and October as described in an article by the author in Bangkok Post, March 2000, after an observation of the sunset through all 15 doorways the 7th of March 2000: New Light on an Ancient Site.

The article did not change the annual festival until 3 years after, when the author invited the director of Phanom Rung Historical Park, Nongkram Suksom, to watch the sunset in March 2003. Next day the governor of Buriram province was present and luckily the sun broke through the clouds just before reaching the horizon. This impressed the governor to an extend that the month from the sunset in March 2004 to the sunrise in April was declared for ''The Holy month of Prasat Phanom Rung'' and rituals were preformed at both occasions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังจาก 17 ปี บูรณะปราสาทพนมรุ้งได้ในที่สุดสร้างขึ้นใหม่จากซากปรักหักพังในปี 1988 เปลี่ยนชื่อเป็นพนมรุ้งอุทยานประวัติศาสตร์ และโบราณจันทรคติเทศกาลถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงอาทิตย์และเป็นวันที่ในต้นเดือนเมษายน เมื่อรังสีของดวงอาทิตย์ขึ้นซึมประตู 15 ที่เงียบสงบ เทศกาลเก่าตามพระจันทร์เต็มดวงในเดือนเมษายนตรงกับวันที่แตกต่างกันในปีที่ประสบความสำเร็จ แต่เหตุการณ์อาทิตย์ตกในวันเดียวกันในต้นเดือนเมษายน – บางปีที่แตกต่างกัน 1 วัน เหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อาจจะเนื่องจากว่า นักโบราณคดีการสังเกตพระอาทิตย์ขึ้นผ่านประตูของวัดในการวัด นี้ควรไม่มีแปลกใจใคร: พร้อม วัดเขมรทั้งหมดจะแปลงเพื่อให้รังสีของดวงใส่ประตูตะวันออกครั้งที่สองเป็น ' ปี ปราสาทพนมรุ้งเท่านั้นแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในภาคอีสานในเรื่องที่สอง: 1: วิหารมีประตูตะวันตกเช่นกัน ให้รังสีของดวงอาทิตย์ในการเจาะการก่อสร้างเมื่อเปิดประตูไม้ (ไม่ใหม่สร้าง) 2: วัดอยู่อย่างสวยงามของยอดเขา จนถึงพ.ศ. 2547 เหตุการณ์เดียวเท่านั้นพลังงานแสงอาทิตย์นำมาพิจารณา: พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายนนี้ จริง ๆ มีสี่อาทิตย์เหตุการณ์ อื่น ๆ ที่สามเป็นพระอาทิตย์ขึ้นในเดือนกันยายนและอาทิตย์สองในเดือนมีนาคมและตุลาคมตามที่อธิบายไว้ในบทความโดยผู้เขียนในไทยโพสต์ 2543 มีนาคม หลังจากการสังเกตพระอาทิตย์ผ่านประตู 15 ทั้งหมดวันที่ 7 2000 มีนาคม: แสงใหม่บนไซต์โบราณ บทความไม่ได้เปลี่ยนเทศกาลจนถึง 3 ปีหลังจาก เมื่อผู้เขียนได้รับเชิญผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง Nongkram Suksom ชมพระอาทิตย์ตกดินมีนาคม 2003 วันถัดไปผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เป็นอยู่ และโชคดีดวงอาทิตย์อัสดงลอดผ่านเมฆก่อนถึงขอบฟ้า นี้ประทับใจกับผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อการขยายที่ถูกประกาศเดือนจากพระอาทิตย์ตกใน 2547 มีนาคมที่พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายนสำหรับ ''เดือนศักดิ์สิทธิ์ของปราสาทพนมรุ้ง '' และพิธีกรรมถูก preformed ที่ทั้งโอกาส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลังจากที่ถูกที่สุดที่สร้างขึ้นใหม่จากซากปรักหักพังในปี 1988 17 ปีการบูรณะปราสาทพนมรุ้งเป็นชื่อที่เปลี่ยนไปพนมรุ้งอุทยานประวัติศาสตร์และเทศกาลจันทรคติแบบดั้งเดิมประจำปีได้เปลี่ยนไปเป็นพลังงานแสงอาทิตย์และคงเป็นวันที่ในช่วงต้นเดือนเมษายนเมื่อ รังสีของดวงอาทิตย์ขึ้นแทรกซึม 15 ประตูของวิหาร เทศกาลเก่าตามพระจันทร์เต็มดวงในเดือนเมษายนซึ่งตรงกับวันที่แตกต่างกันในการประสบความสำเร็จปี แต่ฤดูใบไม้ร่วงเหตุการณ์พลังงานแสงอาทิตย์ในวันเดียวกันในช่วงต้นเดือนเมษายน - บางปีที่แตกต่างกัน 1 วัน

เหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเป็นเพราะที่นักโบราณคดีสังเกตเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นผ่านประตูของวัดในระหว่างการบูรณะพระวิหาร นี้ไม่ควรจะมีใครแปลกใจ: มีไม่กี่ข้อยกเว้นทั้งหมดวัดเขมรมีการปรับเพื่อให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นเข้าสู่ประตูภาคตะวันออกครั้งที่สองว่า 'ปี ปราสาทพนมรุ้งเพียงแตกต่างจากวัดอื่น ๆ ในภาคอีสานทั้งสองเรื่อง: 1: วิหารมีประตูทางทิศตะวันตกเป็นอย่างดีจึงทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่จะเจาะก่อสร้างเมื่อ (ไม่ re-สร้าง) ประตูไม้ถูกเปิด 2: วัดตั้งอยู่อย่างสวยงามบนภูเขา

จนถึงปี 2004 เท่านั้นเหตุการณ์แสงอาทิตย์หนึ่งถูกนำเข้าสู่การพิจารณา: พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายน ที่จริงมีสี่เหตุการณ์แสงอาทิตย์ อีกสามคนที่มีพระอาทิตย์ขึ้นในเดือนกันยายนและสองดวงอาทิตย์ตกในเดือนมีนาคมและเดือนตุลาคมตามที่อธิบายไว้ในบทความที่เขียนโดยในบางกอกโพสต์, เดือนมีนาคม 2000 หลังจากการสังเกตของพระอาทิตย์ตกผ่านทั้งหมด 15 ประตู 7 มีนาคม 2000 ดังนี้ไฟใหม่บน โบราณสถาน

บทความนี้ไม่ได้เปลี่ยนงานเทศกาลประจำปีจนถึง 3 ปีหลังจากที่เมื่อผู้เขียนได้รับเชิญผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง, Nongkram Suksom, การชมพระอาทิตย์ตกในเดือนมีนาคมปี 2003 ในวันถัดไปผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เป็นปัจจุบันและโชคดีที่ดวงอาทิตย์ยากจน ผ่านเมฆเพียงก่อนที่จะถึงเส้นขอบฟ้า นี้สร้างความประทับใจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังขยายเดือนจากพระอาทิตย์ตกมีนาคม 2004 พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายนที่ถูกประกาศให้ '' เดือนศักดิ์สิทธิ์ของปราสาทพนมรุ้ง '' และพิธีกรรมถูก preformed ที่ทั้งสองครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลังจาก 17 ปีฟื้นฟูปราสาทเขาพนมรุ้งก็ถูกสร้างจากซากปรักหักพังใน 1988 เปลี่ยนชื่อเป็น อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และแบบจันทรคติ เป็นเทศกาลประจำปีที่เปลี่ยนเป็นพลังงานแสงอาทิตย์และการแก้ไขวันที่ในต้นเดือนเมษายน เมื่อรังสีของดวงอาทิตย์ที่ทะลุ 15 ประตูของวิหาร งานเก่าตามดวงจันทร์เต็มในเดือนเมษายนซึ่งตรงกับวันที่แตกต่างกันใน succeeding ปี แต่แสงอาทิตย์เหตุการณ์ตก ในวันเดียวกัน ในช่วงต้นเดือนเมษายน – บางปีต่างกัน 1 วันเหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้อาจเนื่องจากว่า นักโบราณคดีพบพระอาทิตย์ขึ้นผ่านประตูวัดในระหว่างการบูรณะวิหาร นี้ไม่ควรแปลกใจใคร มีข้อยกเว้นบางวัดเขมรทั้งหมดเป็นนิสัยเพื่อให้รังสีของดวงอาทิตย์เข้าสู่ประตูตะวันออก 2 ครั้ง ของปี ปราสาทเขาพนมรุ้งเพียงแตกต่างจากวัดอื่น ๆในอีสานสองสำคัญ : 1 : วิหารที่มีประตูตะวันตกเช่นกัน ทำให้รังสีของดวงอาทิตย์ที่จะเจาะก่อสร้าง ( ไม่แน่ใจสร้าง ) เมื่อประตูไม้ถูกเปิดออก 2 : วัดตั้งอยู่อย่างสวยงามของบนภูเขาจนกระทั่ง 2004 เพียงหนึ่งอาทิตย์ งานพิจารณา : พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายน ที่จริงมีอยู่สี่เหตุการณ์พลังงานแสงอาทิตย์ ; อื่น ๆ สาม พระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกในวันที่สองในเดือนมีนาคมและตุลาคม ตามที่อธิบายไว้ในบทความที่เขียนโดยในบางกอกโพสต์ เดือนมีนาคม 2543 หลังจากการสังเกตดวงอาทิตย์ผ่านทั้งหมด 15 ประตู 7 มีนาคม 2543 : Light ใหม่บนไซต์โบราณบทความไม่ได้เปลี่ยนเทศกาลประจำปี จนถึง 3 ปี หลังจากที่ เมื่อผู้เขียนเชิญผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง , suksom nongkram เพื่อชมพระอาทิตย์ตกในเดือนมีนาคม 2003 วันต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นปัจจุบัน และโชคดีที่ดวงอาทิตย์ยากจนผ่านเมฆก่อนถึงขอบฟ้า นี้ประทับใจเจ้าเมืองเพื่อขยายที่เดือนจากดวงอาทิตย์ในเดือนมีนาคม 2547 พระอาทิตย์ขึ้นในเดือนเมษายนเป็นเดือนศักดิ์สิทธิ์ประกาศสำหรับ ' ' ปราสาทเขาพนมรุ้ง ' ' และพิธีกรรมที่ถูก preformed ทั้งสองครั้ง